Link Copied!

เปลี่ยนมุมมอง สร้างตำนาน – ข้อคิดจากแชมป์แรกของชิคาโก บูลส์ ตอนที่ 1

 เปลี่ยนมุมมอง สร้างตำนาน – ข้อคิดจากแชมป์แรกของชิคาโก บูลส์ ทีมบาสเกตบอลที่ในการแข่งขันลีก NBA  ตอนที่  1

ไมเคิล จอร์แดน ถูกดราฟต์เข้าสู่ลีกด้วยความคาดหวังในระดับ “ผู้เล่นแฟรนไชส์” ผู้เล่นที่เชื่อกันว่าจะเข้ามาเปลี่ยนอนาคตของทีม เปลี่ยนเจ้ากระทิง ชิคาโก บูลส์ จากทีมไม้ประดับไปสู่ทีมลุ้นแชมป์แต่กลับกลายเป็นว่าผู้เล่นที่ยิงลูกพิชิตชัยในเกมชิงแชมป์แห่งชาติระดับมหาวิทยาลัย นักกีฬาบาสเกตบอลเหรียญทองโอลิมปิก ต้องใช้เวลาถึง 7 ฤดูกาล กว่าจะได้แชมป์แรก

อะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้จอร์แดนก้าวข้ามกำแพงแห่งความล้มเหลว เปลี่ยนหยาดเหงื่อของผู้แพ้ไปเป็นน้ำตาของผู้ชนะ เปลี่ยนทีมที่เป็นลูกไล่คนอื่นให้เป็นทีมระดับตำนาน และเปลี่ยนตนเองไปเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เกมยัดห่วง

🏀

บาสเกตบอล NBA ในทศวรรษ 80 อุดมไปด้วยผู้เล่นระดับตำนานมากมาย ที่คอยเป็นขวากหนามขัดแข้งขัดขาจอร์แดนไม่ให้เถลิงแชมป์ แต่ถ้าสู้กันตัวต่อตัว จอร์แดนไม่เคยพ่ายต่อใคร เขาสร้างสถิติแต้มเพลย์ออฟสูงสุดตลอดกาล 63 แต้มในเกมที่มี แลร์รี เบิร์ด ของบอสตัน เซลติกส์ เป็นตัวประกบ พิสูจน์ให้ จูเลียส เออร์วิง และ ชาร์ลส์ บาร์คลีย์ แห่งฟิลาเดลเฟียได้ประจักษ์ว่าไม่มีใครสามารถการ์ดเขาได้ เขาดั๊งก์ใส่หน้าเซ็นเตอร์ชั้นนำหลายคน และถ้ามีนักวิจารณ์เกมหน้าไหนก็ตามที่ตั้งคำถามว่าจอร์แดนด้อยกว่าผู้เล่นคนอื่นในด้านไหน เขาจะพิสูจน์ให้เห็นในเกมถัดไปที่เจอกับผู้เล่นคนนั้นทันที

ในช่วงระยะเวลา 7 ปีตั้งแต่เข้าลีกมา ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความสำเร็จส่วนตัวของจอร์แดน แต่ในช่วงเวลาเดียวกันก็ไม่มีใครเห็นความสำเร็จของทีมชิคาโก บูลส์เลย สูงสุดที่ทีมก้าวไปได้คือรอบชิงแชมป์สายตะวันออก

สถานะของจอร์แดนในลีกจึงกลายเป็น “ราชันย์ผู้ไร้มงกุฎ”

🏀

“ดีใจด้วยไมค์ นายนำทีมเรากลับมาชนะได้ นายมีเกมที่เจ๋งมาก!!” ฟิล แจ็คสัน ผู้ช่วยหัวหน้าโค้ชบูลส์ พูดกับผู้เล่นมือหนึ่ง หลังเกมที่บูลส์พลิกกลับมาชนะอย่างไม่น่าเชื่อ

“เยส!! แต่ผมเหนื่อยเป็นบ้าเลยฟิล เดี๋ยวต้องไปจัดซิการ์ดีๆ สักมวน” จอร์แดนตอบอย่างอารมณ์ดี

“แต่นายว่ามั้ยไมค์ นักกีฬาคนหนึ่งสามารถชนะเกมได้ แต่คงต้องใช้ทีมมั้งถึงจะเป็นแชมป์ได้” ฟิลพูดลอยๆ เปลี่ยนเรื่อง

“มีอะไรที่ผมทำผิดเหรอฟิล?” จอร์แดนขมวดคิ้ว

“เปล่าเลย นายทำทุกอย่างที่นายต้องทำในเกมคืนนี้แล้วล่ะ…เรื่องที่ผมพูดฝากไว้คิดตอนนายดื่มด่ำกับคิวบันซิการ์แล้วกันนะ ราตรีสวัสดิ์” ฟิลพูดพร้อมเดินจากไป

🏀

ถ้าจะถามนักบาสและสตาฟโค้ชของบูลส์ในช่วงนั้น ว่าทีมไหนเป็นอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันเพื่อไปถึงแชมป์ เกือบทุกคนต้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ทีมนั้นคือ เดอะแบดบอยส์ ดีทรอยต์ พิสตันส์ เจ้าของแชมป์ปี 1989 และ 1990 ทีมที่มีผู้เล่นชั้นเยี่ยมหลายคน ไม่ว่าจะเป็นยอดนักสู้ ไอเซห์ โธมัส การ์ดจ่ายไอคิวสูงแบบ โจ ดูมาร์ส เซ็นเตอร์ขาโหด บิล แลมเบียร์ สุดยอดรีบาวเดอร์ เดนนิส ร็อดแมน และการ์ดยิงบอลแบบ วินนี เดอะ ไมโครเวฟ แถมทีมยังเล่นกันมานาน สนิทสนมกลมเกลียว ไม่มีใครถือตัวเป็นซูเปอร์สตาร์ จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาได้ชูโทรฟี แลร์รี โอ ไบรอัน ถึง 2 ปีติดกัน

แต่ที่มาของฉายา เดอะแบดบอยส์ นั้นมาจากสไตล์การเล่นที่หนักหน่วง ป้องกันจริงเจ็บจริง เรียกว่ายอมเจ็บตัวดีกว่าเสียแต้ม ทำฟาวล์แต่ละครั้งก็ต้องให้คู่แข่งหลาบจำว่าอย่าแหลมเข้ามาอีก พวกเขาเล่นภายใต้การโค้ชของสุดยอดปรมาจารย์แห่งยุค ชัค เดลีย์ ผู้มีชื่อเสียงเรื่องการพัฒนานักกีฬาบนพื้นฐานตัวตนของคนคนนั้น

ผู้เล่นดีทรอยต์หลายคนมีต้นทุนชีวิตต่ำ โตขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมไม่ดี เกกมะเหรกเกเร บางคนก็มีปัญหาสภาพจิตใจไม่มั่นคง มีปัญหายาเสพติด แต่ชัคก็เอาทุกคนอยู่ เป็นทั้งโค้ช เป็นทั้งพี่ เป็นทั้งเพื่อน บางทีก็เป็นพ่อ สร้างทีมจากนักกีฬาที่หลายทีมเบือนหน้าหนีจนเป็นแชมป์

ด้วยความสามารถการอ่านคน เข้าใจคน สร้างคนของโค้ชชัค เขาจึงได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าโค้ชดรีมทีมชุดแรก ทีมที่ประกอบด้วย เมจิก จอห์นสัน, แลร์รี เบิร์ด, ไมเคิล จอร์แดน, แพทริก อีวิง, คาร์ล มาโลน, ชาร์ลส์ บาร์คลีย์ และตำนานอีก 5 คนที่ทุกคนมีชื่ออยู่ในหอเกียรติยศ เสริมด้วยอีกหนึ่งผู้เล่นยอดเยี่ยมระดับมหาวิทยาลัย

“มีแต่ชัคเท่านั้นครับ ที่จะหลอมรวมผู้เล่นระดับสุดยอดกลุ่มนี้ให้เล่นร่วมกันและนำเหรียญทองกลับบ้านมาให้เรา” ประธานสมาคมบาสเกตบอลสหรัฐอเมริกา อธิบายต่อสื่อถึงความไว้วางใจที่มอบให้โค้ชชัคนำทีมบาสเกตบอลชายในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1992

ครับ…ผู้ที่ยืนอยู่ตรงกลางระหว่าง จอร์แดนและแชมป์แรกของเขา ก็คือ เดอะแบดบอยส์และโค้ชชัคนั่นเอง…

🏀

จอร์แดนและบูลส์เจอกับพิสตันส์ในเพลย์ออฟครั้งแรกในปี 1988 ในรอบรองชนะเลิศสายตะวันออกซึ่งเดอะแบดบอยส์ พิสตันส์ ก็หยุดฝันของจอร์แดนไว้เพียงเท่านั้น ด้วยการถล่มบูลส์ไป 4-1 เกม โดยใน 5 เกมที่แข่งกันจอร์แดนทำแต้มสูงสุดไป 4 เกม

ปีนั้นบูลส์ได้ดราฟต์ ฮอเรซ แกรนท์ และเทรดตัว สกอตตี พิพเพน ในวันดราฟต์มาเสริมทีม แต่หลังจบฤดูกาล ชาร์ลส์ โอ๊คลีย์ ผู้เล่นที่จอร์แดนสนิทสนมด้วยมากที่สุดคนหนึ่งก็ถูกเทรดออกไป…

ปีถัดมา ทั้งสองทีมเจอกันอีกในรอบชิงชนะเลิศสายตะวันออก ในปีนั้นเป็นปีที่จอร์แดนยิง เดอะ ช็อต ลูกยิงในตำนาน ใส่คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ในเกมตัดสินเพลย์ออฟรอบแรก และในรอบถัดมาจอร์แดนก็พาบูลส์ถล่มนิวยอร์ก นิกส์ไปอีกในรอบรองชนะเลิศสายตะวันออก 4-2 เกม ทะลุเข้าเจอพิสตันส์ในรอบชิงแชมป์สายตะวันออก
“อัดมันให้หนัก เดี๋ยวไมค์มันก็จะไดร์ฟเข้ามาวงในอีก ฟาวล์ให้ขาดอย่าให้ได้ยิงหลังจากที่ฟาวล์แล้ว” บิล แลมเบียร์ กัปตันทีมเดอะแบดบอยส์ ตะโกนบอกเพื่อนร่วมทีมระหว่างขอเวลานอก

“ส่วนไอ้สกอตตีเด็กปีสอง ก็อย่าประมาท หวดลงไปกองสักทีจะได้ไม่กล้าเล่น” ริค มาฮอร์น ขาโหดอีกคนเสริม

“ใช่ พวกนายไม่ควรประมาทสกอตตี เพราะมันเล่นได้ แผนเราคือดับเบิล ทริปเปิลทีมไมค์ อย่าให้ทำแต้มได้ 46 แต้มอีก เกมสามคือเกมสุดท้ายที่เราจะแพ้” ชัค เดลีย์ ย้ำลูกทีมระหว่างเกม 4

ฤดูกาล 1988-89 ของบูลส์จบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อพิสตันส์ 4-2 เกม แม้จะเอาชนะพิสตันส์ได้เพิ่มขึ้น 1 เกม และผ่านเข้ารอบชิงแชมป์สาย แต่โค้ช ดั๊ก คอลลินส์ ผู้ที่จอร์แดนเคารพรัก ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งเหตุการณ์นี้กระทบจิตใจของจอร์แดนมาก เพราะเขารู้ดีว่าทีมไหนๆ ก็ตามที่ได้ผู้เล่นระดับเขาเข้าสู่ทีม ฝ่ายบริหารและเจ้าของทีมก็ย่อมคาดหวังความสำเร็จ เมื่อยังควานหาแชมป์ไม่เจอ คนที่ต้องถูกเปลี่ยนออกจากสมการสร้างทีมคนแรกก็คือหัวหน้าโค้ช

“ไมค์…พักเยอะๆ ช่วงปิดฤดูกาลนะ ผมเข้าใจความรู้สึกคุณ และผมชื่นชมคุณด้วย ความรู้สึกที่ไม่ดีที่กำลังเกิดขึ้นในใจคุณ เป็นเพราะคุณรู้สึกรับผิดชอบต่อการจากไปของดั๊ก…คุณเติบโตขึ้นนะไมค์” ฟิล แจ็คสัน พูดปลอบใจจอร์แดนก่อนที่ทั้งคู่จะแยกย้ายกันไปตามวิถีของคนที่ฤดูกาลจบลงเร็วกว่าที่ตั้งใจ

หลังจากนั้นไม่นาน ฟิล แจ็คสัน ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้ช่วยหัวหน้าโค้ชไปเป็นหัวหน้าโค้ชของชิคาโก บูลส์ ในฤดูกาล 1989-90 ต่อจาก ดั๊ก คอลลินส์

🏀

แผนการเล่นของพิสตันส์เรียบง่าย เล่นเกมบุกตามแผนที่ถนัด เล่นเกมรับโดยเน้นทำลายแผนบุกของบูลส์ ซึ่งในเวลานั้นเน้นการทำเกมบุกผ่านจอร์แดนเพียงคนเดียว

“นักกีฬาแบบไมเคิล เป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อยู่แล้ว คุณดูประวัติเขาสิ เขาพาทั้งทีมมหาวิทยาลัยและทีมชาติชุดโอลิมปิกคว้าแชมป์ แถมพอเข้าลีกก็ใช้เวลาแค่ 2 ปี ก็คว้าแชมป์ทำแต้มได้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหยุดเขา เพราะเขาชอบความท้าทาย ยิ่งคุณจัดเกมรับใส่เขาเท่าไหร่ เขาจะยิ่งอยากถล่มเกมรับคุณมากขึ้นเท่านั้น บางคืนที่เป็นเกมของเขานะคุณ พอไมเคิลขึ้นยิงแต่ละที ผมได้แต่ภาวนาให้เขาพลาดเอง” ชัค เดลีย์ กล่าวชื่นชมจอร์แดนผ่านการให้สัมภาษณ์นักข่าวหลังเกม

“…แต่ก็ไม่ยากที่จะหยุดเขา เกมรับของพิสตันส์ไม่ใช่เกมหนักที่ไม่มีความหมาย มันทดสอบทั้งร่างกายและจิตใจคุณ เราเล่นหนักในเกมแต่หลายครั้งก็ทำให้คู่แข่งมีอารมณ์โกรธ คนที่โมโหส่วนใหญ่ก็มุมมองแคบนะคุณ โดนดับเบิลทีมก็หาเพื่อนที่ว่างไม่เจอ แถมยังไม่มีสติอีก แผนอะไรที่โค้ชเรียกมานี่ลืมไปหมด แล้วก็แข่งโดยใช้อารมณ์…ไม่มีทางที่จะทำผลงานได้ดีหรอก ที่ผ่านมาเราหยุดไมเคิลด้วยแนวคิดแบบนี้ล่ะ” ชัคเล่าต่อ

“นี่แปลว่าคุณมั่นใจว่าไมเคิลและบูลส์ไม่มีวันเอาชนะพิสตันส์ได้เลยใช่มั้ยครับ” นักข่าวยกมือถาม

“พูดแบบนั้นก็จะเป็นการไม่ให้เกียรติไมเคิลและบูลส์นะครับ ผมไม่ได้ต้องการสื่ออย่างนั้น ผมเพียงแต่จะบอกว่า ถ้าไมเคิลยังคิดจะเอาชนะเด็กๆ ของผมด้วยตัวเขาเอง ก็คงต้องใช้เวลาอีกนานทีเดียวครับ” ชัคทิ้งท้ายด้วยการตอบนักข่าวก่อนลุกเดินออกจากโต๊ะสัมภาษณ์

🏀

“ไมค์ มานั่งดูเกมรอบชิงแชมป์สายปีที่แล้วกันหน่อยมั้ย?” ฟิลเอ่ยปากถาม

“ได้สิฟิล คุณตั้งใจจะทรมานผมต่อจากการซ้อมหฤโหดเหรอ!!” จอร์แดนกระเซ้าแต่ก็เดินตามเข้าห้องที่ทีมบูลส์ใช้ดูเทปการแข่งขัน

“นี่มันเกม 4 นี่ครับ ผมทำไป 46 แต้ม ผมจำได้ยังสะใจอยู่เลย” จอร์แดนเงยหน้าถามฟิล

“ใช่ไมค์ และมันเป็นเกมสุดท้ายที่เราชนะในฤดูกาลที่แล้ว….” ฟิลตอบพร้อมถอนหายใจ“ดูลูกนี้สิไมค์ นายโดยจับสามเลย…” ฟิลชี้ภาพในเทป

“ใช่ แต่ผมยิงลงนะฟิล…” จอร์แดนเปรยแกมสงสัย

“ตอนที่นายโดนจับสามน่ะ สกอตตีกับโฮเรซอยู่ไหน แล้วจอห์น (แพ็กซ์สัน) ล่ะ…” ฟิลถาม

“โฮเรซอยู่ใต้แป้นไงครับ คงรอรีบาวด์ถ้าผมยิงไม่ลง ส่วนสกอตตีรออยู่แถวเส้นโทษ ไม่มีคนประกบเลย ผมบอกเขาแล้วว่าอย่าไปตัดผมทรงนั้นไม่มีคนคบหรอก…” จอร์แดนพูดติดตลก

“ส่วนจอห์น ว่างแถวเส้นสามแต้ม ตัวประกบจอห์นก็หันมามองผมขึ้นยิง….” จอร์แดนเสียงค่อยลง

“ที่จะบอกนะไมค์ ทั้งโฮเรซ สกอตตี และจอห์น อยู่ในตำแหน่งที่จะยิงลงได้ง่ายกว่า แต่นายไม่เห็นเขาเลย ไม่คิดแม้แต่จะผ่านบอลให้…” ฟิลถามพร้อมเลิกคิ้ว ตาจ้องเขม็งรอคำตอบ

“ฟิล….คุณพูดกับผมหลายครั้งแล้ว ผมก็บอกคุณแล้วว่าผมมั่นใจในตัวเองว่าจะยิงลงมากกว่า นี่ไง!! ลูกนี่ก็เป็นตัวอย่าง ลงแบบไม่มีติดห่วงเลย!!!” จอร์แดนขึ้นเสียง

“ไมค์ ผมไม่รู้ว่าคุณเชื่ออย่างนั้นบนพื้นฐานความคิดอะไร แต่ผมจะบอกให้นะ ทั้งโฮเรซและจอห์นมีเปอร์เซ็นต์ยิงลงสูงกว่านายนะ ยิ่งเปอร์เซ็นต์ยิง 3 แต้มของจอห์น นายคงไม่อยากจะเห็นหรอกว่าดีกว่านายแค่ไหน” ฟิลตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

Read More

ไม่มีความเท็จในสถิติ

“แล้วจะให้ผมทำไง ตั้งหน้าตั้งตาผ่านบอลให้คนที่ผมไม่เชื่อใจงั้นเหรอ?” จอร์แดนมองหน้าฟิล แววตาต้องการคำตอบ

“นายไม่ต้องบังคับใจตัวเองให้เชื่อใจคนที่นายไม่อยากจะเชื่อใจหรอก ที่ผมจะแนะนำคือ กลับไปดูสถิติการแข่งขันปีที่แล้ว และปีก่อนหน้านั้นตอนเจอกับพิสตันส์ แล้วอีกสัปดาห์นึงกลับมาคุยกัน แต่ที่จะให้ดูน่ะ ไม่ใช่สถิติของนายนะ อยากให้ดูของเพื่อนร่วมทีมคนอื่น…”

🏀

“ฟิล ซ้อมเสร็จแล้วผมขอคุยด้วยหน่อยสิครับ” จอร์แดนรีบวิ่งมาถามก่อนที่ทุกคนจะเลิกซ้อม

“ทำไมเหรอ นี่มันยังไม่ถึงสัปดาห์นึงเลยนี่” ฟิลเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ

“ผมดูมาหมดแล้ว สถิติที่คุณบอกให้ผมดูน่ะ แถมผมดูย้อนไปเกมฤดูกาลปกติด้วย ผมอยากเล่าให้ฟัง” จอร์แดนยืนกรานด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“เอาสิ มาดูกัน…” ฟิลยิ้มมุมปาก ก่อนแยกตัวไป

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

Total
0
Shares