ในเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปเอาชนะลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ 0-3 ประตู มีสองเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คือ 100 ประตูของ โม ซาลาห์ และจังหวะบาดเจ็บของ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ โดยเหตุการณ์หลังส่งผลกระทบกับผู้เล่นทุกคนในสนาม เราได้เห็นจังหวะของเกมที่เปลี่ยนไป เจอร์เกน คล็อปป์ ถึงกับต้องกลั้นอารมณ์ในระหว่างที่ให้สัมภาษณ์หลังเกม
ปฏิกิริยาของแฟนบอลส่วนใหญ่ที่เห็นดาวเตะวัย 18 ปีได้รับบาดเจ็บรุนแรงเป็นไปในทางให้กำลังใจ รวมทั้งนักฟุตบอลอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่ก็มีแฟนบอลบางส่วนแสดงความไม่พอใจ เริ่มจากแฟนบอลของยูงทองกลุ่มน้อยในสนามที่ร้องเพลง Always a victims ซึ่งเป็นเพลงที่อ้างอิงถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโรที่แฟนบอลลิเวอร์พูลเสียชีวิต และเดอะค็อปออกมาเรียกร้องถึงความยุติธรรมในเหตุการณ์ดังกล่าว แฟนบอลทีมอื่นนำมาล้อว่า เดอะค็อปชอบทำตัวเป็นเหยื่อหรือเป็นผู้ถูกกระทำตลอดเวลา
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แฟนบอลบางส่วนแสดงความดีใจที่เห็น ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ได้รับบาดเจ็บ ต้องย้อนกลับไปในปี 2019 ตอนนั้นเอลเลียตต์ในวัย 16 ปีถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษแบน 14 วัน พร้อมทั้งถูกส่งไปอบรมและปรับเงินอีก 350 ปอนด์ เพราะมีภาพวิดีโอของเอลเลียตต์แสดงท่าทางล้อเลียน แฮร์รี เคน กองหน้าสเปอร์สหลุดออกมา
ในวิดีโอเอลเลียตต์เรียกเคนว่า Mong หรือแปลว่า คนปัญญาอ่อน ไม่เท่านั้นยังมีกรณีภาพแชทระหว่างเอลเลียตต์กับคุณแม่ของเขาหลุดออกมา โดยคุณแม่ของดาวรุ่งลิเวอร์พูลใช้ภาษาที่หลายคนมองว่าเหยียดสีผิว ยังไม่นับเรื่องราวแฟนสาวของเอลเลียตที่ออกมาแฉพฤติกรรมของดาวเตะหงส์แดง
ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะมีพฤติกรรมนอกสนามที่ไม่ค่อยน่ารักเท่าไรนัก แต่ผลงานในสนามของเอลเลียตต์ก็มีดีพอจนได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงในช่วงต้นฤดูกาลนี้ การเข้ามาแทนที่ จินี ไวจ์นัลดุม ได้อย่างไม่ขัดเขิน อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำไมลิเวอร์พูลถึงไม่ซื้อใครมาแทนกองกลางอัศวินสีส้ม การหายไปของกองกลางดาวรุ่งน่าจะส่งผลกระทบกับทีมไม่มากก็น้อย
ท่ามกลางเรื่องชวนช็อก ลิเวอร์พูลก็มีข่าวดีอยู่บ้าง นอกจากการทำแต้มขึ้นมาเท่ากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี ที่ 10 คะแนนหลังจากผ่าน 4 เกมของพรีเมียร์ลีก ในเกมกับลีดส์ ยูไนเต็ด โม ซาลาห์ ถูกแฟนบอลยูงทองส่งเสียงโห่อยู่ตลอดทั้งเกม แต่เจ้าตัวก็ทำประตูแรกให้หงส์แดงขึ้นนำ และเป็นประตูที่ 100 ของเขาในพรีเมียร์ลีก
คำว่า Under-appreciated หรือ ด้อยค่า หรือในรายของซาลาห์คือทำบุญไม่ขึ้นคงจะพอได้ เขาเป็นผู้เล่นที่ไม่ได้รับเครดิตมากเท่าที่ควรเป็น อดีตผู้เล่นของเชลซีและโรม่ากลายเป็นผู้เล่นคนที่ 5 ที่ทำประตูครบ 100 ลูกได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก โดยทำได้ในนัดที่ 162 ที่ลงสนามต่อจาก อลัน เชียเรอร์ (นัดที่ 124), แฮร์รี เคน (นัดที่ 141), เซร์คิโอ อเกวโร (นัดที่ 147) และ เธียร์รี อองรี (นัดที่ 160) ทั้งๆ ที่ตำแหน่งของเจ้าตัวไม่ใช่ศูนย์หน้าโดยธรรมชาติเมื่อเทียบกับ 4 คนแรก
นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2017/18 ซาลาห์คว้าตำแหน่งรองเท้าทองคำ 2 ครั้ง และเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2017/18 แกรี เนวิลล์ พูดถึงซาลาห์ว่า “ตอนนี้คุณจะตระหนักว่า เขาคือหนึ่งในสุดยอดกองหน้าของพรีเมียร์ลีก บางครั้งเขาถูกวิจารณ์ว่าเห็นแก่ตัว บางครั้งเขาก็ไม่เป็นแบบนั้น เขายอดเยี่ยมมาก” ถ้าคิดตั้งแต่ โม ซาลาห์ ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล หงส์แดงทำประตูในพรีเมียร์ลีกไปทั้งหมด 335 ประตู โดยเกือบๆ 1 ใน 3 เป็นประตูของ The Egyptian King
ในจำนวน 100 ประตูของซาลาห์ในพรีเมียร์ลีก แบ่งเป็นการยิงในสีเสื้อลิเวอร์พูล 98 ลูก และเชลซี 2 ลูก ยิงด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด 82 ลูก เท้าขวา 12 ลูก และลูกโหม่ง 6 ลูก ทั้งนี้เป็นลูกจุดโทษ 14 ประตู เจ้าตัวยิงเข้ากรอบทั้งหมด 257 ครั้ง จากความพยายามทั้งหมด 578 ครั้ง นอกจากนั้นซาลาห์ยังทำทั้งหมด 36 แอสซิสต์
จากรายงานของ Transfermarkt.com ในรายชื่อผู้เล่นที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก โม ซาลาห์ อยู่อันดับที่ 5 ตามหลัง จาดอน ซานโช ถ้าพูดกันแบบไม่ลำเอียงวัดจากผลงานในสนามเพียวๆ ซาลาห์น่าจะมีมูลค่ามากกว่าปีกตัวใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สิ่งเดียวที่ซานโชมีเหนือว่าซาลาห์ คือ อายุที่น้อยกว่า
จากรายงานของ The Athletic เรื่องของกองหน้าที่มีความสม่ำเสมอมากที่สุดในยุโรป โดยนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์ ผลปรากฏว่า โม ซาลาห์ เป็นหนึ่งใน 15 ผู้เล่นที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมดังกล่าว
ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด และ โรเมลู ลูกากู สร้างความตื่นตาตื่นใจในการกลับมาลงเล่นให้อดีตต้นสังกัด ซาลาห์ทำสิ่งที่เคยทำมาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล คำถามก็คือว่า ลิเวอร์พูลพร้อมแค่ไหนในการต่อสัญญากับ โม ซาลาห์ ออกไปอีก
ตอนนี้ดาวเตะวัย 29 ปี รับค่าเหนื่อยราวๆ 200,000 ปอนด์ต่อสัญญา และสัญญาจะหมดลงในช่วงสิ้นสุดฤดูกาล 2022/23 โดยทางสโมสรหวังว่าจะต่อสัญญากับเจ้าตัวไปอีกจนถึงปี 2025 เมื่อหันไปดูค่าเหนื่อยของโรนัลโดกับลูกากู ที่รับอยู่ที่ราวๆ 500,000 ปอนด์ และ 400,000 ปอนด์ ตามลำดับ และมีข่าวว่าซาลาห์อยากได้ค่าเหนื่อยครึ่งล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ในสัญญาฉบับใหม่ ซึ่งจะฉีกเพดานค่าเหนื่อยของหงส์แดง เมื่อนักเตะย่างเข้าวัยเลข 3 ลิเวอร์พูลมักไม่ชอบยื่นสัญญามูลค่ามหาศาลให้ กรณีของ จินี ไวจ์นัลดุม เป็นตัวอย่างที่ดี
แต่ถ้าลิเวอร์พูลต้องเสีย โม ซาลาห์ ไปจริงๆ บางทีแฟนบอลอาจจะเข้าใจถึงความยอดเยี่ยมของเขาจริงๆ เสียที
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
