Link Copied!

‘แกรม ซูเนสส์’ คนอันตราย

อดีตผู้เล่นระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล​, อดีตโค้ช​ระดับตำนานของ กลาสโกว์ เรนเจอร์​ส, ลิเวอร์พูล, กาลาตาซาราย และ แบล็ค​เบิร์น​ โรเวอร์​ส

นี่คือแบบฉบับของ ฮาร์ดแมน ที่มีทักษะ​ระดับสูงคนหนึ่งของวงการฟุตบอล​ ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จ​อย่างมากในอาชีพ​นักฟุตบอล

เมื่อพูดถึง ซูอี คนย่อมนึกถึงความดุดัน เหรียญ​แชมป์​ และ การเสียบสกัดที่ยุคนี้อาจมองว่า เถื่อน ซึ่งเราไม่สามารถกางนิ้วมานับจำนวนการเข้าบอลอันรุนแรงของเขาไหว

แต่เราจะยกตัวอย่างการเสียบที่เคยเป็นที่โจษจันกันในวงกว้าง โดยเฉพาะ​การเสียบที่เกือบจบอาชีพ​ของคู่แข่ง 2 คน ในยุคที่เขาอยู่กับยอดทีมแห่งสกอตแลนด์

แมตช์​แรกอย่างเป็นทางการเมื่อฤดูกาล​ 1986/87 ซูเนสส์ ที่เพิ่งกลับมาจากแผ่นดินอิตาลี ประเดิมสนามด้วยการเสียบใส่ จอร์จ แมคคลัสคีย์ เพลย์เมกเกอร์​ของ ฮิเบอร์​เนียน จนเกือบทำให้เกิดมวยหมู่ขึ้น

แม้ว่า ซูอี จะรับโทษที่สาสมคือใบแดง แต่สำหรับคนถูกเสียบนั้นยังคาใจตลอด แมคคลัสคีย์ ถูกเพื่อนหามออกจากสนาม และ พยายามถาม ซูอี ว่าทำไปเพื่ออะไรในตอนที่ทั้งคู่เดินออกพร้อมกัน แต่ไม่มีเสียงตอบจาก ซูอี นอกจากใชัหางตาหันมามอง

คมจากปุ่มรองเท้าทำให้ แมคคลัสคีย์ เนื้อเหวอะหวะจนไม่สามารถลงสนามได้ราว 2 เดือน ในส่วนของ ซูอี เขาได้รับโทษจากสมาคมอย่างหนักด้วยการแบน 1 นัดถ้วน

โลซิฟ โรตาริอู เหยื่อรายที่สองจาก สเตอัว บูคาเรสต์​ อดีตแชมป์​ยูโรเปียน คัพ 1986 ซึ่งมาพบกับ เรนเจอร์​ส ในรอบแปดทีมสุดท้ายของถ้วยใบเดิม

คราวนี้เป็น ซูเนสส์ พยายามพาบอลแหวกมิดฟิลด์​ของคู่แข่ง แต่ทำบอลลั่นไปหา โรตาริอู ที่ถึงบอลก่อน

เพียงแต่ ซูเนสส์ หงายปุ่มสตั๊ดใส่ในระดับเข่า แต่เป็นคราวเคราะห์​ของ โรนาริอู ที่พยายามจะกวาดบอล ปุ่มรองเท้าทุกปุ่มของ ซูอี จึงไปยันเข้าที่โคนขาขวาเต็มๆ และ รุนแรงมากพอที่จะทำให้ โรตาริอู ขาเหวอะ

ที่สำคัญ​ก็คือ จังหวะนี้ผู้ตัดสินลงโทษเพียงแค่ใบเหลือง จน ปอล ป็อกบา เคยนำจังหวะนี้มาแซวในตอนที่ทั้งสองฝ่ายโต้แย้งกันผ่านสื่อถึงเรื่องการเข้าบอล​อันตราย​

ทีมแพทย์​ของทีมจากโรมาเนีย​เผยว่า ถ้าสูงขึ้นมาอีกนิดจนถึงบริเวณเส้นเลือดใหญ่ โรตาริอู จะมีอาการสาหัสมากกว่านั้น จนอาจต้องเลิกเล่นฟุตบอล​ไปตลอดชีวิต ไม่ใช่พักรักษาตัวเพียง 1 เดือน แล้วทำให้ สเตอัว พ่ายแพ้ให้ เบนฟิกา ในรอบรองชนะเลิศ​เท่านั้น

หลายความเห็นในยุคนั้นล้วนแล้วแต่​บอกว่า มันเป็นการเข้าบอลที่ไม่ใช่แค่ก่อให้เกิด​อันตราย​เท่านั้น แต่มันเป็นการเข้าบอลแสนสกปรก​ที่สามารถเรียกว่าเจตนา​ทำร้ายร่างกายคู่แข่งได้เลย

แน่นอนว่าการเสียบรุนแรงของเขาอาจไม่ต่างไปจากฮาร์ดแมนในยุคเดียวกันนัก เพราะต้องยอมรับว่างานของเหล่าฮาร์ดแมนมันเป็นหนึ่งในวัฒนธรรม​ฟุตบอล​ในยุคนั้น

แต่ถ้ามองว่าทั้งสองเหตุการณ์​ที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นในขณะที่​เขาเป็นทั้งผู้เล่น-ผู้จัดการทีม ซึ่งคนอย่าง เคลาดิโอ เจนติเล, จูเลี่ยน ดิกส์ หรือ วินนี โจนส์ ไม่ใช่ นั่นจึงยิ่งทำให้เขาดูแย่ลงไปอีก

ดังนั้น การพูดถึงจังหวะเข้าบอลของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ จาก แกรม ซูเนสส์ ที่ออกความเห็น​ว่าสมควรถูกไล่ออก มันจึงเป็นได้ทั้ง การพูดจากผู้มีประสบการณ์​ตรง และ การพูดที่ไม่ได้ดูตนเองเลย

ซึ่งถ้าเป็นอย่างแรก ก็ต้องมองว่าคำกล่าวของเขานั้นมีประโยชน์​ในการช่วยพัฒนา​การตัดสินที่ยังคงสร้างปัญหา​ให้​ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง​

แต่ถ้าคนมองไปอย่างที่สอง ก็ย่อมที่จะมองว่า ความรุนแรงที่ดูต่างกันขนาดนั้น โทษด้วยใบเหลืองก็น่าจะพอ 

เพราะถ้าเป็นใบแดง การเข้าบอลแบบ ซูเนสส์ คงต้องถูกพิพากษา​ด้วยระบบยุติธรรมที่มีโทษถึงจำคุกแบบที่ ดันแคน เฟอร์กูสัน เคยติดคุกเพราะใช้หัวโขกคู่แข่งไปเลย

Total
0
Shares