Link Copied!

“บุรีรัมย์” ปิดจ็อบไทยลีก เปิดประตูสู่… “ทริปเบิ้ลแชมป์”

เรียบร้อยโรงเรียนเซราะกราว หลังจากผิดหวังได้แค่ตำแหน่งพระรองมา 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ในที่สุดพลพรรค “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็กลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ “ไทยลีก” ได้สำเร็จ พร้อมเป็นการเปิดประตูสู่ “ทริปเบิ้ลแชมป์” ในฤดูกาลนี้อย่างเต็มตัว!!!

#แชมป์(ไทยลีก)ที่คู่ควร

ผลงานของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา ถึงแม้ว่าจะเริ่มต้นฤดูกาลได้ไม่ดีนัก แต่ก็ค่อย ๆ พัฒนารูปแบบการเล่นจนกลายมาเป็นทีมอันดับหนึ่งของลีกได้ในที่สุด

โดยเฉพาะความกล้าของประธาน “เนวิน ชิดชอบ” ที่เปลี่ยนแม่ทัพกลางศึกจาก “อเล็กซานเดร กามา” ทั้งที่พาปราสาทสายฟ้ารั้งจ่าฝูงในเลกแรก มาเป็น “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือชาวญี่ปุ่น ที่ผลงานกับ สมุทรปราการ ซิตี้ กำลังดร็อปลง แต่ชอบปลุกปั้นและให้โอกาสดาวรุ่งเหมือนที่สร้าง “เขี้ยวสมุทร” โดยไม่เน้นระบบซูเปอร์สตาร์

ปัจจัยหนึ่งในการแยกทางกับ กามา จึงน่าจะมาจากแนวทางการทำทีมโฉมใหม่ของ “ลุงเนวิน” ที่ต้องการให้ดาวรุ่งได้มีโอกาสแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ ซึ่งภาพชัดเจนสุดของกุนซือแซมบ้าคือการที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งที่ดีสุดในยุคนี้ แต่กลับไม่ได้รับโอกาสเท่าที่ควร

สวนทางการเข้ามาของ อิชิอิ ที่แฟนบอลได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องวิธีการเล่น รูปแบบต่าง ๆ และที่สำคัญที่สุดคือโอกาสของดาวรุ่งในทีมที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะการปลุก วิญญาณเพชฌฆาตของ “เจ้าอาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด ให้ได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ก่อนโชว์ผลงานยิงไป 14 ประตู แต่มาได้รับบาดเจ็บ ทำให้อดลุ้นดาวซัลโวไปอย่างน่าเสียดาย

รวมทั้งการเสริมทัพในเลก 2 ที่ได้บิ๊กเซอร์ไพรส์อย่าง “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน คัมแบ็ก รวมถึง ศศลักษณ์ ไหประโคน กลับจากเคลีก บวกแนวรุกคุณภาพอย่าง อายุบ มาซิก้า และ โจนาธาน โบลินกิ ที่ตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน

แชมป์ไทยลีกของพลพรรค “ปราสาทสายฟ้า” ในฤดูกาลนี้ จึงคู่ควรอย่างยิ่ง เพราะยืนหนึ่งทั้ง “เกมรับ” ที่เหนียวแน่นจนเสียประตูน้อยสุดและเก็บคลีนชีตได้มากที่สุดในลีก ส่วน “เกมรุก” ก็ยิงคู่แข่งได้มากที่สุดเช่นกัน

# 5 สถิติที่เกิดขึ้น

1.บุรีรัมย์ กลายเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์ไทยลีกได้มากที่สุด 7 สมัย นับตั้งแต่ เนวิน ชิดชอบ เทคโอเวอร์สโมสรมาจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในปี 2552 โดยแบ่งเป็นแชมป์ในชื่อ บุรีรัมย์ พีอีเอ 1 สมัย (2008) และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 6 สมัย (2013, 2014, 2015, 2017, 2018, 2021/22)

2.มาซาทาดะ อิชิอิ กลายเป็นโค้ชชาวญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์ไทยลีก หลังจากเข้ามารับงานในเลกที่ 2 ต่อจาก อเล็กซานเดร กามา โดยกุนซือแดนซามูไรที่เกือบทำสำเร็จก่อนหน้านี้คือ มาซาฮิโร วาดะ ที่คุม ชลบุรี เอฟซี จบในตำแหน่งรองแชมป์เมื่อปี 2014

3.จักรพันธ์ แก้วพรม กลายเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์ไทยลีกได้มากที่สุด 8 สมัย แบ่งเป็น 1 สมัยกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด และอีก 7 สมัยกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

4.ปิยะพล ผานิชกุล กลายเป็นนักเตะคนที่ 2 ที่ได้แชมป์ไทยลีกกับ 3 สโมสรคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เทียบเท่ากับ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค (กุนซือโปลิศ เทโร เอฟซี ปัจจุบัน) ที่ได้แชมป์กับ 3 ทีมเช่นกันคือ บีอีซี เทโรศาสน, ธนาคารกรุงไทย และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

5.ธีราทร บุญมาทัน กลับมาคว้าแชมป์ไทยลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ฤดูกาล หลังครั้งสุดท้ายที่ได้ชูถ้วยแชมป์ลีกสูงสุดของไทยคือ ตอนอยู่กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2016 ก่อนที่จะย้ายไปหาประสบการณ์ในเจลีกกับ วิสเซล โกเบ และ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส พร้อมจารึกชื่อเป็นนักเตะไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เจลีกในปี 2019

# เปิดประตูสู่ “ทริปเบิ้ลแชมป์”

นับถึงนาทีนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวที่ยังมีโอกาสคว้า 3 แชมป์ หลังจากปิดจ็อบ รีโว่ ไทยลีก ไปเรียบร้อย ก็ยังเหลืออีก 2 ถ้วยให้ได้ชูคือ ช้าง เอฟเอ คัพ และ รีโว่ ลีกคัพ ที่รออยู่

เส้นทางฟุตบอลถ้วย “ช้าง เอฟเอ คัพ” เหลืออีกแค่ 2 นัด (รอบรอง-รอบชิง) บุรีรัมย์ จะได้ชูถ้วยสมัยที่ 5 ขณะที่ “รีโว่ ลีก คัพ” เหลืออีก 3 ด่าน (รอบ 8 ทีม-รอบรอง-รอบชิง) จะทะยานสู่แชมป์สมัยที่ 6

การคว้าแชมป์ 3 รายการในยุคสมัยที่ไทยลีกมีทีมแกร่งทั้ง บีจี ปทุม, ทรู แบงค็อก รวมถึง การท่าเรือ, เชียงราย และอีกหลายทีมนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีโอกาสเป็นไปได้ไม่น้อยสำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้

ถ้าทำสำเร็จ นี่จะไม่ใช่ครั้งแรก เพราะพวกเขาเคยทำได้มาแล้วถึง 3 สมัย เมื่อปี 2011, 2013 และ 2015 แล้วแฟนบอลคิดว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จหรือไม่???

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares