หากใครติดตามศึกฟุตบอล รีโว่ ไทยลีก ในช่วงเลก 2 มานี้ สิ่งที่หลายคนจับตามองเป็นพิเศษก็น่าจะเป็นการกลับมาเล่นไทยลีกอีกครั้งของ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายเอเชียที่หลายคนตั้งฉายาให้เขา แน่นอนกลับมาคราวนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เปลี่ยนไปและหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังคงเดิมเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ รายละเอียดเป็นอย่างไรบ้างลองมาวิเคราะห์กันดูครับ
1. ความเป็นมืออาชีพ
ต้องยอมรับเลยว่า ธีราทร บุญมาทัน มีความเป็นมืออาชีพสูง เขามีความสุขุมกว่าแต่ก่อนมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะอารมณ์ฉุนเฉียวในสนามที่เคยเป็นภาพลักษณ์เมื่อสมัยก่อนก็ไม่มีให้เห็นอีกต่อไป หลายครั้งที่เจ้าตัวโดนเล่นหนักใส่ หลายคนคงแอบคิดในใจว่าเขาจะต้องมีอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นแน่ แต่กลับไม่เป็นแบบนั้น ธีราทรยังคงคุมอารมณ์ได้ดี ก้มหน้าก้มตาเล่นฟุตบอลของตัวเองต่อไป ความเป็นมืออาชีพของ ธีราทร บุญมาทัน เป็นตัวอย่างให้น้องๆ เพื่อนๆ นักฟุตบอลได้ดี และทำให้วงการฟุตบอลบ้านเรายกระดับขึ้นก็ว่าได้
2. รูปแบบการเล่น
อาจบอกได้ว่า ธีราทร บุญมาทัน ขึ้นชั้นเป็นนักเตะระดับเอเชียไปแล้ว จะเห็นได้ว่าการเล่นของเขามีความหลากหลายมากขึ้น ตั้งแต่ศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในช่วงปลายปีที่แล้ว ธีราทรไม่ได้ยืนในตำแหน่งแบ็กซ้ายแบบถาวรอีกต่อไป นอกจากมีจุดเด่นในลูกเปิดบอลเข้าเขตอันตรายและคุมจังหวะของเกม เจ้าตัวมีการโยกตำแหน่งเข้ามาเป็นกองกลางเพื่อคุมจังหวะ Build up บอลจากแดนกลางเพื่อหาช่องในการทำเกมรุกขึ้นไป ไม่เพียงเท่านั้นธีราทรยังเคยมาอยู่ริมเส้นฝั่งขวาสร้างมิติใหม่ในการเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ หลายสิ่งที่พูดมาเราจะเห็นว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ใช้งาน ธีราทร บุญมาทัน ในรูปแบบนี้เหมือนกัน และมันก็ส่งผลดีให้ทัพปราสาทสายฟ้ามีรูปแบบการเล่นที่หลากหลายมากขึ้น แถมยังลงตัวอย่างมาก เพราะทีมของพวกเขามีนักเตะที่ทดแทนและหมุนเวียนกันได้
3. ความทะเยอทะยานยังคงเต็มเปี่ยม
การกลับไทยครั้งนี้ของ ธีราทร บุญมาทัน หลายคนอาจคิดว่าเป็นการค้าแข้งช่วงสุดท้ายก่อนจะแขวนสตั๊ด แต่หากลองสังเกตการเล่นของเขาดูดีๆ ความทะเยอทะยานของธีราทรไม่ได้ลดน้อยลงเลย เขายังคงกระหายในชัยชนะ ทุ่มเต็มกำลังเสมอ หากไม่เชื่อลองดูสถิติหลังเกมของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีชื่อ ธีราทร บุญมาทัน ขึ้นอยู่ในนั้น ไม่ว่าจะจ่ายบอลมากสุด ชนะดวลมากที่สุด สร้างโอกาสให้เพื่อนมากที่สุด แย่งบอลมากสุด นี่จึงเป็นแบบอย่างที่ดีของนักเตะไทยหลายๆ คน เพราะเขาทำให้เห็นว่าความทะเยอทะยานสำคัญต่ออาชีพนักฟุตบอล
4. เลือดนักสู้ยังคงเป็นเครื่องหมายการค้า
อย่างที่กล่าวในข้อแรกว่าความฉุนเฉียวความเกรี้ยวกราดดูลดน้อยลง ความสุขุมของ ธีราทร บุญมาทัน นั้นมาจากประสบการณ์ที่เก็บเกี่ยวจากต่างแดนอยู่หลายปี การที่เขาเก็บอารมณ์เก่งไม่ใช่ว่าเขาจะไม่สู้คนแต่อย่างใด เพียงแต่เขาเลือกจะใช้มันให้ถูกวิธีเท่านั้นเอง เขาเลือกที่จะใช้สมาธิอยู่กับเกมให้มากขึ้น ดีกว่าไปเสียเวลากับการยั่วยุของฝั่งตรงข้าม เขาเก็บอารมณ์มาเป็นแรงขับเคลื่อนในอีกรูปแบบ เขาทุ่มเทกับเกมที่อยู่ข้างหน้า เอาจริงเอาจังกับเกมแม้คู่แข่งจะเป็นเพื่อน เป็นน้อง เป็นพี่ก็ตาม เขาก็ใส่เต็มกำลังหมด นั่นอาจจะเป็นเพราะเขาเจอคู่แข่งมาแล้วมากมายในเจลีก นักเตะระดับยุโรปเขาก็เจอมาแล้ว ไม่แปลกใจเลยทำไมสายตาของ ธีราทร บุญมาทัน เมื่ออยู่ในสนามจึงดูมุ่งมั่นและจริงจังตลอดเวลา
หลายคนต่างยก ธีราทร บุญมาทัน เป็นตัวอย่างคงไม่แปลก เราเห็นการเจริญเติบโตของเขามาแล้วทั้งแง่ดีและร้าย แน่นอนว่าเขามีสิ่งที่เปลี่ยนไปและมีสิ่งที่ยังคงอยู่ให้นักเตะหลายคนได้เรียนรู้ การที่จะก้าวไปเป็นนักเตะแบบเขาเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวของ ธีราทร บุญมาทัน หล่อหลอมให้เขาเป็นอย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่มีฝีเท้าดีเท่านั้น ธีราทร บุญมาทัน ยังมีทัศนคติที่ดี ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ เรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองเสมอ อะไรที่ไม่ดีกับตัวเองก็ตัดมันออกไป
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
