Link Copied!

ตัดใจไม่ขาด!

หลังจากทีมแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ตกรอบ ดิวิชันนัล เพลย์ออฟ ได้ไม่นาน ทอม เบรดี ประกาศอำลา NFL แต่ผ่านไปเพียง 1 เดือนเศษๆ ยอดควอเตอร์แบ็กวัย 44 ปี เจ้าของฉายา The GOAT ประกาศคัมแบ็ก ด้วยเหตุผลสั้นๆ ว่า ภารกิจของตนยังไม่จบ

ในช่วงกว่า 2 ทศวรรษหลังสุด ทอม เบรดี เป็นหนึ่งในสุดยอดนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ของโลก แม้กีฬาอเมริกันฟุตบอลจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับกีฬาฟุตบอล, เทนนิส, บาสเกตบอล หรือกอล์ฟ แต่ด้วยผลงานอันยิ่งใหญ่ของเขา ทำให้ได้รับการยอมรับในระดับเดียวกับ ไทเกอร์ วูดส์, โรเจอร์ เฟเดอเรอร์, ไมเคิล จอร์แดน และ คริสเตียโน โรนัลโด จนได้รับฉายาว่า The GOAT (The Greatest Player Of All Time) หรือนักอเมริกันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา จากผลงานการพาทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 6 สมัย และยังพาทีมแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส คว้าแชมป์ได้อีก 1 สมัย

หากย้อนกลับไปดูเรื่องราวความเป็นมาของ ทอม เบรดี นับตั้งแต่วันที่ถูกทีมนิวอิงแลนด์ ดราฟต์ตัวมาในรอบที่ 6 ปี 2000 ณ ขณะนั้นหากมีใครทำนายว่า เขาจะพาทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้ถึง 7 สมัย คงถูกหัวเราะเยาะแน่นอน เพราะโดยปกติแล้วผู้เล่นที่ถูกดราฟต์ตัวในรอบลึกขนาดนั้น ส่วนใหญ่ทำได้แค่เป็นตัวสำรอง น้อยคนนักที่จะสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงจนกลายเป็นกำลังหลักสำคัญของทีมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็กด้วยแล้วละก็ ยิ่งเป็นไปได้ยาก เพราะขนาดผู้เล่นดาวรุ่งที่ถูกดราฟต์ตัวมาตั้งแต่ในรอบแรก ส่วนใหญ่ก็มักจะล้มเหลว ทำให้อายุการใช้งานเฉลี่ยของผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็กใน NFL ยาวนานเพียง 4 ปีเศษๆ เท่านั้น

ฤดูกาลที่ผ่านมา ทอม เบรดี ลงเล่นใน NFL เป็นฤดูกาลที่ 22 นานกว่าค่าเฉลี่ยมากขนาดไหนคิดเอาเอง หลังจากทีมแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส แพ้ ลอสแอนเจลิส แรมส์ ตกรอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ อย่างสุดแสนเจ็บปวด เพราะลูกเตะฟิลด์โกลในช่วงก่อนหมดเวลาเพียง 4 วินาที การที่เขาตัดสินใจประกาศเลิกเล่น จึงไม่ใช่เรื่องนอกเหนือความคาดหมาย เพราะด้วยวัย 44 ปี เขาประสบความสำเร็จและสร้างสถิติไว้มากมาย จนยากที่ใครจะมีโอกาสทำลายสถิติได้ในอนาคต จึงแทบไม่มีความท้าทายใดๆ หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว แต่อยู่ๆ ทอม เบรดี ก็เปลี่ยนใจหวนคืน NFL อีกครั้ง เท่ากับจะเป็นฤดูกาลที่ 23 ของเขาใน NFL แล้ว!

แน่นอน ไม่มีใครสงสัยเรื่องความหลงใหลในกีฬาอเมริกันฟุตบอลของ ทอม เบรดี แต่ที่เขาตัดสินใจประกาศเลิกเล่นในช่วงก่อนหน้านี้ เจ้าตัวให้เหตุผลว่าอยากแสวงหาความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิตบ้าง แม้จะไม่ได้เอ่ยถึงตรงๆ แต่แฟนๆ ส่วนใหญ่คาดกันว่าเป็นเพราะเขาอยากทุ่มเทเวลาให้กับธุรกิจเสื้อผ้าและรองเท้าภายใต้ยี่ห้อ “Brady” ของตนเอง และอยากมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น ในขณะที่ผู้สันทัดกรณีเชื่อว่า อาจเป็นเพราะความผิดหวังที่ทีมแทมปา เบย์ ตกรอบง่ายเกินไป และดูเหมือนโอกาสที่จะกลับมาคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์อีกครั้ง คงเป็นไปได้ยากแล้ว

ย้อนกลับไปในปี 2020 เมื่อครั้งที่ ทอม เบรดี ตัดสินใจอำลาทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ หลังจากอยู่กับทีมมานานถึง 20 ปี ความเห็นของสื่อมวลชนและแฟนๆ ส่วนใหญ่มองว่า วันเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของเขาคงจบลงแล้ว เนื่องจากมองว่าความสำเร็จที่ผ่านมาของเขากับทีมมี บิลล์ เบลิชิก ยอดหัวหน้าโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ NFL เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เมื่อไม่มีเบลิชิกคอยวางแผนการเล่นให้กับทีมอีกต่อไป คงยากที่ควอเตอร์แบ็กวัยเกิน 40 ปีซึ่งอยู่ในช่วงขาลง จะพาทีมต้นสังกัดใหม่คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้ แต่เพียงแค่ฤดูกาลเดียวคำปรามาสดังกล่าวก็ถูกลบล้างจนสนิท

เอาเข้าจริงคำถามว่า ระหว่าง ทอม เบรดี กับ บิลล์ เบลิชิก ใครกันแน่คือผู้ที่มีส่วนสำคัญที่สุดในการพาทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ครองความยิ่งใหญ่ได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน ในช่วงปี 2001-2018 เป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะทั้งคู่มีส่วนต่อความสำเร็จของทีมมากไม่แพ้กัน จริงอยู่ผู้เล่นควอเตอร์แบ็กที่เก่งกาจระดับเบรดี สามารถพาทีมอื่นๆ คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้อย่างแน่นอน แต่หากไม่มี บิลล์ เบลิชิก คุมทีม คงยากที่จะสามารถพาทีมผ่านเข้าชิงแชมป์ซูเปอร์โบวล์ถึง 9 ครั้ง แล้วคว้าแชมป์ได้ถึง 6 ครั้ง และอย่าลืมว่า หากไม่ได้เป็นเพราะเบลิชิกดราฟต์ตัวเบรดีเข้ามา และให้โอกาสเป็นตัวจริงในฤดูกาลที่ 2 เบรดีอาจไม่ได้ประสบความสำเร็จมากถึงขนาดนี้

หลังจากฤดูกาลแรก ทอม เบรดี ใช้เวลาส่วนใหญ่เป็นตัวสำรองอันดับ 3 และมีโอกาสขว้างลูกในสนามเพียง 3 ครั้ง รับได้ 1 ครั้ง ฤดูกาลต่อมาคือในปี 2001 เขากลายเป็นควอเตอร์แบ็กมือสองของทีม หรือเป็นตัวสำรองของ ดรูว์ เบลดโซ หลังจากเบลดโซบาดเจ็บในเกมที่ 2 เกมต่อมาคือเกมที่ 3 เบรดีมีโอกาสลงเป็นตัวจริงเกมแรก และสามารถพาทีมเอาชนะอินเดียนาโพลิส โคลท์ส ขาดลอย 44-13 นับตั้งแต่นัดนั้นเป็นต้นมาเขาก็ยึดตำแหน่งตัวจริงได้ แม้เบลดโซจะหายเจ็บกลับมาฟิตเต็มที่ในฤดูกาลนั้น แต่ บิลล์ เบลิชิก ยังมอบความไว้วางใจให้เบรดีเป็นตัวจริงต่อไปตลอดฤดูกาล

ครั้งนั้นควอเตอร์แบ็กหนุ่มวัย 24 ปี 6 เดือน ชื่อ ทอม เบรดี ตอบแทนความไว้วางใจของ บิลล์ เบลิชิก ด้วยการนำทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ และทำสถิติเป็นควอเตอร์แบ็กตัวจริงของทีมแชมป์ซูเปอร์โบวล์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ NFL แต่ถึงกระนั้นก็ต้องยอมรับตามตรงว่า จะมีหัวหน้าโค้ชสักกี่คนที่จะกล้าจับควอเตอร์แบ็กระดับซูเปอร์สตาร์ที่มีค่าจ้างแพงที่สุดของ NFL ในตอนนั้นเป็นตัวสำรอง เพราะไว้วางใจควอเตอร์แบ็กดาวรุ่งที่ถูกดราฟต์ตัวมาในรอบที่ 6 และแทบไม่มีประสบการณ์มาก่อนเลย เหมือนที่ บิลล์ เบลิชิก กล้าทำ!

บิลล์ เบลิชิก เป็นยอดโค้ชระดับอัจฉริยะในเกมรับ และเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกอย่าง การสร้างทีมของเขาทำให้นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ กลายเป็นทีมระดับมหาอำนาจของ NFL ได้อย่างต่อเนื่องยาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ แม้ผู้เล่นหลายคนของทีมจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือ เบลิชิกยังมี ทอม เบรดี เป็นจอมทัพ แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรคงทนถาวรตลอดไป ปี 2019 ผลงานของทีมเริ่มตกลงมาก การที่ ร็อบ กรอนคาวสกี ยอดปีกในคู่ใจของเบรดีประกาศเลิกเล่น ทำให้เกมรุกของทีมอ่อนลงมาก และในที่สุดก็ไปได้ไกลที่สุดแค่รอบไวลด์คาร์ด เพลย์ออฟ แพ้ทีมเทนเนสซี ไททันส์ 20-13 กลายเป็นนัดปิดฉากตำนานความยิ่งใหญ่ของเบรดีกับทีมนักรบกู้ชาติ

ว่ากันว่าช่วงนั้น บิลล์ เบลิชิก กับ ทอม เบรดี เริ่มมีปัญหาขัดแย้งทางความคิดกันบ้างแล้ว เนื่องจากเบลิชิกมองว่า ผู้เล่นควอเตอร์แบ็กอายุเฉียด 43 ปีแบบเบรดีคงไม่สามารถเป็นความหวังให้กับทีมได้อีกต่อไป และประกอบกับผู้เล่นหลายคนในทีมอายุมากแล้ว เบลิชิกจึงอาจอยากสร้างทีมขึ้นมาใหม่ ขณะที่เบรดีเองก็รับรู้เช่นกันว่า วันเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ของทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ มันผ่านพ้นไปแล้ว จึงต้องการความท้าทายใหม่ๆ ด้วยการย้ายไปเล่นให้กับทีมอื่นๆ เนื่องจากเจ้าตัวมั่นใจว่าตนเองยังมีดีมากพอที่จะประสบความสำเร็จใน NFL หากทีมต้นสังกัดใหม่มีศักยภาพมากพอ

สำหรับนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง ทอม เบรดี ชื่อเสียงเงินทอง ชีวิตครอบครัวอันสุดแสนอบอุ่น ภรรยา จีเซล บุนด์เชน เป็นถึงนางแบบระดับซูเปอร์โมเดลของโลก เรียกว่าชีวิตมีพร้อมหมดชนิดผู้ชายค่อนโลกยังต้องอิจฉา การที่เขาไม่ยอมเลิกเล่น แต่เลือกที่จะย้ายไปเล่นให้กับทีมแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส จึงสร้างความผิดหวังให้กับแฟนๆ ทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ไม่น้อย เพราะสำหรับพวกเขาอยากเห็นเบรดีรีไทร์ในนามของทีมเพเทรียตส์มากกว่า แต่ก็ไม่มีใครกล้าตำหนิควอเตอร์แบ็กวัยสี่สิบยังแจ๋วผู้นี้ เพราะรู้ดีว่ามันถึงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงทั้งของเบรดีและทีมแล้ว

การตัดสินใจลงเล่นต่อไปในสังกัดทีมแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ทำให้ ร็อบ กรอนคาวสกี ยอดปีกในคู่ใจของเบรดีตัดสินใจหวนกลับมาลงเล่นใน NFL อีกครั้ง โดยเบรดีเป็นคนเรียกร้องให้ทีมบัคคาเนียร์สขอเทรดตัวกรอนคาวสกีมาเล่นร่วมกับตนเอง และทั้งคู่ก็กลายเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ครั้งแรกในรอบ 18 ปี ทำให้เบรดีทำสถิติเป็นผู้เล่นที่คว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์มากที่สุดเป็นสถิติถึง 7 สมัย และทำให้เสียงที่เคยปรามาสว่า เขาประสบความสำเร็จขนาดนี้ได้เพียงเพราะมี บิลล์ เบลิชิก เป็นหัวหน้าโค้ชยุติลงอย่างถาวร

ฤดูกาลที่ผ่านมาทีมบัคคาเนียร์สเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ และคว้าแชมป์กลุ่มใต้สาย NFC ตามความคาดหมาย แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บของผู้เล่นกำลังหลักหลายคน ทำให้ผลงานของทีมตกลงเล็กน้อย หลังจากผ่านทีมฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ได้ในรอบไวลด์คาร์ด เพลย์ออฟ ทีมบัคคาเนียร์สโคจรมาพบกับทีมลอสแอนเจลิส แรมส์ หนึ่งในทีมเต็งแชมป์ แม้จะถูกนำห่างถึง 27-3 แต่ ทอม เบรดี พาทีมไล่มาจนตีเสมอได้ 27-27 ขณะเหลือเวลาเพียงไม่ถึง 1 นาที แต่ทีมรับของบัคคาเนียร์สกลับปล่อยให้ คูเปอร์ คัปป์ หลุดเดี่ยวรับลูกจากการขว้างยาวของ แม็ทธิว สแตฟฟอร์ด ได้ตรงกลางสนาม ได้ระยะใกล้พอจะเตะฟิลด์โกล์ในช่วงก่อนหมดเวลา ทำให้ทีมแรมส์ชนะไปอย่างหวุดหวิด 30-27

ในวินาทีที่ คูเปอร์ คัปป์ รับลูกได้ สีหน้าของ ทอม เบรดี ที่เหลือบมองเวลาในสนามบ่งบอกความผิดหวังได้เป็นอย่างดี เนื่องจากหากทีมรับของบัคคาเนียร์สเล่นได้ดีเหมือนในฤดูกาลคว้าที่แชมป์ซูเปอร์โบวล์ หรือมี บิลล์ เบลิชิก ที่เน้นทุกเม็ดบัญชาการข้างสนาม อย่างน้อยเกมน่าจะได้ลุ้นกันต่อถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ และต่อมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เบรดีก็ประกาศเลิกเล่น โดยบอกว่าถึงเวลาเดินเส้นทางสายอื่นแล้ว ซึ่งเหตุผลหลักนอกเหนือจากเรื่องครอบครัว ก็น่าจะเป็นเพราะเบรดีมองว่าโอกาสคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์กับทีมบัคคาเนียร์สคงเป็นไปได้ยากแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลเดียวกับเมื่อครั้งที่เขาอำลาทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ นั่นเอง

อย่างไรก็ตามมีเสียงร่ำลือว่าเหตุผลที่ทำให้ ทอม เบรดี ประกาศเลิกเล่น ไม่ใช่เรื่องครอบครัวหรืออยากอุทิศเวลาให้กับธุรกิจเสื้อผ้าของตนเอง แต่เป็นเพราะเบรดียังมีความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งคือการได้ลงเล่นให้กับทีมซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ซึ่งเป็นทีมที่เขาเอาใจช่วยมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ และเป็นทีมที่เขาอยากย้ายไปเล่นให้มากที่สุด หลังจากอำลาทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ในช่วง 2 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ แต่ตอนนั้นทีมโฟร์ตีไนเนอร์สยังไม่ได้สนใจเบรดี จึงมีเสียงร่ำลือว่าเบรดีประกาศเลิกเล่นโดยหวังว่าทีมบัคคาเนียร์สจะปล่อยตัวเขาออกจากทีม ถึงตอนนั้นค่อยประกาศกลับมาเล่นแบบอิสระเสรีอีกที

แต่ บรูซ เอเรียนส์ หัวหน้าโค้ชทีมบัคคาเนียร์สที่พยายามโน้มน้าวใจให้เบรดีเล่นให้กับทีมต่ออีกอย่างน้อยหนึ่งฤดูกาล ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้เบรดีที่ก่อนหน้านี้ต่อสัญญาอยู่กับทีมเป็นฤดูกาลที่ 3 ย้ายไปเล่นให้กับทีมอื่นแน่นอน ทำให้แผนการของเบรดีที่อยากเล่นให้กับทีมโฟร์ตีไนเนอร์สไม่เป็นดังหวัง ในที่สุดเจ้าตัวที่รีไทร์ไปแล้ว จึงประกาศหวนกลับมาเล่นใน NFL ภายในเวลาเพียง 40 วัน โดยให้เหตุผลว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา รู้แล้วว่าที่ของตนคือในสนามแข่งขัน ไม่ใช่บนอัฒจันทร์ในฐานะคนดู ซึ่งสักวันหนึ่งวันนั้นคงมาถึง แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน

ทอม เบรดี ยืนยันว่าเขารักเพื่อนร่วมทีมบัคคาเนียร์สทุกคน และรักทุกคนในครอบครัวที่สนับสนุนการตัดสินใจลงเล่นต่อไป หากไม่มีพวกเขาคงเป็นไปไม่ได้ ยืนยันว่าตนจะลงเล่นเป็นฤดูกาลที่ 23 ในสังกัดของทีมบัคคาเนียร์ส เพราะภารกิจของตนยังไม่จบ แม้ผู้สันทัดกรณีหลายคนไม่เชื่อว่าเบรดีจะเลิกเล่นจริงๆ แต่การที่เขาประกาศกลับมาเล่นให้กับทีมบัคคาเนียร์สอีกครั้งถือว่าสร้างความประหลาดใจไม่น้อย เพราะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บรูซ เอเรียนส์ หัวหน้าโค้ชทีมบัคคาเนียร์สเองเพิ่งยอมรับว่าเบรดีคงไม่เปลี่ยนใจกลับมาเล่น และคงต้องมองหาควอเตอร์แบ็กคนใหม่แล้ว

สาเหตุที่ทำให้ผู้สันทัดกรณีไม่เชื่อว่า ทอม เบรดี จะเลิกเล่นอย่างถาวรก็เพราะรู้ดีว่า คนที่มีวินัยในการดูแลรักษาสภาพร่างกายตัวเองให้หนุ่มกว่าวัยได้อย่างไม่น่าเชื่อแบบ The GOAT ไม่มีทางตัดใจเลิกเล่นได้อย่างง่ายๆ แน่ เพราะส่วนลึกในใจของเบรดียังมั่นใจในตนเองเสมอว่ามีดีมากพอที่จะประสบความสำเร็จใน NFL ต่อไปได้ และที่สำคัญก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน มีการเผยแพร่คลิปที่ คริสเตียโน โรนัลโด กองหน้าจอมเก๋าทีมชาติโปรตุเกสของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สอบถามเบรดีว่าจะเลิกเล่นจริงๆ หรือ แล้วเจ้าตัวทำหน้าบอกไม่ถูกและตอบไปว่า “บางทีอ่ะนะ” ยิ่งทำให้กระแสข่าวเรื่องการหวนคืน NFL อีกครั้งดึงกระหึ่มโลกโซเชียล

ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับทีมแทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส มีตระกูลเกลเซอร์เป็นเจ้าของทีมเหมือนกัน ประกอบกับ คริสเตียโน โรนัลโด กับ ทอม เบรดี เป็นนักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ของโลกที่ได้รับการยกย่องเรื่องการดูแลสภาพร่างกายได้อย่างสุดยอดเหมือนกัน ทั้งคู่จึงรู้จักกัน จึงมีเสียงร่ำลือกันว่าโรนัลโดที่เพิ่งทำสถิติยิงประตูในเกมฟุตบอลระดับสูงสุดได้ถึง 807 ประตู คือแรงบันดาลใจที่ทำให้เบรดีอยากกลับมาเล่นอีกครั้ง โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นโรนัลโดกองหน้าวัย 37 ปี ทำคนเดียว 3 ประตูในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก นัดชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา

หากเสียงร่ำลือดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ก็นับว่าดีใจแทนแฟนๆ ทีมแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ที่เบรดีตัดสินใจประกาศหวนคืน NFL ก่อนการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 ที่ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ แอตเลติโก มาดริด 0-1 ตกรอบคาบ้าน เพราะมีแฟนบอลส่วนหนึ่งแซวกันขำๆ ว่า หากเบรดีรู้ว่าโรนัลโดกับทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะจบฤดูกาลมือเปล่าแน่นอนแล้ว ไม่แน่เบรดีอาจทบทวนการตัดสินใจใหม่อีกครั้งก็อาจเป็นได้ แต่ที่แน่ๆ อัตราการคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ในฤดูกาลหน้าของทีมบัคคาเนียร์สสูงขึ้นทันทีที่เบรดีประกาศจะกลับมาเล่นให้กับทีมอีกครั้ง ในฐานะแฟนกีฬาคนหนึ่ง คงไม่มีการปิดตำนานความยิ่งใหญ่ของ ทอม เบรดี สวยหรูเกินกว่าการเอาชนะทีมซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ในรอบชิงแชมป์สาย NFC และการเอาชนะทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ของ บิลล์ เบลิชิก ในรอบชิงแชมป์ซูเปอร์โบวล์ฤดูกาลหน้าได้อย่างแน่นอน มาลุ้นกันครับว่าสุดยอดควอเตอร์แบ็กวัย 44 ปีเจ้าของฉายา The GOAT ผู้นี้จะบรรลุภารกิจสุดท้ายสมความตั้งใจหรือไม่ อีกไม่นานเกินรอคงรู้กัน!

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares