Link Copied!

A League of Their Own (1992)

ในวิกฤติย่อมมีโอกาส อยู่ที่ใครจะมองเห็นว่าข้างหน้าเป็นประตูหรือว่ากำแพง วันเวลาที่ชายหนุ่มออกไปสงคราม หญิงสาวจึงได้ออกมาแสดงฝีมือบ้าง พวกเธอทำได้ดีมากเสียด้วย จนแสงไฟต้องส่องฉายมา จากเพียงลีกคั่นเวลากลายเป็นตำนานของวงการเบสบอล

ราวปี 1943 ที่สงครามยังไม่มีท่าว่าจะจบ ผู้ชายทยอยออกไปรับใช้ชาติในฐานะกำลังพลในสงครามโลกครั้งที่ 2 จนร่อยหรอ ตำแหน่งงานต่างๆ ว่างลง ต้องทดแทนด้วยแรงงานหญิงสาวหลากหลายวัย เช่นเดียวกับบรรดาแมวมองของทีมเบสบอลน้อยใหญ่ถูกส่งตัวกระจายไปทั่วประเทศ เพื่อเฟ้นหานักกีฬามาเติมเต็มลีกเบสบอลหญิงที่กำลังจัดตั้งขึ้นอย่างเร่งด่วน

สองศรีพี่น้องฮินสันเล่นเบสบอลให้ทีมท้องถิ่นในวันหยุด คิต (ลอรี เพตตี) สาวคนน้องเป็นพิทเชอร์ เธอขว้างได้ดีแต่ฝีมือยังไม่เท่าสาวคนพี่ ด็อตตี (จีนา เดวิส) ที่เป็นแคทเชอร์ของทีม คิตก็เหมือนเด็กสาววัยรุ่นทั่วไปที่อยากออกไปให้พ้นจากเมืองเล็กๆ นี้เสียที ทว่าด็อตตีต้องการอยู่โยงที่บ้านรอคอยการกลับมาของสามีที่ไปออกรบ จึงปฏิเสธในทันใด แมวมองได้ค้นพบเพชรเม็ดงามแล้วก็ไม่อยากเสียเธอไป เขายื่นข้อเสนอว่าคิตจะได้ลงเล่นก็ต่อเมื่อด็อตตีไปเล่นด้วย พี่สาวจนใจจำต้องเดินทางจากรัฐออริกอนบ้านเกิดไปด้วยกันกับน้อง

ที่งานคัดตัวรอบสองที่เมืองชิคาโก บรรดาหญิงสาวมาลงชื่อคัดตัวหนาตากว่าที่คาด พวกเธอในหลากอาชีพมาจากหลายส่วนของประเทศ ในที่สุดก็ได้ผู้เล่นครบ 64 คน แบ่งเป็น 4 ทีม คือ เรซีน เบลล์ส, เคโนชา โคเม็ทส์, เซาท์ เบนด์ บลู ซ็อกซ์ และ ร็อกฟอร์ด พีชเชส ซึ่งเป็นทีมที่คิตกับด็อตตีอยู่ด้วยกัน รวมทั้ง เม (มาดอนนา) สาวนักเต้น ดอริส (โรซี โอดอนเนล) การ์ดหน้าบาร์ นอกจากนี้ยังได้หญิงสาวผู้มีพรสวรรค์ทางกีฬาที่เป็นนางงามรัฐจอร์เจีย นักร้อง แม่บ้านฟูลไทม์ แม่ม่ายลูกติด และอื่นๆ มารวมทีมอีกด้วย

จิมมี ดูแกน (ทอม แฮงก์) อดีตผู้เล่นดังในเมเจอร์ลีกที่ตอนนี้กลายเป็นขี้เมาเต็มตัว เข้ามารับงานโค้ช เพราะเขาเห็นว่างานง่ายๆ ทำงานไปดื่มไปด้วยก็ยังได้ ทำแค่ฆ่าเวลาชั่วคราวไม่ต้องจริงจังอะไร และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ลีกเบสบอลหญิงไม่ได้รับความสนใจเท่าไรนัก ในสายตาแฟนๆ มันคนละระดับกับเบสบอลชายเลย ไม่ว่าจะทักษะ หรือไหวพริบก็ตาม

สาวๆ หลายคนก็มีภารกิจส่วนตัวให้ทำ เช่น เลี้ยงลูก เสริมความงาม หัดเขียนอ่านหนังสือ บ้างก็แต่งเพลงเชียร์ หรือออกแบบตัดเย็บชุดแข่งสำหรับทีม บางคนพบรักกับชายหนุ่มจนได้แต่งงานก็มี นักกีฬาหญิงมือใหม่อาจจะยังไม่โฟกัสกับเกมเท่าไรนัก พอโดนจิมมีตวาดบ่อยเข้า หนักเข้าถึงกับน้ำตาริน “ห้ามร้องไห้ในเกมเบสบอล!” (There’s no crying in baseball.) กลายเป็นหนึ่งในประโยคสุดคลาสสิกวงการหนังฮอลลีวูดไปเลย

กระทั่งวันหนึ่งด็อตตีนึกสนุกขึ้นมา โชว์ลีลาเหนือชั้นอันแตกต่างจากเบสบอลชาย เธอเปล่งประกายดึงความสนใจจากแฟนเบสบอลทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นดาวเด่นของวงการในเวลาไม่นาน ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ผลัดกันโชว์ฟอร์มพิเศษทุกนัด วงการเบสบอลหญิงกระเตื้องขึ้น และฟูเฟื่องได้อย่างไม่น่าเชื่อในเวลาต่อมา จิมมีขี้เมาเองก็ยังได้รับแรงบันดาลใจนี้ไปด้วยเต็มๆ เขาถึงกับเลิกเหล้า แล้วหันมาเอาจริงเอาจังกับกีฬาที่รักอีกครั้งหนึ่ง 

ทว่าคิตผู้เป็นน้องกลับรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ใต้เงาของพี่สาว เธอเริ่มมีปากเสียงกับด็อตตีบ่อยครั้ง พาลโทษนั่นโน่นนี่อยู่เรื่อย ภายหลังคิตขอย้ายทีมไปอยู่กับเรซีน เบลล์ส แทน พอไม่โดนกดดัน ผลงานส่วนตัวคิตขยับดีขึ้นเป็นลำดับ ส่งให้ทีมเรซีนได้มาคั่วแชมป์กับทีมร็อกฟอร์ด แต่ก่อนการแข่งนัดตัดสิน สามีด็อตตีกลับมาจากสงครามพอดี ด็อตตีไม่รอช้าตัดสินใจแพ็กกระเป๋ากลับบ้านทันที ยังดีที่จิมมีคอยทัดทานเอาไว้

จิมมี: แบบนี้มันขี้ขลาดว่ะ ด็อตตี ถ้าเธออยากกลับไปออริกอนแล้วปั๊มลูกสักร้อยคนก็ตามใจ ฉันคงบอกไม่ได้หรอกว่าใครต้องมีชีวิตอยู่ยังไง แต่แอบหนีหน้า เลิกกลางคันแบบนี้ รับรองเลยว่าเธอจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เบสบอลมันเข้าไปอยู่ในตัวเธอแล้ว และทำให้เธอฉายแสงออกมา เธอปฏิเสธไม่ได้หรอก

ด็อตตี: ฉันว่ามันยุ่งยากเกินไป

จิมมี: มันก็ต้องยากแหละ ไม่งั้นใครๆ ก็ทำกันได้หมดสิ ก็เพราะยากนี่แหละมันถึงยิ่งใหญ่ไงล่ะ

ในเกมสุดท้าย สองทีมชิงชัยกันอย่างเข้มข้น คะแนนคู่คี่กันจนถึงท้ายเกมผลยังออกได้ทั้งสองหน้า …ในเพลย์สุดท้าย คิตวิ่งเข้าโฮมเบสที่ด็อตตียืนขวางทางอยู่ หากคิตแตะเบสได้ก่อนด็อตตีจะรับลูกบอล เรซีน เบลล์สจะครองแชมป์ แต่หากด็อตตีรับบอลได้ก่อน ร็อกฟอร์ด พีชเชสจะคว้าชัย ปรากฏว่าคิตวิ่งมาชนโครมกับด็อตตีที่หน้าโฮมเบส ทั้งคู่ล้มลง คนทั้งสนามนิ่งงัน ภาพตัดมาที่บอลในมือด็อตตีหลุดจากการครอบครอง ส่งผลให้คิตได้คะแนนนี้ไป เกมสิ้นสุดลง เรซีน เบลล์สได้ครองแชมป์เวิร์ลด์ซีรีส์ปีนั้น

คนดูหนังรับทราบตรงกันว่า สาวคนพี่นั้นเหนือกว่าสาวคนน้องทุกอย่าง และเป็นไปได้ว่าเหนือกว่าทุกคนในลีกด้วยซ้ำ ด็อตตีเองก็รู้แต่เก็บไว้เพียงในใจ ฉากบอลหลุดจากมือด็อตตีนี้ก็สามารถตีความได้อย่างน้อยสองหน้าเช่นกัน หนึ่งคือ ด็อตตียอมให้น้องสาวเข้าวินก็เพราะเธอจะมุ่งหน้ากลับบ้าน หรือสอง พลังผู้ชนะในตัวคิตล้นเกินกว่าความสามารถของด็อตตีจะต้านทานไหว

ด็อตตีจัดลำดับสิ่งสำคัญในชีวิตใหม่แล้ว งานเบสบอลในสนามน่าจะมีความหมายน้อยลงสำหรับเธอ ยิ่งผลแพ้ชนะยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขณะที่คิตมุ่งหวังจะก้าวเดินต่อ จึงทุ่มเทสุดกำลัง หากชัยชนะนี้จะช่วยเสริมกำลังใจและผลักดันให้เติบโตขึ้นได้ พี่สาวก็ยิ่งกว่ายินดี และหวังว่ามันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของน้องสาวที่รัก เมื่อคิตรับไม้ต่อเรียบร้อย ด็อตตีก็ตัดสินใจหันหลังให้ชื่อเสียงของตัวเอง ลาวงการไปด้วยหัวใจกล้าแกร่ง กลับไปดูแลครอบครัวที่เป็นสถาบันหลักของสังคมต่อไป

อันที่จริงลีกเบสบอลมันแค่งานแทนคั่นเวลา หรือจะงานไหนๆ ก็แค่งานชั่วคราวเท่านั้น ครอบครัวและพี่น้องในสายเลือดต่างหากที่เป็นงานแท้จริง งานถาวรที่ต้องตั้งใจทำกันไปตลอดชีวิต เมื่อออกจากสนามกลับบ้านแล้ว เราก็เป็นพี่เป็นน้องรักใคร่กันดังเดิม เรื่องชนะแพ้มันก็เพียงเรื่องเล็กๆ ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น

ในคืนเดือนมืด ดวงดาวยิ่งสุกสกาวสวยงามกว่าเดิม เวทีร้างนักแสดงตัวจริง นักแสดงตัวแทนจำต้องออกโรง แสงกะพริบวิบวาวสะกิดตาผู้ชมให้เห็นได้ชัดเจน เมื่อผู้คนหันมาจับจ้อง ก็ถึงเวลาที่พวกเธอต้องเปล่งแสงจ้า โชว์ความสามารถที่ซ่อนอยู่ออกมาไม่ต้องออมมือ ครั้นเวลานักแสดงตัวจริงคืนเวที ตัวแทนก็จำต้องลาโรง แยกย้ายกันกลับไปทำหน้าที่สำคัญต่อที่หลังม่านหลังเวทีดังเดิม

ในลีกที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ไม่มีผู้หญิงสักคนที่เคยเป็นนักกีฬาอาชีพ หลายคนไม่เคยทำงานนอกบ้าน ยังไม่เคยทำงานแบบร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนแปลกหน้ายาวนานเลยสักครั้ง เมื่อรวมตัวเป็นทีมกีฬา พวกเธอจำต้องเรียนรู้กฎเกณฑ์ ข้อบังคับมากมาย และปรับตัวตามสถานการณ์ บรรดาสาวๆ ก็เปี่ยมด้วยน้ำใจนักกีฬา ล้วนเปิดใจยอมรับความต่าง ค่อยๆ เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของตนดีขึ้นเมื่อลงมือทำงานจริงจัง พวกเธอยกระดับตัวเอง กระเถิบใกล้ความเป็นมืออาชีพขึ้นทุกวัน

พอสงครามโลกสงบลง เหล่าชายหนุ่มกลับมาถึงบ้าน เบสบอลชายกลับมาแข่งกันเข้มข้นเหมือนเคย นักกีฬาหญิงกว่าครึ่งกลับบ้านไปรับบทบาทเดิมของตัวเอง กลับไปเป็นภรรยา ไปเป็นแม่ เป็นพี่สาว เป็นน้องสาว เป็นลูกสาวของครอบครัวอันอบอุ่นอีกครั้งหนึ่ง และมีไม่น้อยที่ได้เจอศักยภาพที่ซ่อนอยู่ ได้ค้นพบตัวตนใหม่ ได้ทำงานเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว และทำงานเพื่อสังคมไปด้วยพร้อมๆ กัน

โดยอีกส่วนหนึ่งยังมุ่งเอาดีในวงการกีฬาต่อไป ควบรวมกับนักกีฬาหน้าใหม่ที่เข้ามาเสริม ลีกเบสบอลหญิงเป็นที่นิยมต่อเนื่องยืนยาวมาถึงปี 1954 ก็ปิดฉากลง ระหว่างนั้นเคยมีทีมร่วมลีกพร้อมกันถึง 10 ทีม มีนักกีฬามากกว่า 600 คนร่วมแข่งขัน มีผู้ชมในสนามรวมแล้วเกินกว่า 9 แสนคน

กีฬาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจบันเทิงที่ทำเงินมากมาย นักกีฬาได้ค่าจ้างสูง ผู้จัดได้ผลกำไร ผู้สนับสนุนได้เผยแพร่สินค้าของตน เพราะกีฬาไม่เหมือนกับความบันเทิงแขนงอื่น มันไม่มีสคริปต์สูตรสำเร็จ ไม่มีบทสรุปตายตัว ระหว่างทางพลิกผันได้เสมอ ผู้ชมได้ตื่นเต้นเร้าใจไปกับเหตุการณ์ใหม่เอี่ยมตลอดการแข่งขัน

และเมื่อรายการดั้งเดิมเกิดติดขัด ผู้จัดแข่งขอลองใส่ตัวแปรใหม่เข้าไปในงานชุดเก่า ตัวแปรที่เข้าใจง่ายกว่า ควบคุมง่ายกว่า มิหนำซ้ำยังมีเสน่ห์ดึงดูดใจกว่าบรรดาตัวแปรหนวดเคราเฟิ้มตั้งมากมาย โดยเฉพาะในยามสงครามที่ชวนจิตใจหดหู่เช่นนี้ ลีลาและความสวยงามในเกมแข่งขันก็ยิ่งช่วยปลอบประโลมใจผู้คนให้ลืมเรื่องร้ายๆ ได้เป็นอย่างดี

นอกจากกีฬาจะช่วยประคองสังคมที่กำลังบาดเจ็บให้ลุกขึ้นยืนไหวแล้ว เหล่านักกีฬาหญิงยังสร้างแรงบันดาลใจชั้นเลิศแก่ผู้คนในประเทศในหลายแง่มุม กระตุ้นผู้ชมหลายต่อหลายคนให้ออกเดิน ก้าวไปสู่จุดหมายใหม่ได้สำเร็จ ทั้งผู้ชมในสนาม ผู้ชมหน้าจอโทรทัศน์ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชมที่ได้ชมหนังเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

หากลองมองกันลึกลงไปอีกนิด ถือได้ว่าลีกเบสบอลหญิงเป็นการปฏิรูปวัฒนธรรมอีกรูปแบบหนึ่ง ใช้ความบันเทิงเชิญชวนคนส่วนใหญ่ให้มองมุมใหม่ ปรับปรุงทัศนคติ เปลี่ยนแปลงภาพของสังคม ชี้ให้เห็นความสามารถของผู้หญิงที่ประสิทธิภาพสูงไม่แพ้ผู้ชายผ่านเกมกีฬา ซึ่งทุกฝ่ายต่างยินดียอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้โดยง่าย

เมื่อลีกเบสบอลหญิงกลายเป็นกระแสระดับประเทศ นานาความคิดเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศเริ่มถูกหยิบยกมาพูดคุยถึงบ่อยครั้งในหลากหลายประเด็น ได้ช่วยขยายวงหน้าที่การงาน ขยายขอบเขตความรับผิดชอบของผู้หญิงให้รอบด้านมากขึ้น เฉพาะทางมากขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่ในครัวในบ้านอีกต่อไป ในบางงานกลายเป็นหญิงทำได้ดีกว่าชายด้วยซ้ำ ขณะเดียวกันโลกทัศน์ของผู้หญิงเองก็ถูกเปิดกว้างยิ่งกว่าก่อน จนต่อมาเราได้เห็นการเรียกร้องสิทธิสตรีในหลายยุคสมัย กระทั่งปัจจุบันที่ถูกพิสูจน์ให้รับทราบตรงกันแล้วว่า ทุกเพศควรได้สิทธิเท่าเทียมกัน

ผู้กำกับหญิง เพนนี มาร์แชล เสนอสภาพสังคมและชวนทบทวนความคิดที่เปลี่ยนผ่านของวันวาน ร้อยเรียงเรื่องโดยอ้างอิงจากเหตุการณ์จริง ปรับลำดับ ขยับจังหวะให้ลงตัวเพื่อความบันเทิง แจกบทบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงไปให้ตัวละครในชื่อสมมติคอยเดินเรื่อง (ซึ่งปัจจุบันนี้ชื่อจริงของพวกเธอได้ถูกบันทึกไว้ในหอเกียรติยศกีฬาเบสบอลเรียบร้อยแล้ว) ได้กลุ่มนักแสดงชื่อเสียงโด่งดังมารับบทหลักบทรอง และเมื่อปี 2012 หอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติได้บรรจุหนังเรื่องนี้ไว้ในรายชื่อหนังสำคัญประจำหอสมุดรัฐสภา ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อตอนที่หนังออกฉายในบ้านเรา ได้ชื่อไทยว่า “ผู้หญิงไม่ได้มีไว้รักอย่างเดียว” ช่างตรงกับใจความของหนังดีแท้

วันที่ลีกเบสบอลไร้ชายหนุ่ม หญิงสาวก็เฉิดฉายขึ้นมาแทน เผยความสามารถที่เก็บกักมานาน ด็อตตีและเหล่าสาวๆ สร้างสรรค์เบสบอลในแบบฉบับของตัวเองขึ้นมา ด้วยทักษะที่ไม่เป็นรอง สมองและไหวพริบสูสี ทั้งยังทำงานเป็นมืออาชีพคู่ควรกับลีกระดับประเทศ แสดงความสามารถให้สังคมเห็นว่าผู้หญิงก็ไม่น้อยหน้าผู้ชายในเรื่องกีฬาเลย จะว่าไปงานของพวกเธออาจจะแค่ชั่วคราว แต่ผลงานพวกเธอนั้นมั่นคง ควรค่าแก่การกล่าวขวัญถึงตลอดไป

ในภาวะโรคระบาดตอนนี้คงไม่ต่างอะไรกับช่วงสงครามโลกนัก หลายสิ่งขาดแคลน หลายอย่างต้องเปลี่ยนแปลง และหลายครั้งไม่ได้ดังหวัง อย่างไรก็ดีในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ หากต้องสู้คนเดียวอาจไม่ไหว ทว่าคนหนึ่งคนไม่ได้เก่งแค่อย่างเดียวหรอก ยังมีความสามารถอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ แม้แต่ตนเองอาจยังไม่รู้ เรามาร่วมด้วยช่วยกัน ช่วยทุนไม่ได้ก็ช่วยคิด ช่วยคิดไม่ได้ก็ช่วยทำ ช่วยทำไม่ได้ก็ช่วยให้กำลังใจ คนละไม้คนละมือ รวมใจกันสู้ รวมพลังสามัคคี สร้างทีมใหม่ สร้างลีกใหม่กันขึ้นมา แล้วร่วมมือกันระหว่างลีก จนกลายเป็นลีกประเทศไทยอันแข็งแกร่งเดินหน้าต่อไปด้วยกัน

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares