เวิลด์ คัพ 2022 ที่กาตาร์ กำลังจะเปิดฉากในอีกไม่ช้า วันนี้ Playnowthailand จะพาไปวิเคราะห์เจาะลึก 4 ทีมใน “กลุ่มดี” ว่า ทีมใดมีโอกาสเข้ารอบมากกว่ากัน?
ฝรั่งเศส
“ตราไก่” พกพาดีกรี “แชมป์เก่า” ติดตัวมาด้วย หลังจากได้ฉลองเมื่อ 4 ปีก่อน ที่รัสเซีย ซึ่งเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 1998 ที่เป็นเจ้าภาพ แน่นอนว่าการป้องกันตำแหน่งยากกว่าคว้าแชมป์หลายเท่า เพราะทัวร์นาเมนท์ใหญ่ก่อนหน้านี้อย่าง “ยูโร 2020″ พวกเขาก็จอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเท่านั้น โดยมีแม่ทัพคนเดิมอย่าง ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ที่เข้ามารับงานตั้งแต่ปี 2012 ส่วนคีย์แมนความหวังต้องยกให้สองหัวหอกต่างวัยอย่าง คาริม เบนเซมา เจ้าของรางวัล “บัลลงดอร์ 2022” กับ คิลียัน เอ็มบัปเป เจ้าของรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นจากชุดแชมป์โลกเมื่อ 4 ปีก่อนหลายราย อาทิ อูโก ยอริส, อองตวน กรีซมันน์, เบนฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาเอล วาราน, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ผนึกกำลังกับแข้งสายเลือดใหม่ ซึ่งดูแล้ว หากไม่พลิกล็อกฟ้าถล่มดินทะลาย ทัพตราไก่น่าจะตบเท้าเข้ารอบได้ไม่ยาก และน่าจะตีตั๋วเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มอีกด้วย ส่วนจะไปได้ไกลจนถึงป้องกันบัลลังก์แชมป์เอาไว้ได้หรือไม่นั้น คงต้องไปลุ้นกันอีกที
ออสเตรเลีย
ขุนพลแดน “จิงโจ้” ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาแล้ว 5 ครั้ง ในปี 1974, 2006, 2010, 2014 และ 2018 โดยฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนี เป็นครั้งที่พวกเขาทำผลงานได้ดีที่สุด ด้วยการผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนฟุตบอลโลกหนนี้ ทัพออสซี่ต้องลุ้นเหนื่อยกว่าจะได้ตั๋วมาลุยกาตาร์ เมื่อต้องไปดวลเพลย์ออฟข้ามทวีปกับ เปรู ทีมอันดับ 5 ของโซนอเมริกาใต้ ก่อนที่ ออสเตรเลีย จะเป็นฝ่ายชนะจุดโทษ 5-4 ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 6 ชนิดลุ้นกันลมแทบจับ ภายใต้การคุมทัพของ เกรแฮม อาร์โนลด์ เฮดโค้ชวัย 59 ปี ที่เคยผ่านเวทีฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 ครั้งในฐานะผู้ช่วยกุนซือ ในศึกเวิลด์คัพ 2006 และ 2010 จนกระทั่งมาสวมบทกุนซือใหญ่อย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก ส่วนขุมกำลังทัพ “ซอคเกอร์รูส์” นำโดยจอมเก๋าอย่าง อารอน มอย มิดฟิลด์วัย 32 ปีจากกลาสโกว์ เซลติก, อายดิน ฮรูสติช เพลย์เมคเกอร์ของเวโรนา และกัปตันทีม แมทธิว ไรอัน ผู้รักษาประตูจากโคเปนเฮเกน ซึ่งดูจากชื่อชั้นกับเพื่อนร่วมทีมในกลุ่ม โดยเฉพาะ ฝรั่งเศส กับ เดนมาร์ก แล้ว ถือเป็นงานหนักอึ้งสำหรับขุนพลออสซี ที่จะเบียดเข้ารอบ
เดนมาร์ก
ทัพ “โคนม” ผ่านฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายมาแล้ว 5 ครั้ง ในปี 1986, 1998, 2002, 2010 และ 2018 โดยผลงานดีที่สุดของพวกเขาคือ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส สำหรับฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ พวกเขาผ่านรอบคัดเลือก โซนยุโรป ด้วยผลงาน ชนะ 9 แพ้ 1 คว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มเอฟ ภายใต้การคุมทัพของ แคสเปอร์ ฮุลมันด์ ซึ่งเข้ามานั่งเก้าอี้ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2020 และพาทีมโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูโร 2020 โดยขุนพลชุดลุยกาตาร์ยังมีผู้เล่นแกนหลักจากศึกยูโร ไม่ว่าจะเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิล (นีซ), อันเดรียส คริสเตนเซน (บาร์เซโลนา), ซิมง เคียร์ (เอซี มิลาน), ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก (สเปอร์ส), โธมัส เดลานีย์ (เซบียา), ยูสซูฟ โพลเซน (แอร์เบ ไลป์ซิก) และที่ขาดไม่ได้คือ คริสเตียน อีริคเซน มิดฟิลด์จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งดูแล้วโอกาสเข้ารอบของ เดนมาร์ก ถือว่าสดใส และการทะลุเข้ารอบลึก ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อม
ตูนีเซีย
“พญาอินทรีแห่งคาร์เธจ” เป็นหนึ่งในชาติลูกหนังแถวหน้าของทวีปแอฟริกา ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาเคยทะลุเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกมาแล้ว 5 ครั้ง ในปี 1978, 1998, 2002, 2006 และ 2018 แต่จอดป้ายเพียงแค่รอบแรกมาตลอดทุกครั้ง ส่วนฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ ตูนีเซีย ผ่านรอบคัดเลือก รอบสอง ของโซนแอฟริกา ด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มบี จากนั้นชนะ มาลี ด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-0 ทำให้คว้าตั๋วมาลุยกาตาร์ได้เป็นสมัยที่ 6 โดยมี จาเลล คาดรี เฮดโค้ชวัย 50 ปี คุมทัพ พร้อมนักเตะหลักอย่าง มอนตาสซาร์ ทาลบี (ลอริยองต์), ดีแลน บรอนน์ (ซาแลร์นิตานา), เอลเยส สคิรี (โคโลญจน์), วาบี คาซรี (มงต์เปลลิเยร์) รวมทั้ง ยุสเซฟ เอ็มซาคนี กองหน้ากัปตันทีม ซึ่งเล่นอยู่กับ อัล อราบี ในลีกกาตาร์ ซึ่งประเมินขุมกำลังและศักยภาพทีมแล้ว ขุนพล “พญาอินทรีแห่งคาร์เธจ” คงต้องลุ้นเหนื่อยเลยทีเดียวหากหวังที่จะผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ให้ได้เป็นครั้งแรก
โปรแกรม ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่มดี
22 พ.ย. 65 เดนมาร์ก – ตูนีเซีย 20.00 น.
23 พ.ย. 65 ฝรั่งเศส – ออสเตรเลีย 02.00 น.
26 พ.ย. 65 ตูนีเซีย – ออสเตรเลีย 17.00 น.
26 พ.ย. 65 ฝรั่งเศส – เดนมาร์ก 23.00 น.
30 พ.ย. 65 ตูนีเซีย – ฝรั่งเศส 22.00 น.
30 พ.ย. 65 ออสเตรเลีย – เดนมาร์ก 22.00 น.