มหกรรมลูกหนังโลก “เวิลด์ คัพ 2022” ที่กาตาร์ รูดม่านเปิดฉากฟาดแข้งนัดเปิดสนามกันไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้ Playnowthailand จะพาไปวิเคราะห์ 4 ทีมสุดท้ายใน “กลุ่มเอช” ที่มี โปรตุเกส, กานา, อุรุกวัย และ เกาหลีใต้ ทีมใดจะมีโอกาสเข้ารอบมากกว่ากัน?
โปรตุเกส
ฟุตบอลโลก 2022 ถือเป็นการได้เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 8 ของทัพ “ฝอยทอง” โดยผลงานดีที่สุดคือ การคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 1966 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพ ส่วนเส้นทางในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ต้องไปลุ้นในรอบเพลย์ออฟ ก่อนที่จะเอาชนะ ตุรกี 3-1 และปราบ นอร์ธ มาซิโดเนีย 2-0 คว้าตั๋วมาโชว์ฝีเท้าที่กาตาร์ได้ในที่สุด โดยมี เฟอร์นานโด ซานโต๊ส เฮดโค้ชวัย 68 ปี คุมทัพต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2014 และมีผลงานชิ้นโบแดงคือพา โปรตุเกส ผงาดแชมป์ยูโร 2016 ได้อย่างยิ่งใหญ่ รวมทั้งได้แชมป์ ยูฟ่า เนชันส์ลีก 2018-19 อีกหนึ่งรายการ และแน่นอนว่า “เดอะ แบก” ของทีมคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คริสเตียโน โรนัลโด สุดยอดดาวยิงวัย 37 ปี ที่น่าจะลุยฟุตบอลโลกหนนี้เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากที่ หัวหอกจอมป่วนจากแมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว 4 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีทีเด็ดอย่าง บรูโน แฟร์นันด์ส, แบร์นาโด ซิลวา, ดิโอโก ดาโลต์, รูเบน ดิอาส, ชูเอา กานโซเล, รูเบน เนเวส ซึ่งด้วยมาตรฐานทีมแล้ว ทัพฝอยทองมีโอกาสสูงที่จะได้ผ่านเข้ารอบสอง ส่วนจะไปได้ไกลมากกว่านั้นหรือไม่ คงต้องไปวัดกันที่ผลงานในสนามอีกครั้ง
กานา
ขุนพล “ดาวดำ” เคยผ่านเข้ามาโชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้าย 3 สมัย ในปี 2006, 2010 และ 2014 ซึ่งผลงานดีที่สุดของพวกเขาคือ การเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ ส่วนเส้นทางสู่กาตาร์ ทัพ “ดาวดำ” คว้าแชมป์กลุ่มจี ในรอบคัดเลือก รอบสอง โซนแอฟริกา จากนั้นฝ่าด่านทีมแกร่งอย่าง ไนจีเรีย ในรอบสาม หลังจากลงเตะสองนัดเหย้า-เยือน เสมอกัน 1-1 แต่ทัพ “ดาวดำ” ได้ตั๋วมาลุยกาตาร์ด้วยกฎการยิงประตูทีมเยือน โดยทีมชุดนี้มี อ็อตโต อั๊ดโด เฮดโค้ชวัย 47 ปี คุมทัพ โดยเข้ามาแทนอดีตกุนซือทีมชาติไทย มิโลวานsราเยวัช ที่โดนปลดหลังพาทีมตกรอบแรก ศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์ 2021ขณะที่ขุมกำลังของ กานา ล้วนออกไปค้าแข้งต่างแดนกันแทบทั้งทีม นำโดยตัวหลักอย่าง สองพี่น้อง อังเดร อายิว (อัล-ซาดด์) และ จอร์แดน อายิว (คริสตัล พาเลซ), บาบา ราห์มาน (เรดดิง), โมฮัมเหม็ด คูดุส (อาแจ็กซ์), ดาเนียล อมาร์ตีย์ (เลสเตอร์), อินญากี วิลเลียมส์ (แอธ.บิลเบา), โมฮัมเหม็ด ซาลิซู (เซาแธมป์ตัน) แต่หัวใจสำคัญที่สุดของทีมต้องยกให้กับ โธมัส ปาร์เตย์ กองกลางจอมบู๊จากอาร์เซนอล อย่างไรก็ตาม เมื่อดูทีมร่วมกลุ่ม ต้องบอกเลยว่า เป็นงานหนักไม่น้อยสำหรับขุนพล “ดาวดำ” เพราะสองทีมเต็งเข้ารอบต้องยกให้ โปรตุเกส กับ อุรุกวัย ส่วนคู่แข่งอีกหนึ่งทีมอย่าง เกาหลีใต้ ก็ไม่ใช่หมูที่จะให้เชือดง่าย ๆ เช่นกัน
อุรุกวัย
อดีตแชมป์โลก 2 สมัย ที่ต้องย้อนไกลถึงปี 1930 และ 1950 ตีตั๋วเข้ามาลุย ฟุตบอลโลก 2022 เป็นสมัยที่ 14 ด้วยการจบอันดับ 3 ของรอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ซึ่งก่อนหน้านี้ “จอมโหด” คุมทัพโดย ออสการ์ ตาบาเรซ ที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 15 ปี แต่หลังจากพาทีมโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังในรอบคัดเลือก สหพันธ์ฟุตบอลอุรุกวัยจึงสั่งเด้งตกเก้าอี้ไปเมื่อเดือน พ.ย. 2021 และแต่งตั้ง ดีเอโก อลอนโซ เข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งเฮดโค้ชวัย 47 ปีรายนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถพา อุรุกวัย คืนฟอร์มเก่งและผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ในที่สุด ขณะที่ทัพนักเตะอุรุกวัยชุดปัจจุบัน กำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่าน โดยมีผู้เล่นคีย์แมนตัวเก๋าหลายราย ซึ่งน่าจะเล่นฟุตบอลโลกหนนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นานโด มุสเลรา, มาร์ติน กาเซเรส, ดิเอโก โกดิน, เอดินสัน คาวานี และ หลุยส์ ซัวเรซ ผนึกกำลังแข้งหนุ่มสายเลือดใหม่ นำโดย เฟเดริโก บัลเบร์เด (เรอัล มาดริด), โรดริโก เบนตานคูร์ (สเปอร์ส), ฟากุนโด เปยิสตรี (แมนฯ ยูไนเต็ด), โรนัลด์ อเราโฆ (บาร์เซโลนา) และที่ขาดไม่ได้คือ ดาร์วิน นูนเญซ หัวหอกวัย 23 ปีจากลิเวอร์พูล ซึ่งถ้ามองถึงมาตรฐานทีมและชื่อชั้นนักเตะแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด ทัพ “จอมโหด” น่าจะผ่านเข้ารอบสองได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่ว่าจะเข้ารอบในฐานะแชมป์ หรือรองแชมป์กลุ่ม
เกาหลีใต้
แข้งพลังโสมผ่านเข้ามาโชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่ 11 โดยสมัยแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 1954 ก่อนจะได้ลุยเวิลด์คัพอีกครั้งในปี 1986 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา เกาหลีใต้ ก็ทะลุเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้ตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยผลงานดีที่สุดคือ คว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่น ส่วนเส้นทางสู่กาตาร์ในครั้งนี้ ทัพ “โสมขาว” ผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์กลุ่มเอ ของรอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม ด้วยผลงาน ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 กอดคอเข้ารอบสุดท้ายกับแชมป์กลุ่ม อิหร่าน โดยกุนซือชุดปัจจุบันคือ เปาโล เบนโต เฮดโค้ชชาวโปรตุกีส วัย 53 ปี ที่เคยคุมทีมชาติโปรตุเกส เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ศึกยูโร 2012 และพาทัพฝอยทองไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล แต่ทีมจอดป้ายเพียงแค่รอบแรกเท่านั้น ขณะที่สตาร์ตัวชูโรงของเกาหลีใต้ชุดนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก ซน ฮึง มิน หัวหอกกัปตันทีมวัย 30 ปีจากสเปอร์ส นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นฝีเท้าดีอีกหลายรายที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสรชั้นนำของยุโรปอย่าง คิม มิน แจ (นาโปลี), อี แจ ซอง (ไมน์ซ), ฮวาง ฮี ชาน (วูล์ฟแฮมป์ตัน), จอง วู ยอง (ไฟร์บวร์ก), อี คัง อิน (มายอร์กา) และ ฮวาง อุย โจ (โอลิมเปียกอส) แต่ดูแล้วหนักหนาสาหัสสำหรับการลุ้นเข้ารอบของเกาหลีใต้ อย่างไรก็ดี สิ่งหนึ่งที่เกาหลีใต้มีคือ หัวจิตหัวใจนักสู้ หากยังจำกันได้เมื่อ 4 ปีก่อน พวกเขาแพ้ 2 นัดแรก ตกรอบแน่นอนแล้ว แต่ยังโชว์สปิริตสู้ขาดใจ ก่อนทำผลงานพลิกล็อกช็อคโลกในนัดสุดท้าย เอาชนะ เยอรมนี 2-1 พร้อมกับฉุดทีมอินทรีเหล็กเก็บกระเป๋ากลับบ้านไปด้วยกัน และในศึกเวิลด์ คัพ 2022 เกาหลีใต้ ก็พร้อมที่จะทำผลงานให้โลกลูกหนังต้องกล่าวถึงพวกเขาอีกครั้ง
โปรแกรม ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่มเอช
24 พ.ย. 65 อุรุกวัย – เกาหลีใต้ 20.00 น.
24 พ.ย. 65 โปรตุเกส – กานา 23.00 น.
28 พ.ย. 65 เกาหลีใต้ – กานา 20.00 น.
29 พ.ย. 65 โปรตุเกส – อุรุกวัย 02.00 น.
2 ธ.ค. 65 เกาหลีใค้ – โปรตุเกส 22.00 น.
2 ธ.ค. 65 กานา – อุรุกวัย 22.00 น.
