“รองแชมป์เก่า” โครเอเชีย สู้กับ ญี่ปุ่น ถึง 120 นาที เสมอ 1-1 ก่อนชนะจุดโทษ 3-1 ดับฝัน “ซามูไร” เข้ารอบ 8 ทีม รอเจอ บราซิล-เกาหลีใต้
ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565
สนาม : อัล จานูบ สเตเดียม, กาตาร์
ญี่ปุ่น 1-1 โครเอเชีย
(120 นาที เสมอ 1-1, โครเอเชีย ชนะจุดโทษ 3-1)
ผู้ทำประตู : 1-0 ไดเซ็น มาเอดะ น.43, 1-1 อิวาน เปริซิช น.55
ครึ่งแรก นักเตะ “ซามูไรบลู” เปิดเกมบุกสู้แบบไม่เกรงศักดิ์ศรี “รองแชมป์เก่า” โดยเฉพาะช่วงท้ายครึ่งแรกมีลุ้นหลายครั้ง
จนกระทั่งนาทีที่ 43 กองเชียร์ญี่ปุ่นได้เฮกันลั่นจากลูกเปิดเข้าไปหน้าประตูก่อนบอลมาเข้าทาง ไดเซ็น มาเอดะ ยิงจ่อ ๆ ไม่เหลือให้ ญี่ปุ่น ออกนำ 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง นาทีที่ 55 โครเอเชีย ตามตีเสมอได้สำเร็จจาก เดยัน ลอฟเรน เปิดให้ อิวาน เปริซิช โหม่งสุดสวยเสียบเสาให้สกอร์เท่ากัน 1-1
หลังจากนั้น ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกแลกกันอย่างสนุก แต่ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เสมอกัน 1-1 ต้องลุ้นกันต่ออีก 30 นาที
ช่วงต่อเวลาพิเศษ ยังทำประตูกันเพิ่มไม่ได้ จบ 120 นาที ญี่ปุ่น เสมอ โครเอเชีย 0-0 ต้องตัดสินชี้ขาดด้วยการดวลจุดโทษ
ผลปรากฏว่า โดมินิค ลิวาโควิช เซฟ 3 จุดโทษ ช่วยให้ โครเอเชีย ชนะ ญี่ปุ่น ไป 3-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปรอพบผู้ชนะ บราซิล กับ เกาหลีใต้
รายชื่อ 11 ตัวจริงทั้งสองทีม
ญี่ปุ่น : ชูอิจิ กอนดะ, ทาเคฮิโร โทมิยาสุ, มายะ โยชิดะ, โชโกะ ทานิงุจิ, จุนยะ อิโตะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, วาตารุ เอ็นโดะ, ยูโตะ นางาโตโมะ, ไดจิ คามาดะ, ไดเซ็น มาเอดะ, ริสึ โดอัน
โครเอเชีย : โดมินิค ลิวาโควิช, โยซิป ยูราโนวิช, เดยัน ลอฟเรน, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, บอร์นา บาริซิช, ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช, มาเตโอ โควาซิช, อังเดร ครามาริช, บรูโน เพ็ตโควิช, อิวาน เปริซิช