ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบสุดท้าย จะดวลแข้งกันที่ประเทศไทย ตั้งแต่ 15 มิถุนายน – 2 กรกฎาคมนี้
รายการนี้ จะคัด 4 ชาติเป็นตัวแทนทวีปเอเชีย ไปแข่งขันฟุตบอลเยาวชนโลก U17 ที่ยังไม่ได้กำหนดเจ้าภาพ
รอบแบ่งกลุ่ม “ช้างศึก” ของเรา อยู่สาย A ร่วมกับ เยเมน, มาเลเซีย, สปป.ลาว ซึ่งถือว่าไม่แข็งนัก
โปรแกรมของฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ในรอบแบ่งกลุ่ม มีดังนี้
15 มิถุนายน 2566 เวลา 19.00 น. พบ สปป.ลาว (ปทุมธานี สเตเดียม)
18 มิถุนายน 2566 เวลา 19.00 น. พบ มาเลเซีย (ปทุมธานี สเตเดียม)
21 มิถุนายน 2566 เวลา 19.00 น. พบ เยเมน (ปทุมธานี สเตเดียม)
*ทุกนัดที่ ทีมชาติไทย U17 ลงทำการแข่งขันจะถ่ายทอดสดทาง True ID TV
หากยังแพ้อาเซียนด้วยกัน ตกรอบแรกคงดูไม่จืด และเชื่อว่าตำแหน่งแชมป์กลุ่มทำได้ไม่ยาก
จากนั้นในรอบน็อคเอาท์ 8 ทีมสุดท้าย จะไปตัดกับสาย B ที่มี เกาหลีใต้, อิหร่าน, อัฟกานิสถาน และ กาตาร์
อาจจะดูหนัก แต่บอลนัดเดียวตัดสิน อะไรก็เกิดขึ้นได้
ถ้ารอบนี้ ไทย คว้าชัยสำเร็จ ก็จะสร้างประวัติศาสตร์ไปแข่งฟุตบอลโลก U17 เป็นครั้งที่ 3 ทันที
ซึ่งไม่ใช่เรื่องฝัน
ในอดีต ไทยเราเคยไปฟุตบอลโลก U17 รอบสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้ง คือปี 1997 ที่อียิปต์ และปี 1999 ที่นิวซีแลนด์
แม้จะเป็นความทรงจำที่ไม่ดีนัก อย่างที่เคยเขียนไป คลิกอ่านได้ในเว็บไซต์
ครั้งนี้ จึงหวังมากว่า เราจะไปฟุตบอลโลก U17 อย่างยืดอกเต็มภาคภูมิสักครั้ง
U17 ชุดนี้ อยู่ภายใต้การทำทีมของ “โค้ชกบ” พิภพ อ่อนโม้ ถือว่าพร้อมสมบูรณ์กว่าอดีตมาก ได้ทรัพยากรนักเตะจากอคาเดมีไทยลีก แถมยังเป็นเจ้าภาพได้เล่นในบ้านอีกด้วย
ถ้าไม่ไปบอลโลกครั้งนี้ แล้วจะไปตอนไหน?
สำหรับ บัตรเข้าชมการแข่งขัน ทุกคู่ทุกสนาม จะเปิดขายพร้อมกันในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566 โดยสามารถซื้อบัตรเข้าชมผ่านออนไลน์ได้ที่เว็บ https://www.thaiticketmajor.com/ หรือซื้อหน้าสนามในวันแข่งขัน สนามปทุมธานี สเตเดียม ราคา 100/120 และ 150 บาท ส่วน สนาม ธรรมศาสตร์ สเตเดียม, สนามราชมังคลากีฬาสถาน และ ชลบุรี สเตเดียม ราคา 120/150 บาท
