การตกลงสู่แชมเปียนชิพของ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี อาจดูเหมือนว่า สโมสร กับ คิงพาวเวอร์ กำลังได้รับบทพิสูจน์ใหม่
แต่ถ้าเรามองในแง่มุมที่ดี คุณอัยยวัฒน์ ศรีรัตนประภา และ ทีมงานของเขาทุกคน ไปจนกระทั่งผู้เล่นสำรอง ได้โอกาสสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้เป็นของตนเอง
หลายปีที่ผ่านมาในยุคของคุณวิชัยผู้เป็นบิดา เลสเตอร์ ได้สร้างเทพนิยายที่สวยงามให้กับวงการฟุตบอล ด้วยการเป็นทีมเล็กที่ล้มเหล่าทีมยักษ์จนเป็นแชมป์ลีกที่แข็งแกร่งระดับ 1 ใน 5 ของโลกได้
จนกระทั่งคุณวิชัยได้ลาจากทีมไปตลอดกาล อันทำให้แชมป์พรีเมียร์ลีกลำดับที่หกได้ตกอยู่ในมือของคุณอัยยวัฒน์
แล้ววลียอดฮิตในวงการบริหารธุรกิจที่เกิดการส่งกิจการจากรุ่นสู่รุ่นก็เกิดขึ้น เหมือนทุกครั้งที่คนรุ่นต่อมาได้รับการสืบทอดกิจการที่คนรุ่นก่อนสร้างเอาไว้เป็นอย่างดี
คำครหาอย่าง ลูกไม้จะตกอยู่ส่วนใดของต้น หรือ ไม่ได้เก่งจริง ก็จะถูกนำมาตราหน้าผู้บริหารชุดใหม่อยู่เสมอ
คุณอัยยวัฒน์เองก็เลี่ยงคำนี้ไม่พ้นเช่นกัน แม้ว่าเขาจะอยู่กับบิดามาตั้งแต่วันที่ถูกเหยียดหยามจนคิดหาสโมสรมาทำเพื่อเอาคืนคนที่ดูถูกพวกเขา จนกระทั่งทีมประสบความสำเร็จอย่างสูงที่สุด
รวมทั้งแชมป์ฟุตบอลถ้วยในยุคของเขาก็หลีกหนีไปจากการใช้มรดกของบิดาไม่พ้น
ดังนั้นการได้เริ่มต้นใหม่ ณ จุดเดียวกับบิดา น่าจะเป็นโอกาสดีที่มีความยุติธรรมอยู่ในนั้น
การปลดหนี้ที่เกิดจากการลงทุนเพื่อสโมสรจนขาดการลงทุนในตลาดผู้เล่นที่ดีพอ รวมทั้งการขาดทุนที่เกิดจากพิษภัยของโรคระบาด อาจเป็นเหตุผลสำคัญในการตกชั้นที่ใครๆ ก็รู้
แต่ในฐานะประธานสโมสรของคุณอัยยวัฒน์ เขาก็ต้องรับผิดชอบด้วยการพาทีมเลื่อนชั้นให้ได้ภายใน 1 ซีซั่น จากนั้นจึงนำพาจิ้งจอกสยามให้อาละวาดได้อย่างดุร้ายอีกครั้ง
จนทุกคนต้องยอมรับอย่างเต็มใจว่า ลูกไม้ที่ชื่ออัยยวัฒน์ สามารถเป็นผลที่ดี มีคุณภาพ และ สามารถเติบใหญ่ได้ด้วยตนเอง
ซึ่งภารกิจทั้งหมดจะเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ในวันนี้