จากออสการ์ของ แซนดา บูลล็อค สู่ ออสการ์ในชีวิตจริงของ ลีห์ แอนน์ ทูฮี
ไมเคิล ออห์ร เกิดปี 1986 เป็นหนึ่งในบุตรทั้งหมดจำนวน 12 คนของบิดากับมารดาที่ประสบปัญหาชีวิตนานาประการ จนไร้ความสามารถในการเลี้ยงดูขุตร
เมื่อเข้าวัย 18 ปี เขาได้รับการอุปถัมภ์จาก ฌอน กับ ลีห์ แอนน์ ทูอี จนได้เป็นบุตรบุญธรรมของครอบครัว 4 คน เมื่อปี 2004 พร้อมกับการมีพรสวรรค์ที่ดีติดตัวอยู่แล้ว
จากนั้นชีวิตของเขาในฐานะนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ก็ได้เกิดสีสันจนกลายเป็นหนังสือขายดีเมื่อปี 2006 และ ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง The blind side ที่มีเนื้อหาอันเข้มข้นเมื่อปี 2009
หนังต้นทุน 29 ล้านเหรียญ ทำรายได้จากการฉายทั่วโลกสูงถึง 309 ล้านเหรียญ พร้อมกับรับรางวัลอะคาเดมี อวอร์ด สาขาดารานำหญิง และ เป็นหนังขึ้นหิ้งอีกหนึ่งเรื่องที่ให้ความฟีลกู้ด
ในขณะที่ ไมเคิล สับบทหนังว่า โอเวอร์ และ มีคนสังเกตว่าในหลายปีหลัง เขาแทบไม่ลงรูปครอบครัวในบัญชีโซเชียลเลย
ล่าสุด ไมเคิล ได้ยื่นฟ้องบิดา-มารดาบุญธรรม ด้วยการกล่าวหาว่าทั้งคู่ไม่ได้อุปถัมภ์เขาจริงๆ ในเอกสาร 14 หน้า
แต่กลับตั้งหน้าทำธุรกิจจากชีวิต และ ภาพลักษณ์ของเขา รวมทั้งไม่แบ่งผลประโยชน์ที่ได้จากหนังดังเรื่องนั้นให้แก่เขาเลย
เขาจึงขอให้ศาลสั่งให้ ครอบครัวทูอี ยุติบทบาทการเป็นผู้ดูแลทันที รวมทั้งให้จ่ายเงินย้อนหลังจากผลประโยชน์ที่ครอบครัวนี้เคยได้จากการขายเรื่องราวของเขาอีกด้วย
จาก Feel good ของ The blind side สู่ Feel dark แห่ง The money side อย่างแท้จริง
จะอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถูกวิเคราะห์เป็นสองแบบ คือ ถ้าหาก ไมเคิล ไม่ได้รับการอุปถัมภ์จากครอบครัวนี้ ทั้งการสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยเงิน และ การดูแล เขาจะได้เรียนระดับมหาวิทยาลัยจนถูกเลือกเข้าทีมอเมริกันฟุตบอล และ ได้แชมป์ซูเปอร์โบว์ลปี 2013 หรือไม่ แม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ด้านกีฬาอย่างชัดเจนก็ตาม
ส่วนอีกฝั่งก็ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมครอบครัวทูอี จึงไม่แบ่งปันเงินให้แก่ ไมเคิล และ ทำนิติกรรมอำพรางอะไรเอาไว้ เพื่อแฝงการหาแต่ผลประโยชน์หรือไม่
แต่ที่แน่ๆ ความบันเทิงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว