ไม่ว่าการออกสตาร์ทฟาวล์ของ อู๋ หยานนี นักวิ่งข้ามรั้วคนดังชาวจีน ที่เกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศวิ่งข้ามรั้ว 100 เมตรหญิง จะเกิดจากความตั้งใจ หรือ อุบัติเหตุ
แต่ทว่าในตอนนี้สังคมกรีฑาส่วนใหญ่ตัดสินไปแล้วว่า เธอตั้งใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายสมาธิของ จโยตี ยาร์ราจี ตัวเต็งเหรียญทองจากอินเดียซึ่งโดนเตือนกันทั้งคู่ฐานที่ทำฟาวล์
เมื่อเริ่มออกสตาร์ทใหม่อีกครั้ง การฟาวล์ครั้งแรกจึงถูกตีความว่า เธอทำเพื่อส่งความได้เปรียบขณะออกสตาร์ทไปให้ หลิน ยู่เหวย ที่สามารถคว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ ส่วน หยานนี ได้เหรียญเงิน และ ยาร์ราจี ที่ออกสตาร์ทใหม่ด้วยการเสียสมาธิได้เหรียญทองแดง
สุดท้ายเมื่อมีการประท้วงเกิดขึ้น หยานนี ถูกริบเหรียญเงินไปให้ ยาร์ราจี
ทางด้านสื่อและสังคมกรีฑาล้วนประณามว่า หยานนี ขี้โกง เพราะควรที่จะต้องออกจากการแข่งขันไปแล้ว แต่กลับได้ร่วมวิ่งอีกรอบ
แล้วเรื่องก็ไม่จบเท่านั้น เมื่อมีการขุดพฤติกรรมเดิมในอดีตของ หยานนี ออกมาโจมตีว่าเธอเคยทำแบบนี้มาแล้ว แถมยังไม่ยอมรับคำตัดสิน จนสมควรถูกแบนยาวไปจากวงการ
รวมทั้งยังมีการด่าทอในเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของเธออย่างหนักว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี เพียงแค่ หยานนี มีรอยสักที่ต้นแขน จนทำให้ถูกโจมตีจากชาวจีนหลายคนมาตลอด แม้ว่าเธอจะทั้งติดสติกเกอร์ทับ, เพนท์ทับ หรือ แม้แต่นำผ้ามาพันแขนไว้แล้วก็ตาม
บนลู่วิ่ง อนาคตของ หยานนี จะเต็มไปด้วยแรงกดดัน ทั้งจากเสียงเชียร์ และ แรงกระเพื่อมจากพลังคีย์บอร์ด
แต่สำหรับรอยสักนั้น น่าสนใจว่าแรงบับคั้นทางวัฒนธรรมจากสังคมจะตามราวีเธอไปถึงจุดไหน และ จะมีบทจบอย่างไร