โยนกันไป โยนกันมา บ้างก็ว่าโปรแกรมไทยลีกไม่เอื้อให้ทีมชาติ บ้างก็ว่าผู้บริหารสโมสร(บางคน)ตั้งใจไม่ปล่อยนักเตะให้อยู่แล้ว
ดูจากไทม์ไลน์ “ช้างศึก” อุ่นเครื่องนัด 2 กับ เอสโตเนีย วันที่ 17 ต.ค. บินกลับถึงไทย 19 ต.ค. หลังจากนั้นวันที่ 20 ต.ค. บีจี กับ บุรีรัมย์ มีเตะไทยลีก ก่อนลุยถ้วย เอซีแอล ต่อวันที่ 24 และ 25 ต.ค.
ถามแบบซื่อ ๆ ทำไม บีจี กับ บุรีรัมย์ ถึงไม่ขอเลื่อนเกมลีกออกไป ถ้ากลัวนักเตะตัวหลักล้าหากต้องไปรับใช้ชาติ
ส่องโปรแกรมหลังฟีฟ่าเดย์ “เดอะ แรบบิท” จะเปิดบ้านพบ ตราด วันที่ 20 ต.ค. ก่อนรับมือ คาวาซากิ ฟรอนตาเล จากญี่ปุ่น วันที่ 24 ต.ค.
ขณะที่ “ปราสาทสายฟ้า” จะไปเยือน เชียงราย วันที่ 20 ต.ค. ก่อนกลับมาเปิดบ้านพบ เมลเบิร์น ซิตี จากออสเตรเลีย วันที่ 25 ต.ค.
จริง ๆ แล้ว เกมไทยลีกคู่ เชียงราย กับ บุรีรัมย์ จะเจอกันในวันเสาร์ที่ 21 ต.ค. แต่ทางบุรีรัมย์ได้ทำเรื่องขอสลับเป็นเจ้าบ้านก่อน เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาเดินทางก่อนแข่งขัน เอซีแอล แต่ปรากฏว่าทาง เชียงราย ยืนยันจะแข่งในบ้าน ก่อนมีการตกลงกันระหว่างสองทีมในการขยับโปรแกรมให้เร็วขึ้นมาเป็นวันศุกร์ที่ 20 ต.ค.
นั่นหมายความว่า นักเตะหากติดทีมชาติจะมีเวลาพักแค่วันเดียว ก่อนเกมลีกจะแข่งขัน
มันจึงเป็นข้ออ้างได้ว่า ทั้งสองทีมไม่พร้อมปล่อยนักเตะไปเล่นทีมชาติ ทั้งที่จริง ๆ แล้วสามารถตกลงกันเลื่อนเกมดังกล่าวออกไปได้ เหมือนที่ ชลบุรี ขอเลื่อนเกมกับ แบงค็อก ไปเตะปลายปี
ส่วนโปรแกรม บียู หลังฟีฟ่าเดย์ ไม่มีเกมลีกมากวนใจ โดยจะไปเยือนฮ่องกงพบ คิตฉี เอสซี วันที่ 25 ต.ค. แต่ทำไมถึงไม่มีนักเตะมาติดทีมชาติแม้แต่คนเดียว ทั้งที่ผลงานกำลังยอดเยี่ยม
จึงอยากฝากถึงผู้บริหารสโมสร(บางคน) อย่าล้อเล่นกับศรัทธาแฟนบอลไทย