ความพยายามซื้อสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ ชีคห์ ยาสซิม จากซาอุดีอาระเบีย ได้สิ้นสุดลงภายหลังพยายามยื่นเสนอราคาซื้อ และ เจรจาต่อรองกรรมวิธีในการซื้อสโมสรจากตระกูลเกลเซอร์มานานเกือบปี
โดยจุดตัดที่ไม่ลงตัวก็คือจำนวนเงินก้อนที่เจ้าของเดิมต้องการตามข่าวอยู่ในช่วง 5,500-6,000 ล้านปอนด์ ซึ่งมากกว่าที่ทางซาอุฯ ยื่นเสนอมามากจนไม่มีวันบรรจบ
รวมทั้งเงินจำนวนที่ฝ่ายซาอุฯ ยื่นมาให้ ตามข่าวแจ้งว่าไหลเข้ากระเป๋ากลุ่มเกลเซอร์ราว 70% เท่านั้น
เพราะทางซาอุฯ จะนำเงินบางส่วนไปใช้หนี้เดิม ปรับปรุงสนามแข่ง ลงทุนในตลาดนักเตะ ฯลฯ จนทำให้ทางกลุ่มเกลเซอร์ไม่พึงพอใจ และ ยืนกรานที่เพดาน 5,500 ล้านปอนด์มาตลอด
จนนำมาซึ่งความยืดเยื้อนานหลายเดือน อันส่งผลต่อการทำทีมในฤดูกาลนี้ของ เอริก เทน ฮาก ทั้งงบเสริมทัพ และ ความดึงดูดใจสำหรับตลาดนักเตะอย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งมีข่าวว่า เซอร์ จิม แรมคลิฟฟ์ จะลดจำนวนการซื้อหุ้นสโมสรจากเดิม 70% มาเหลือเพียง 25% ก็ยิ่งสร้างความไม่สบายใจให้ผู้สนับสนุนทีมมากขึ้นไปอีก
เพราะเท่ากับว่ากระแส #GlazersOut ที่พวกเขาเพียรพยายามทำมานับสิบปียังไม่ใกล้คำว่าสัมฤทธิ์ผล
นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งมองในแง่ดีว่า สโมสรมีความชัดเจนขึ้น และ มีทิศทางที่แน่นอน ซึ่งดีในแง่ของการบริหาร
แต่อีกส่วนก็มองว่าการบริหารสโมสรจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แม้ทางเซอร์จิมจะขออำนาจการบริหารทีม โดยจะยังให้กลุ่มเกลเซอร์บริหารสโมสรต่อไป
เพราะแม้ว่าเซอร์จิมจะมีจิตวิญญาณความเป็นแฟนบอลอจ่างชัดเจน แต่ผลงานการบริหารสโมสรนีซในลีกเอิงก็สร้างความกังวลให้คนรักปีศาจแดงไม่น้อย
ปี 2023 สำหรับสาวกปีศาจแดงจึงกลายเป็นการครบรอบ 10 ปีที่ร้างแชมป์ที่เต็มไปด้วยเมฆหมอกแห่งความวิตกกังวลอย่างแท้จริง
เพราะอันดับในขณะนี้ กับ ฟอร์มการเล่นที่ปรากฏออกมายังห่างไกลกับคำว่าลุ้นแชมป์อยู่มาก แล้วยิ่งต้องรู้ว่าเกลเซอร์จะยังอยู่กับสโมสรต่อไป เท่ากับว่าอาฟเตอร์ช็อคหลังแผ่นดินไหวยังคงมีต่อไปมิรู้จบ
พวกเขาจึงต้องกล้ำกลืนความหวังอันริบหรี่ลงคอ และ ก้มหน้ายอมรับสภาพการอยู่ภายใต้จักรวาล แมนซิตี้ vs ลิเวอร์พูล ต่อไปอีกหลายปี
Welcome to 70s-80s Project