การเป็น หัวเสือ(ใต้) , หัวหงส์(แดง) หรือ หัวราชัน(ชุดขาว) ล้วนเป็นงานในฝันของกุนซือทุกคนในโลกนี้
แน่นอนว่าสำหรับ “ชาบี อลอนโซ” กุนซือดาวรุ่งพุ่งแรงที่เคยเป็นผู้เล่นของสามสโมสรก็ไม่เว้นเช่นกัน
แต่การย้ายหนี ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน หลังจบฤดูกาลนี้ อาจจะยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับอดีตมิดฟิลด์เชิงสูงรายนี้
เก้าอี้ผู้จัดการทีม เรอัล มาดริด ยังเป็นของ คาร์โล อันเชล็อตติ อย่างมั่นคง
ส่วนเก้าอี้ร้อนที่ บาเยิร์น มิวนิก คู่ชิงแชมป์บุนเดสลีกาของ อลอนโซ กับ เก้าอี้ที่มีความพร้อมของผู้มาใหม่ที่ลิเวอร์พูล ดูมีความกระชั้นชิดเกินไปสำหรับเขาพอสมควร
จริงอยู่ที่เหล่ากุนซือมือใหม่อย่าง แฟรงค์ ไรจ์การ์ด กับ เปป กวาร์ดิโอลา ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับบาร์เซโลนา
ผลงานอันสุดยอดของ ซีเนดีน ซีดาน ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้ เรอัล มาดริด ก็เป็นงานระดับมาสเตอร์ของของยอดนักเตะผู้นี้
รวมถึง ฮันซี ฟลิก ที่ทำผลงานอันยิ่งใหญ่ไว้ให้ บาเยิร์น มิวนิก ก็เป็นตัวอย่างที่น่าลิ้มลอง
แต่สำหรับกรณีของ อลอนโซ กับ เลเวอร์คูเซน มีความแตกต่างออกไป
ทีมนายห้างขายยากำลังจะมีเกียรติยศระดับประวัติศาสตร์ภายใต้ยุคสมัยของเขา และ นี่คือทีมที่เขากำลังสร้างขึ้นมากับมือด้วยการเสริมทีมในตลาดที่ผ่านมา
สมมุติว่า เลเวอร์คูเซน คว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรกของสโมสรได้ และ มีถ้วยยูโรปา ลีก หรือ เดเอฟเบ โพคาล เป็นน้ำจิ้ม
จะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำให้ อลอนโซ อยากจะอยู่ต่อเพื่อพาทีมคว้าแชมป์สมัยที่สองแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยจะเป็นทีมที่สามถัดจาก ฮัมบูร์ก กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ขวางทางแชมป์ของ บาเยิร์น ได้ถึงสองสมัยติดต่อกัน
จนทำให้ ชาบี อลอนโซ กลายเป็น นายห้างขายยาชาบี คนดีของแฟนบอล
รวมทั้งการพาทีมที่เขาภาคภูมิใจลงไปวาดลวดลายในฟุตบอลแชมเปียนส์ลีกอย่างเต็มตัวครั้งแรก ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ อลอนโซ อยากฝากผลงานเอาไว้ให้เถิดเทิงที่สุด
นอกจากจะเป็นการสานต่อนสิ่งที่สร้างแล้ว ยังเป็นการสะสมชั่วโมงบินของตนเองให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย
แล้วเมื่อถึงเวลานั้น บางทีเก้าอี้ทีมใหญ่ๆ อาจมีให้เลือกมากกว่าในเวลานี้ก็ได้ ทั้งในลาลีกา , พรีเมียร์ลีก , เซเรียอา , ลีกเอิง , เก้าอี้ที่เมืองมิวนิกตัวนั้นอาจจะยังว่างอยู่ก็ได้ และ อาจรวมไปถึงเก้าอี้ใหญ่อย่างทีมชาติสเปน
