Link Copied!

ผลงานเยี่ยม! นักปั่นไทยคว้าที่ 3 เอเชีย-เบอร์ 1 อาเซียน

ทัพนักปั่นไทยผลงานเยี่ยม คว้าอันดับที่ 3 เอเชีย ผงาดแชมป์อาเซียนศึกสองล้อประเภทถนน ที่คาซัคสถาน

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ ได้เดินทางไปต้อนรับคณะนักกีฬาจักรยานประเภทถนนทีมชาติไทยที่กลับจากการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2024 รุ่นประชาชน ครั้งที่ 43 และรุ่นเยาวชน ครั้งที่ 30 ที่กรุงอัลมาตี ที่ประเทศคาซัคสถาน เมื่อวันที่ 6-12 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยทัพนักปั่นไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้ามาได้ 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 5 เหรียญทองแดง โดยมีบรรดาญาติพี่น้องและแฟนคลับของนักปั่นไทยไปร่วมต้อนรับอย่างอบอุ่น เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 มิถุนายน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

สำหรับผลงานของทัพนักปั่นไทย 3 เหรียญทอง ได้จาก นายธรรมรัตน์ ถวิล ไทม์ไทรอัล รุ่นมาสเตอร์ อายุ 40-44 ปีชาย, นายสุริยา แสงบุญ ไทม์ไทรอัล รุ่นมาสเตอร์ อายุ 50-54 ปีชาย, “โค้ชตั้ม” นายวิสุทธิ์ กสิยะพัท โรดเรซ รุ่นมาสเตอร์ อายุ 50-54 ปีชาย / 2 เหรียญเงิน ได้จาก น.ส.อารี ภูฆัง ไทม์ไทรอัล รุ่นมาสเตอร์ อายุ 40-44 ปีหญิง, นายกฤษณะ แก้วจันทร์ ไทม์ไทรอัล รุ่นมาสเตอร์อายุ 35-39 ปีชาย / 5 เหรียญทองแดง ได้จาก รายการไทม์ไทรอัลมิกซ์ทีมรีเลย์ รุ่นเยาวชนชาย-หญิง (นายอภิสิทธิ์ สุพรรณ์, นายธนภัทร สกุลแตร, นายพีรวิชญ์ สุโพเคน, น.ส.พิทยาพร แซ่ตั๋น, น.ส.ณัฐชา สงเคน, น.ส.สุพรรณิการ์ จันทร), น.ส.อาทิตติยา ปิดตานัง ไทม์ไทรอัล รุ่นมาสเตอร์ อายุ 40-44 ปีหญิง, นายตุลธร โสสลาม ไทม์ไทรอัล รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย, นายธรรมรัตน์ ถวิล โรดเรซ รุ่นมาสเตอร์ อายุ 40-44 ปีชาย, นายเพชรพนม พันธ์เมือง โรดเรซ รุ่นเยาวชนชาย

พลเอกเดชา เปิดเผยว่า การแข่งขันครั้งนี้ถือว่านักปั่นไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยได้อันดับ 3 จากอันดับรวมทั้งหมด ส่วนอันดับ 1 เป็นของเจ้าภาพประเทศคาซัคสถาน ได้ 15 เหรียญทอง 9 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง และอันดับ 2 ประเทศอิหร่าน ได้ 4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง อย่างไรก็ตาม ในภูมิภาคอาเซียน จำนวนเหรียญรวมของประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย จากผลงาน 1 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน รั้งอันดับ 10 ของอันดับรวม ซึ่งก็เป็นตัวชี้วัดได้ว่าในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปีหน้า เราต้องเตรียมวางแผนอย่างไร ควรจะจัดให้มีการชิงชัยกี่เหรียญทอง เนื่องจากเราทราบแล้วว่าประเภทไหนเราสู้ได้และมีความหวังเหรียญทอง ประเภทไหนโอกาสก้ำกึ่ง

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ภาพรวมของการแข่งขันครั้งถือว่าทีมนักปั่นไทยทำผลงานได้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะรุ่นมาสเตอร์ได้ถึง 3 เหรียญทอง ขณะเดียวกันผลงานของนักปั่นรุ่นเยาวชน และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทั้งชายและหญิงก็ถือว่าทำผลงานได้น่าพอใจมีการพัฒนาขึ้น ส่วนทีมผสมต้องกลับมาแก้ไขข้อบกพร่องอีกเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะการประสานงานกันยังไม่ดีพอ ขอขอบคุณแรงใจจากพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ที่ช่วยเป็นกำลังใจให้นักปั่นไทยทุกคนสู้อย่างเต็มที่ ซึ่งตนก็ได้ย้ำเตือนนักกีฬาว่าขอให้ตั้งใจฟิตซ้อมต่อไป หลังจากนี้ก็จะปล่อยให้นักกีฬาไปแข่งขันจักรยานประเภทถนนและเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทยฯ ประจำปี 2567 สนามที่ 5 ที่จังหวัดพิจิตร ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน เพื่อจะดูว่ายังรักษามาตรฐานเอาไว้ได้หรือไม่ พร้อมทั้งดูนักปั่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมด้วย

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ส่วนการเตรียมทีมของนักปั่นประเภทถนนชุดเตรียมโอลิมปิกเกมส์ 2024 หลังจบการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยฯ สนามที่ 5 ที่จังหวัดพิจิตรแล้ว ก็จะเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวไปแข่งขัน “ปารีสเกมส์” ที่ประเทศฝรั่งเศส ในช่วงวันที่ 26 กรกฎาคม ถึงวันที่ 11 สิงหาคม ซึ่งนักกีฬาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 จำนวน 5 ที่นั่ง ประกอบด้วย ประเภทถนน 3 ที่นั่ง จากรายการโรดเรซหญิง และไทม์ไทรอัลหญิง นักกีฬาได้แก่ “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช, “บีม” ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ และโรดเรซชาย “เฟรม” ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ / ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ เรซซิ่ง 1 ที่นั่งจาก “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ และประเภทลู่ 1 ที่นั่งจาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ ที่จะลงแข่งขันรายการคีริน สำหรับนักกีฬาประเภทถนนจะไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนโกเมธ ฝึกซ้อมอยู่ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์ สวนกีฬากมล เขตหนองจอก และ “ทีเจ” จาย เก็บตัวอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

“เสธ.หมึก” กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความสำเร็จของนักปั่นไทยดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้จัดการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประเภทต่าง ๆ ปีละ 28 สนาม ประกอบด้วย ประเภทถนน, เสือภูเขา, บีเอ็มเอ็กซ์ และลู่ ประเภทละ 5 สนาม รวมถึงการแข่งขันจักรยานประเภทถนน และเสือภูเขาทางเรียบ “ไทยแลนด์ โอเพ่น” อีกรายการละ 4 สนาม เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาหน้าใหม่ หรือนักปั่นดาวรุ่งได้มีเวทีแสดงฝีมือ อีกทั้งเป็นการเฟ้นหานักปั่นที่มีฝีมือโดดเด่นก้าวขึ้นมาติดทีมชาติไทยทดแทนรุ่นพี่ ๆ นอกจากนั้นสมาคมฯ ยังได้จัดการแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถ หรือ Balance Bike อีกปีละ 5 สนาม สิ่งเหล่านี้คือแผนยุทธศาสตร์ที่สมาคมฯ ได้กำหนดเอาไว้เพื่อพัฒนานักกีฬาไปสู่ความเป็นเลิศอย่างมีระบบและต่อเนื่อง ดังเจตนารมณ์ในการบริหารงานที่ว่า “มุ่งมั่นพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ และต่อยอดไปสู่กีฬาอาชีพ” เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย

Total
0
Shares