ศึก ยูโร 2024 เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศแล้ว คืนนี้ (9 ก.ค.) คู่แรก “กระทิงดุ” สเปน ดวลกับ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ที่สนามมิวนิค เริ่มเตะเวลา 02.00 น. ช่อง พีพีทีวี เอชดี 36 ถ่ายทอดสด
–ผลงานที่ผ่านมา
สเปน
รอบแบ่งกลุ่ม
ชนะ โครเอเชีย 3-0
ชนะ อิตาลี 1-0
ชนะ แอลเบเนีย 1-0
รอบ 16 ทีม
ชนะ จอร์เจีย 4-1
รอบ 8 ทีม
ชนะต่อเวลา เยอรมนี 2-1 (90 นาที เสมอ 1-1)
ฝรั่งเศส
รอบแบ่งกลุ่ม
ชนะ ออสเตรีย 1-0
เสมอ เนเธอร์แลนด์ 0-0
เสมอ โปแลนด์ 1-1
รอบ 16 ทีม
ชนะ เบลเยียม 1-0
รอบ 8 ทีม
ชนะจุดโทษ โปรตุเกส 5-3 (120 นาที เสมอ 0-0)
–เช็คขุมกำลัง
ทัพ “กระทิงดุ” สเปน ของกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต เกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งาน 2 แนวรับตัวหลักอย่าง ดานี การ์บาฆาล และ โรบิน เลอ นอร์มองด์ ที่ติดโทษแบน คาดว่า เฆซุส นาบาส และ นาโช เฟร์นานเดซ จะได้ลงทำหน้าที่แทน นอกจากนั้น เปดรี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมล่าสุดไม่น่าหายทัน โดย ดานี โอลโม ที่ซัดประตูได้ในเกมล่าสุด จะผนึกกำลัง ฟาเบียน รุยซ์ ขับเคลื่อนเกมกลางสนาม ส่วนแนวรุกยังมี ลามีน ยามาล, อัลวาโร โมราตา และ นิโก วิลเลียมส์ ยืนเป็น 3 ประสาน ขณะที่ผู้รักษาประตู อูไน ซิมอน ที่เซฟพัลวัลในเกมล่าสุดลงเฝ้าเสาเหมือนเดิม
ส่วนทัพ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ของกุนซือ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ นัดนี้จะได้ อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง ส่วนตัวหลักคนอื่นๆ อยู่กันพร้อมหน้า ไมค์ เมนยอง ลงเฝ้าเสา พร้อมแผงแบ็คโฟร์ ฌูลล์ กุนเด, ดาโยต์ อูปาเมกาโน, วิลเลียม ซาลิบา, เตโอ เฟร์นานเดซ ส่วนแดนกลางมี เอ็นโกโล ก็องเต, ออเรเลียง ชูอาเมนี, อาเดรียง ราบิโอต์ ขับเคลื่อนเกม ขณะที่ อองตวน กรีซมันน์ รับบทหน้าต่ำปั้นเกมรุกให้ มาร์คัส ตูราม และ คิเลียน เอ็มบัปเป ที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม
ความน่าจะเป็นของเกม :
รอบ 8 ทีมที่ผ่านมา สู้กันจนต่อเวลาถึง 3 คู่ และต้องดวลจุดโทษตัดสิน 2 คู่ เรียกว่ามาถึงรอบนี้แล้วไม่มีใครยอมใคร ยิ่งสถิติเจอกันของคู่นี้สุดสูสี 5 นัดหลังสุด ผลัดกันแพ้-ชนะ 2 ครั้ง และเสมอ 1 ครั้ง แม้ว่าฟอร์มในทัวร์นาเมนท์นี้ สเปน จะดูดีกว่า โดยเฉพาะแนวรุกที่ครบเครื่อง แต่แนวรับ “กระทิงดุ” ขาด 2 ตัวหลัก น่าจะส่งผลพอสมควร ผิดกับทาง ฝรั่งเศส ที่สภาพสมบูรณ์สุดๆ แม้ว่าฟอร์มโดยรวมจะสู้ไม่ได้ แต่ทัพ “ตราไก่” มีความเก๋า ดูแล้ว รูปเกมจะเปิดแลกกันสนุกตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันดี จึงมีโอกาสต้องลุ้นยาวถึงช่วงต่อเวลาค่อนข้างสูง