โชคชะตา พรหมลิขิต วาสนา ชีวิตลิขิตเอง
ใครจะไปคิดว่าการเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศยิบรอลตาร์ของหนุ่มวัย 18 ปี จะเปลี่ยนโฉมการใช้ชีวิตภายในแค่ชั่วข้ามคืน
หลุยส์ เพอร์รี วัยรุ่นสิบแปดฝนคนเดินทางจากเมืองเชสเตอร์ ได้ชวนกลุ่มเพื่อนไปพักผ่อนกันที่ บรูโน บาร์ แอนด์ เรสเตอรองต์ สถานดื่มกินอันเป็นกิจการของคุณปู่ที่ยิบรอลตาร์
เมื่อแอลกอฮอล์ได้ที่ จิตวิญญาณนักบอลเข้าสิงจิตใจ รวมทั้งเลือดลมอันพลุ่งพล่าน เขาจึงตัดสินใจว่าจะสร้างทีมฟุตบอลของตัวเองขึ้นมา
หลุยส์ ก็เหมือนกับเด็กอังกฤษที่มีจิตใจรักฟุตบอลหลายคน ที่มีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แต่เมื่อคุณภาพไม่เข้าเกณฑ์ เขาก็หันไปเป็นนักเตะซันเดย์ลีก และ หวังว่าในสักวันจะทำตามความฝันให้ได้ แม้ว่าฝันนั้นจะขนาดเล็กลงก็ตาม
การไปเที่ยวยิบรอลตาร์จึงมีทั้งการพักผ่อน การเยี่ยมญาติ และ ทำตามวัตถุประสงค์นั้น
หลุยส์ เดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรแคนรอนส์ ทีมเล็กๆ ที่พ่ายแพ้ 100% ในสองปีล่าสุด
เขาเดินเข้าไปเสนอตัวกับโค้ชว่า ผมยังหนุ่ม แข็งแรง และ ดีพอที่จะเล่นให้คุณ ถ้าตำแหน่งแบ็กซ้ายของคุณว่าง ลองส่งผมลงไปทดสอบในเกมต่อไปดูสิ
ผลคือ หลุยส์ ได้ลงสนาม ยิงสองประตู และ ทีมชนะ
“ผมรู้สึกเหมือนเป็น ลีโอเนล เมสซี ในทันทีที่เกมจบลง และ หวังว่าจะได้รับสัญญา แต่ความหวังก็ดับลงเมื่อพวกเขาไม่ต้องการนักเตะใหม่”
แต่แล้วคำปฏิเสธนั้น กับ ความมุ่งมั่นเดิมที่มี กลับหล่อหลอมจนรวมกันเป็นความตั้งใจผสมความอยากเอาชนะ เขาจึงได้ตัดสินใจร่วมกับคุณปู่ที่บาร์แห่งนั้นว่าจะสร้างสโมสรฟุตบอลขึ้นมาเองเสียเลย
แม้อายุจะไม่ถึงเกณฑ์ แต่เขายังมีปู่ ท่านจึงเป็นคนจัดการเรื่องทางธุรกิจให้หลานชายไฟแรงที่กำเงินสด 1,000 ปอนด์ ไปจดทะเบียนสโมสรฟุตบอล และ ทีมสำรองตามกฎของสมาคมฟุตบอลที่นั่น
คุณปู่ซู่ซ่ายังได้ลงทุนด้านการบริหารทีมให้หลานชาย ทั้งเรื่องค่าชุด ค่าอุปกรณ์ ค่าอาหาร ฯลฯ
คนหนุ่มย่านนั้น พนักงานในร้าน นักท่องเที่ยว และ นักพนันบางคนผลัดกันแวะเวียนมาเป็นผู้เล่นให้ทีมใหม่ป้ายแดง
โค้ชคนแรกของพวกเขาคือ มิค เอ็มเบิลตัน แฟนพันธุ์แท้ของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ซึ่งทำการตกลงกับ หลุยส์ ด้วยการจะทำงานให้ฟรีๆ
เพียงแค่แลกกับการใส่คำว่า “แม็กพายส์” เข้าไปในชื่อสโมสร และ ใช้สีขาวดำเป็นสีประจำทีม
การฝึกซ้อมในวันแรกราวกับซิทคอมที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ผสานกับเสียงหัวเราะ
ผู้เล่นหลายคนทักษะดูดี แต่น้ำหนักเกินขนาด และ หอบแดดเมื่อการฝึกซ้อมหนักขึ้น
เชฟที่บาร์ของคุณปู่จึงเข้ามาช่วยดูแลเรื่องโภชนาการ และ ทุกอย่างเริ่มจริงจังมากขึ้น
ปัจจุบัน หลุยส์ เป็นเจ้าของร่วมของทีม F.C. Bruno’s Magpies ที่เลื่อนชั้นขึ้นมายังลีกสูงสุดหลังจบฤดูกาล 2018/19 ในฐานะแชมป์ดิวิชั่นสอง จากนั้นสามารถคว้าแชมป์ร็อค คัพ 2023
โดยที่ หลุยส์ ได้ใส่ชื่อตัวเองเข้าไปในทีมชุดฤดูกาล 2020/21 อันเป็นการเติมเต็มฝันของตนเองด้วย
ทีมของเขาพัฒนาจนได้เข้าร่วมรอบคัดเลือกฟุตบอลยูฟา ยูโรปา คอนเฟอร์เรนซ์ ลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
สองปีแรก ทีมตกรอบแรกตามคาด
ปีปัจจุบัน ชนะ เดอร์รี ซิตี ทีมในลีกสูงสุดของไอร์แลนด์ในรอบแรก จนสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบคัดเลือกรอบสองได้สำเร็จ
แม้ด่านต่อไปจะเป็นของแข็งอย่าง เอฟซี โคเปนเฮเกน ทีมดังจากเดนมาร์ก
แต่ หลุยส์ กับ นาธาน รูนีย์ โค้ชคนเก่งคนปัจจุบันของ เดอะ แม็กพายส์ และ ลูกทีมทุกคนคงหวังว่าจะสร้างนิทาน แจ็ค ผู้ล้มยักษ์ เวอร์ชั่นยิบรอลตาร์ขึ้นให้ได้
วันที่ 25 ก.ค. และ 1 สิงหาคมนี้ แฟนบอลนิวคาสเซิลน่าจะแบ่งใจไปเชียร์ เดอะ แม็กพายส์ สาขายิบรอลตาร์กันบ้าง