“ผมมีความทรงจำอันหลากหลายในการลงเล่นให้ทีมชาติเวลส์เพื่อแข่งกับทีมชาติสกอตแลนด์ โดยเฉพาะในคืนวันที่ จ็อค สตีน เสียชีวิตในสนามแข่ง
มันเป็นค่ำคืนที่เลวร้ายสำหรับวงการฟุตบอล แต่สิ่งที่ติดอยู่ในใจของผมซึ่งมีหลายความรู้สึกเกิดขึ้นก่อนแมตช์สำคัญจะเริ่มแข่ง
ผมกับเพื่อนร่วมทีมชาติเวลส์ซ้อมกันตามปกติ แต่ทุกครั้งที่เราทำลูกบอลพลาดเป้าไปที่อัฒจันทร์ซึ่งมีแฟนบอลสกอตแลนด์อยู่ พวกเขาจะยึดเอาไว้เลย
ผ่านไปราว 10 นาที เราไม่มีลูกบอลซ้อมอีกแล้ว เราไม่เคยได้มันคืนกลับมาแม้แต่ลูกเดียวจนลูกฟุตบอลสิบกว่าลูกของเราหมดลง
ผมเดินออกจากสนามเพื่อกลับเข้าห้องพัก ก็บังเอิญเจอกับ จ็อค สตีน ที่กำลังเดินออกไปสู่สนามเพื่อทักทายแฟนบอลของพวกเขา ผมจึงเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง
เขาเดินตรงไปที่กลุ่มของแฟนบอล อีกไม่กี่วินาทีต่อมาผมเห็นเขาทำท่าทางอะไรบางอย่าง จนกระทั่งแฟนบอลคืนลูกฟุตบอลกลับมาให้เรา
ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย เขาคือแบบอย่างของการเป็นผู้ทรงอิทธิพลผ่านออร่าเฉพาะตัวออกไปสู่ผู้คน
เขาต้องการชัยชนะด้วยวิธีที่เหมาะสมผ่านการเล่นของลูกทีม รวมทั้งต้องการให้แฟนบอลปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง มันเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ
แม้ผมจะพยายามนึกถึงผู้จัดการทีมคนที่สองที่เป็นไปในลักษณะนี้ แต่ผมก็ไม่สามารถนึกออกว่าเป็นใคร”
จากคำสัมภาษณ์ของ เนวิลล์ เซาธอลล์ อดีตตำนานผู้รักษาประตูทีมชาติเวลส์
ในแมตช์แห่งศักดิ์ศรีที่มีตั๋วไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่เม็กซิโกเป็นเดิมพัน ณ สนามนิเนียน พาร์ค เมืองคาร์ดิฟฟ์
เจ้าบ้าน เวลส์ ต้องการชัยชนะเพื่อไปฟุตบอลโลก 1986 ในขณะที่ทีมเยือน สกอตแลนด์ ขอแค่ผลเสมอ
มาร์ค ฮิวจ์ส ทำประตูพา “มังกรแดง” เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งแรก
ความตึงเครียดหันกลับมากระหน่ำใส่สกอตแลนด์ โดยเฉพาะ จ็อค สตีน ที่มีเดิมพันด้วยขาเก้าอี้ หลังพาสกอตแลนด์ตกรอบคัดเลือกมาจากยูโร 1984 จนถูกสั่งว่าห้ามพลาดเม็กซิโก
กุนซือผู้พา เซลติก เป็นสโมสรแรกของสหราชอาณาจักร และ ย่านเกาะอังกฤษที่คว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพ จึงเต็มไปด้วยความกดดัน จนส่งผลให้อาการป่วยจากน้ำท่วมปอดที่มีดูแย่ลงกว่าเดิม
เขาลืมทานยาประจำ และ ทวีความเครียดไปตามเวลาที่เดินไปสู่นาทีท้ายๆ ของเกม
จนกระทั่งทีมวิสกี้ตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 81 และ คว้าแต้มสำคัญได้ในที่สุด การันตีการไปเล่นเพลย์ออฟกับทีมชาติออสเตรเลียที่ไม่ใช่งานยากนัก
แต่จากการสะสมความเครียดตลอดทั้งเกม เขาหมดสติแล้วล้มลงคาบริเวณซุ้มม้านั่งสำรอง จนถูกนำส่งโรงพยาบาล ภายในเวลาต่อมาทุกคนจึงทราบข่าวร้ายว่า จ็อค สตีน เสียชีวิตลงแล้ว
เขาทำหน้าที่สำคัญได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่อาการหัวใจวายเฉียบพลันพรากเอาชีวิตของเขาไปจนพลาดการพาทีมชาติสกอตแลนด์ไปตะลุยเม็กซิโก