เกมบุนเดสลีกานัดที่ 31 ของฤดูกาล 1996/97
บาเยิร์น มิวนิก 30 นัด 63 แต้ม
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 30 นัด 60 แต้ม
วันที่ 10 พฤษภาคม 1997
จิโอวานนี ทราปัตโตนี ที่ใส่แผนเก่งสไตล์อิตาเลียนเข้าไปใน บาเยิร์น มิวนิก ซึ่งมี เยอร์เกน คลินส์มันน์ อดีตลูกทีมเก่าคนเก่งที่เป็นทั้งแชมป์โลก , แชมป์ยูโร และ กองหน้าเบอร์หนึ่งของทีม
เกมในวันนั้น เสือใต้ เปิดบ้านพบ ไฟร์บวร์ก ทีมในกลุ่มตกชั้น และ ยังเสมอกัน 0-0 เมื่อจบครึ่งแรก
โดยช่วงต้นของครึ่งหลัง อิบแทรป แก้เกมรุกด้วยการส่ง เมเม็ต โชล กับ คาร์สเทน ยังเคอร์ ลงมาแก้ไขเกมรุก พร้อมให้ ฉลามขาว ถ่างออกไปด้านข้างเพื่อให้ ยังเคอร์ ไปเป็นหน้าเป้าแทน
นั่นจึงเป็นการสร้างความไม่พอใจให้ คลินส์มันน์ อยู่ในใจเงียบๆ จนกระทั่งนาทีที่ 80 อิลแทรป เลือกส่งตัวสำรอง คาร์เทน ลาร์กีส ลงมาแทน ฉลามขาว ซึ่งซ้ำรอยแมตช์ก่อนหน้าที่เขาถูกเปลี่ยนออกท้ายเกมที่เสมอคู่แข่ง 3-3 ที่เขาก็มีอาการไม่พอใจ
นั่นคือเกมแรกในชุดเสือใต้ของกองหน้าตัวสำรอง ซึ่ง คลินส์มันน์ เดินออกมาตีมือกับกองหน้ารุ่นน้อง แล้วหันไปสบถใส่กุนซือด้วยความโมโห
จากนั้นเขาก็ยันโครมเข้าใส่ สแตนด์โฆษณาถ่ายยี่ห้อซันโย จนเป็นรูเท่ารอยเท้า
จบเกม เสมอกัน 0-0 เสือใต้มี 64 แต้ม ส่วนทางทีมนายห้างขายยาชนะ มีเพิ่มเป็น 63 แต้ม
ภายหลังเกมจบไม่นาน คลินส์มันน์ กล่าวขอโทษกุนซือมากฝีมือ พร้อมยอมรับว่าเขาน็อตหลุดชั่วคราว
ส่วน ทราปัตโตนี กล่าวว่าเขาเข้าใจความมุ่งมั่นของลูกทีม แล้วชมว่าเป็นสิ่งดีที่ไม่พอใจสถานการณ์ของทีมที่ต้องการชัยชนะ
ใน 3 เกมสุดท้าย เสือใต้ได้เพิ่มอีก 7 แต้ม พร้อมกับ 2 ประตู 1 แอสซิสต์ และ ไม่ถูกเปลี่ยนออก จนทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสำเร็จ
แต่นั่นคือฤดูกาลสุดท้ายของฉลามขาวในการเล่นบุนเดสลีกา
เพราะผลโพลล์เมื่อวันนั้นออกมาว่า
คลินส์มันน์ เล่นดี 38% , ปานกลาง 52% , เล่นแย่ 10% และ ผ่านจุดสุดไปแล้วขณะมีวัย 33 ปี จำนวน 53%