“ผมแค่อยากทำร้ายตัวเอง หลังจากไม่ชนะมาหกนัดติดกัน”
เปป กวาร์ดิโอลา
แพ้ในพรีเมียร์ลีก 3 เกมติดต่อกัน กับ ไม่ชนะ 6 เกมติดต่อกัน จนเป็นสถิติที่แย่ที่สุดในอาชีพ
ภายหลังพา แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกของสโมสร และ เป็นครั้งแรกของตนเองหลังย้ายจาก บาร์เซโลนา
พา แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าสามแชมป์ใหญ่เป็นลำดับสองของอังกฤษ
พา แมนเชสเตอร์ ซิตี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัยติดต่อกันได้เป็นทีมแรก
แทบไม่มีใครจะกล้าคิดว่าในวันหนึ่ง เปป จะทำสถิติด้านลบให้กับตัวเองได้ในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าอาจรวมถึงตัวของเขาเองด้วย
เขาออกจาก บาร์เซโลนา เพื่อตามหาความท้าทายใหม่
เขาออกจาก บาเยิร์น มิวนิก เพื่อหาบอร์ดบริหารที่สนับสนุนความต้องการ
ทั้งสองสโมสรดังกล่าว เปป พาทีมใหญ่คับลีกอย่าง บาร์เซโลนา ยืนเหนือ เรอัล มาดริด และ ครองยุโรปด้วยฟุตบอลที่เป็นดีเอ็นเอจนไม่มีอะไรให้พิสูจน์
เขาพา เสือใต้แห่งมิวนิก ครองแชมป์ลีกได้ตามปกติ แต่คิดว่ายังไม่ได้รับแรงสนับสนุนในการสร้างทีมในแบบฉบับของตนเองมากพอ
จนย้ายมาได้รับสิ่งที่ต้องการที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ทั้งทรัพยากรเดิมที่คุณภาพดีในหลายตำแหน่ง บอร์ดให้งบเสริมทัพมหาศาล และ ศูนย์เยาวชนผลิตเด็กคุณภาพขึ้นมาป้อน
จนกลายเป็นสโมสรที่เขาทำงานนานถึงฤดูกาลที่ 9 และ เพิ่งต่อสัญญาออกไปอีก
ฤดูกาลนี้ แม้ แมนเชสเตอร์ ซิตี จะเสริมทัพน้อยลงอย่างฮวบฮาบตามปัญหาที่กำลังเป็นคดีความอยู่กับพรีเมียร์ลีก
แต่ทีมของเขาก็ยังคงเป็นเต็งหนึ่งในทุกรายการ และ ไม่มีใครคาดคิดว่า เรือใบลำนี้จะโดนพายุใหญ่หลายลูกซัดใส่จังๆ จนโคลงเคลงไปมาอย่างน่ากลัว
นั่นคือการเล่นที่ไม่เข้าฝัก หรือ ไม่เปี่ยมประสิทธิภาพแบบที่ผ่านมา จนทำสถิติที่ไม่น่าจำขึ้นอย่างที่เห็น
ใช่ เควิน เดอ บรอยน์ นักเตะตัวหลักในแนวรุกเริ่มสูงวัย จนลดทอนประสิทธิภาพลง
ใช่ โรดรี เสาหลักระดับบัลลงดอร์บาดเจ็บยาวนาน
ใช่ เออร์ลิง โฮลันด์ เป็นอย่างที่หลายคนบอกว่าขาดตัวป้อนดีๆ เหมือนขาดใจ
ใช่ ฟิล โฟเดน ไม่พีคเหมือนปีก่อน
ใช่ แดนกลางทั้งแผงด้อยลง
ใช่ เกมรับพากันเหวอ
ใช่ เอแดร์สัน งานชุกขึ้นจนพลาดมากขึ้น
ใช่ ขุมกำลังเชิงลึกทดแทนกันไม่ดี
ใช่ เปป ไม่สามารถหลับตาหยิบใครก็ได้ลงไปใส่ระบบเดิมได้อีกแล้ว
ใช่ แผนปรับปรุงใหม่ยังดีไซน์ไม่เข้าล็อค
หรือ ใช่ หลายทีมจับมุกเดิมๆ ได้มากขึ้น
ถ้าทั้งหมดนั่นใช่ และ ใช่ในเวลาที่พร้อมเพรียงกัน จึงไม่แปลกที่ แมนซิตี จะมีผลงานที่ย่ำแย่จนสร้างความเครียดให้คนมาตรฐานสูงลิบอย่าง เปป ถึงกับขยี้หน้าตนเองจนเกิดรอย
รวมถึงในลีกที่มีการแข่งขันกันเข้มข้น ทีมลุ้นแชมป์มีมากกว่าสองทีม และ ทีมรองลงมาพัฒนามากขึ้น จนส่งผลให้เอาชนะกันได้ยากกว่าเดิม
และ ต้องไม่ลืมว่า ผลพิจารณาคดีเรื่องการใช้เงิน กับ การสนับสนุนเงินที่ยังไม่จบ จะยังส่งผลไปถึงฤดูกาลต่อๆ ไปด้วย
นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ เปป ประสบกับปัญหามากปัจจัยแบบนี้จนออกอารเล็กๆ
คะแนนในพรีเมียร์ลีกตามหลัง ลิเวอร์พูล 8 แต้ม แต่โปรแกรมยังอีกยาวไกล และ มี 6 แต้มไปกลับให้ตัดกัน
ในฟุตบอลถ้วยภายใน เปป คงแค่เล่นไปตามโปรแกรมหลัก และ ตามสภาพร่างกายผู้เล่น
ส่วนในถ้วยใหญ่ ถ้าไม่เน้นมากจนต้องเป็น 1-8 ทีมแรกที่เข้ารอบอัตโนมัติ ก็คงไม่มีอะไรหนักใจจนต้องฝืนสภาพตัวเอง
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คนมาตรฐานสูงอย่างเขาคงไม่ชอบการเป็นรอง โดยเฉพาะการเป็นรองที่ขาดลอยอย่างย่อยยับ
เช่น แพ้ ลิเวอร์พูล ขาดลอยแบบไปกลับ จนถูกทีมแชมป์ทิ้งห่างเกิน 20 คะแนน และ จอดป้ายแค่รอบเพลย์ออฟในถ้วยยุโรป ซึ่งจะเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา
สำหรับรอยแผลนี้คงไม่มีอะไรหนักหนาอย่างที่หลายฝ่ายพยายามตีฟู แม้ว่ารอยข่วนจะดูน่ากลัวกว่าการกัดเล็บ หรือ ดึงผมยามเครียดแบบไม่รู้ตัว
นั่นหมายความว่ายังห่างไกลจากอาการป่วยใจจนถึงขั้นต้องทำร้ายตัวเอง
ส่วนรอยขีดนี้เป็นแค่ความหงุดหงิดจนเผลอขยี้หน้าตัวเองด้วยความโมโหยามไม่ได้อย่างใจเท่านั้น
แต่ถ้าสลับฝั่งไปเป็นการที่ เปป พา บาร์เซโลนา แพ้ 5 เสมอ 1 นัด และ ตามหลัง เรอัล มาดริด 8 แต้ม แถมเหล่าตัวหลักสะบักสะบอม
นั่นแหละค่อยมากังวลว่าเด็กที่โต และ พร้อมสละชีพให้สโมสรอันดับหนึ่งในชีวิตจะเครียดจนต้องพึ่งการบำบัดหรือไม่?