เทนนิสแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ได้คู่ชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว ปีที่ 138 ณ มหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“กระทิงเปลี่ยว” คาร์ลอส อัลคาราซ มือวางอันดับ 2 ของโลกชาวสเปน ยังโชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่า ปราบ เทย์เลอร์ ฟริตซ์ คู่แข่งมือวางอันดับ 5 ชาวสหรัฐอเมริกา ไปได้อย่างน่าตื่นเต้น 3-1 เซต ด้วยสกอร์ 6-4, 5-7, 6-3 และ 7-6 ไทเบรก 8-6 ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และรักษาเส้นทางสู่การคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกัน
ขณะที่ “มะกะโรนีอันตราย” ยานนิค ซินเนอร์ มือ 1 ของโลกชาวอิตาลี ระเบิดฟอร์มเฉียบ ไล่ต้อน โนวัค ยอโควิช อดีตแชมป์ 7 สมัยชาวเซอร์เบีย ไปได้อย่างขาดลอย 3 เซตรวด ด้วยสกอร์ 6-3, 6-3 และ 6-4 ทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน เป็นครั้งแรก
การกลับมาเจอกันอีกครั้งของ คาร์ลอส อัลคาราซ กับ ยานนิค ซินเนอร์ ถือเป็นสงครามการต่อสู้ในยุคใหม่ ที่มีความบาดหมางกันอย่างดุเดือด และถือเป็นคู่แข่งขันแห่งยุคปัจจุบันที่ถูกขนานนามว่า “ซินคาราซ”
ล่าสุดคือแมตช์ชิงความเป็นหนึ่งบนคอร์ตดิน ในศึกแกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพ่น รอบชิงชนะเลิศ ที่โรลอง การ์โรส กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่ ดุเดือด เร้าใจ และถูกยกให้เป็น “แมตช์คุณภาพระดับแกรนด์สแลมแห่งปี” ก่อนจะจบลงด้วยชัยชนะของ คาร์ลอส อัลคาราซ อย่างสุดมันส์ 3-2 เซต หลังจากแพ้ไปก่อน 2 เซตแรก แล้วกลับมาชนะ 3 เซตรวด ด้วยสกอร์ 4-6, 6-7 ไทเบรก 4-7, 6-4, 7-6 ไทเบรก 7-3 และ 7-6 ไทเบรก 10-2 โดยใช้เวลาแข่งขันไปถึง 5 ชั่วโมง 29 นาที
ส่งให้ อัลคาราซ คว้าแชมป์ เฟรนช์ โอเพ่น สมัยที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นแกรนด์สแลมที่ 5 ต่อจาก ยูเอส โอเพ่น 2022, เฟรนช์ โอเพ่น 2024 และ วิมเบิลดัน 2023 และ 2024
นอกจากนั้น อัลคาราซ ยังกลายเป็นนักเทนนิสชายคนแรกในรุ่นใหม่ที่คว้าแกรนด์สแลมบน 3 พื้นผิว คือ ฮาร์ดคอร์ต ในยูเอส โอเพ่น, เคลย์คอร์ต หรือคอร์ตดิน ในเฟรนช์ โอเพ่น ในกราสส์คอร์ต หรือคอร์ตหญ้า ในวิมเบิลดัน
จากชัยชนะในรอบชิง เฟรนช์ โอเพ่น ล่าสุด ส่งผลให้ อัลคาราซ มีสถิติยอดเยี่ยมในการเจอกับ ซินเนอร์ เมื่อคว้าชัยชนะได้ทั้ง 5 ครั้งหลังสุดที่เจอกัน
เริ่มตั้งแต่ รอบรองชนะเลิศ ศึก อินเดียน เวลล์ 2024 ต่อด้วย รอบรองชนะเลิศ เฟรนช์ โอเพน 2024, รอบชิงชนะเลิศ ที่ปักกิ่ง 2024, รอบชิงชนะเลิศ โรม มาสเตอร์ส 2025 และล่าสุดคือรอบชิงชนะเลิศ เฟรนช์ โอเพน 2025 เมื่อ 4 สัปดาห์ก่อน
การชิงดำที่วิมเบิลดันครั้งนี้ จึงเป็นแมตช์ “แก้มือครั้งใหญ่” ของ ซินเนอร์ นักหวดรุ่นใหม่ที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลก และเป็นคู่ต่อกรที่แข็งแกร่งที่สุดที่ อัลคาราซ เคยเจอในช่วงนี้
ซินเนอร์ มีจุดเด่นที่ลูกเสิร์ฟ, โฟร์แฮนด์หนัก, จังหวะตีไวบนพื้นหญ้า และ เกมรับที่เหนียวแน่น แม้อาจจะเสียเปรียบเรื่องสภาพร่างกายไม่เต็มร้อยจากอาการบาดเจ็บบริเวณข้อศอกขวา แต่ก็ยังเล่นได้อย่างมั่นคง จนสามารถทะลุเข้ามาชิงแชมป์ วิมเบิลดัน ได้อย่างน่าทึ่ง
อย่างไรก็ตาม สถิติทั้งคู่เจอกันมาแล้ว 12 ครั้ง โดย อัลคาราซ มีผลงานนำอยู่ที่ชนะ 8 แพ้ 4 รวมถึงชนะ 3 ใน 4 แมตช์แกรนด์สแลม และชนะ 3 ใน 4 แมตช์ยามเผชิญหน้ากันในรอบชิงชนะเลิศ
และชั่วโมงนี้ อัลคาราซ ถือเป็นนักเทนนิสที่ทำผลงานบนคอร์ตหญ้าได้อย่างสุดยอด เมื่อยังไม่แพ้ใครมาตั้งแต่ปี 2023 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับในยุค Open Era (โอเพ่น เอร่า) หรือตั้งแต่ปี 1968 เป็นต้นมา เคยมีนักเทนนิสที่ครองแชมป์ชายเดี่ยวได้ 3 สมัยติดต่อกัน หรือมากกว่านั้น รวม 5 ครั้ง 4 คน ได้แก่ บียอห์น บอร์ก จากสวีเดน 5 สมัยซ้อน ตั้งแต่ปี 1976-1980, พีท แซมพราส 2 ครั้ง โดยครั้งแรก 3 สมัยซ้อน ปี 1993-1995 และ 4 สมัยซ้อน ปี 1997-2000, โรเจอร์ เฟเดเรอร์ 5 สมัยซ้อน ปี 2003-2007 และคนสุดท้ายคือ โนวัค ยอโควิช 4 สมัยซ้อน ปี 2018-2022
คาร์ลอส อัลคาราซ จะกลายเป็นนักเทนนิสคนที่ 5 ที่ครองแชมป์ชายเดี่ยวได้ 3 สมัยติดต่อกัน หรือไม่
หรือ ยานนิค ซินเนอร์ จะกลับมาแก้แค้นในเกมชิงดำที่วิมเบิลดันครั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า เขาเหมาะสมกับตำแหน่งมือ 1 ของโลกเพียงใด
รอบชิงชนะเลิศประเภทชายเดี่ยว จะดวลกันในคืนวันอาทิตย์นี้ เริ่มเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย แฟนๆ เทนนิสติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทาง ทรูวิชั่นส์ SPOTV (ช่อง689)