หลังสัญญาณหมดเวลาการแข่งขันบาสเกตบอลชาย โตเกียวเกมส์ แมตซ์สุดท้ายของวันที่ 25 กรกฎาคม ดังขึ้น สกอร์บอร์ดบอกผลว่าฝรั่งเศสเอาชนะทีมยูเอสเอไปได้ 83-76 เป็นการเริ่มทัวร์นาเมนต์ที่น่าผิดหวังของทีมที่เต็มไปด้วยดาราจากลีก NBA
ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้เป็นการยุติชัยชนะที่ทีมยูเอสเอมีเหนือทีมอื่นในโอลิมปิก นับตั้งแต่ชัยชนะเหนือลิทัวเนียในรอบชิงเหรียญทองแดงเอเธนส์เกมส์ปี 2004 ไว้ที่ 25 เกม
ขุนพลยัดห่วงแดนอินทรีลงแข่งทั้งหมดในโอลิมปิกเกมส์ 144 นัด แพ้แค่ 6 นัด (เปอร์เซ็นต์ชนะ 95.84%) และหากนับตั้งแต่ที่ยอดฝีมือจาก NBA ลงเล่น พวกเขามีสถิติชนะ-แพ้ 53-4 (เปอร์เซ็นต์ชนะ 92.46%) โดย 3 ใน 4 เกมนั้นเกิดขึ้นในเอเธนส์เกมส์ เมื่อ 17 ปีที่แล้ว
จากสถิติในอดีต โอกาสที่ทีมอื่นจะชนะทีมยูเอสเอในเกมกีฬาแห่งมนุษยชาติมีไม่ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ ความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดจึงน่าจะเป็นเซอร์ไพรส์ล้มยักษ์ครั้งใหญ่ในวงการบาสเกตบอล
หากแต่ทีมฝรั่งเศสเดินออกจากสนามด้วยอาการดีใจปกติเหมือนชนะการแข่งขันหนึ่งเกม ไม่มีการกระโดดโลดเต้น ไร้การโผเข้ากอดกันด้วยแววตาไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
อารมณ์ของสื่อที่รายงานผลการแข่งขันก็ไม่แตกต่างกัน มากที่สุดก็รายงานว่าฝรั่งเศสทำเอาทีมยูเอสเอหัวเสีย ด้วยการออกสตาร์ตที่น่าผิดหวัง
แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือความรู้สึกในแววตาของทีมยูเอสเอ แน่นอนครับว่ามีร่องรอยของความผิดหวังในสายตา แต่กลับไม่มีสัญญาณความแปลกใจส่งออกมาเลย
เกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปต่อทีมยูเอสเอ ของทีมอื่น แฟนบาส สื่อกีฬา ตลอดจนจอมยัดห่วงอเมริกันเอง…
ก) โลกาภิวัตน์ของเกมบาสเกตบอลที่ย้อนกลับมาเล่นงานประเทศผู้ให้กำเนิด
ลีก NBA ถือเป็นธุรกิจขนาดยักษ์ใหญ่ธุรกิจหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และเมื่อกระแสโลกาภิวัตน์ของการค้า การลงทุน และการเงินเกิดขึ้น กอรปกับเทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่ทำให้คนทั้งโลกได้มีโอกาสร่วมชมกีฬาทัวร์นาเมนต์สำคัญพร้อมๆ กัน การส่งออกกีฬาและความบันเทิงตลอดจนแรงบันดาลใจก็เกิดขึ้น
การส่งออกครั้งสำคัญของ NBA คือการส่ง “ดรีมทีม” ลงแข่งขันในบาร์เซโลนาเกมส์ 1992 การลงสนามของทีมที่ก่อนหน้านั้นเป็นเพียงทีมในจินตนาการ การลงเล่นเคียงบ่าเคียงไหล่กันของ ไมเคิล จอร์แดน, เมจิก จอห์นสัน, ลาร์รี เบิร์ด และยอดฝีมืออีก 11 คน ช่วยทวีกระแสความนิยมของ NBA ให้เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก
สตาร์ในลีก NBA หลายคนรวมทั้ง โคบี ไบรอันท์ ทำหน้าที่ทูตบาสเกตบอลเดินทางไปทั่วโลก เพื่อโปรโมตลีกและกีฬาบาสเกตบอล สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการยกระดับของกีฬา การสร้างนักกีฬาที่เก่งกาจ รวมถึงเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของแมวมองที่ทำหน้าที่เลือกนักบาสเกตบอลฝีมือฉกาจจากทุกมุมโลกเข้าสู่ NBA
เราได้เห็นนักบาสเกตบอลทีมชาติจีน เหยา หมิง ถูกคัดเลือกตัวในฐานะดราฟต์อันดับ 1 ในปี 2002 ถือเป็นนักบาสเกตบอลสัญชาติเอเชียคนแรกที่ถูกคัดเลือกเข้าลีกในอันดับสูงสุด ดีกว่าเซ็นเตอร์ชาวดัตช์ ริก สมิตส์ ที่เป็นผู้เล่นดราฟต์อันดับ 2 ในปี 1988
ในปี 2002 นั้นเราได้เห็นนักบาสเกตบอลจากยุโรป ลาตินอเมริกา และเอเชีย เข้าสู่ลีกทั้งหมด 18 คน ส่วนในปีถัดมา ดาร์โก มิลิซิช เซ็นเตอร์ของเซอร์เบีย ก็เป็นผู้เล่นดราฟต์อันดับที่ 2
อันเดรีย บาร์ญานี ผู้เล่นทีมชาติอิตาลีเป็นผู้เล่นดราฟต์อันดับ 1 ในปี 2006 ส่วนประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงแบบแคนาดาก็ส่ง แอนดรูว์ วิกกินส์ มาเป็นผู้เล่นที่ถูกคัดเลือกคนแรกในปี 2014 ฟากออสเตรเลียก็มีนักบาสเกตบอล 2 คนที่เป็นตัวเลือกคนแรกของลีก ล่าสุดคือ เบน ซิมมอนส์ ในปี 2016 ก่อนหน้านั้นคือ แอนดรูว์ โบกัต ในปี 2005
เรียกได้ว่าไม่เพียงแต่ NBA จะเปิดประตูรับยอดฝีมือจากทั่วโลกเท่านั้น แต่จอมยัดห่วงนานาชาติยังเป็นฝ่ายที่มาเสริมสร้างศักยภาพ และพัฒนาฝีมือจนลีก NBA ในปัจจุบันไม่ได้เป็นลีกเฉพาะอเมริกันชนอีกต่อไป
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดนะครับ ก็คือรายชื่อผู้เล่นที่ได้รับรางวัลสำคัญประจำฤดูกาลล่าสุด
ผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยม : รูดี โกแบร์ต (ฝรั่งเศส)
ผู้เล่นทรงคุณค่าประจำฤดูกาล : นิโคลา โยคิช (เซอร์เบีย)
ผู้เล่นทรงคุณค่าของรอบชิง : ยานนิส อันเททูคุมโป (กรีซ)
ผู้เล่นคนที่หกยอดเยี่ยม : จอร์แดน คลาร์กสัน (ฟิลิปปินส์)
ส่วนทีมรวมดาราทีม 1 ของลีก ซึ่งเป็นตัวแทนผู้เล่นที่ดีที่สุดในแต่ละตำแหน่งนั้น มีผู้เล่นอเมริกันแค่ 2 คนคือ สเตฟ เคอร์รี และ คาไว เลียวนาร์ด ที่เหลืออีก 3 คนเป็นต่างชาติทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น โยคิช, เอนเททูคุมโป และ ลูกา ดอนซิช (สโลวีเนีย)
ถึงตรงนี้ก็ชัดเจนนะครับว่าการส่งออก NBA สู่เวทีโลก สร้างคุณประโยชน์เกินกว่าที่คาดไว้มาก เพราะไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้นักบาสเกตบอลทั่วโลกได้เข้ามาเล่นในลีกสูงสุดของโลกบาสเกตบอล แต่ยังให้โอกาสที่ดีเยี่ยมในการบ่มเพาะความสามารถ…ดีเสียจนผู้เล่นต่างชาติเริ่มบดบังรัศมีของผู้เล่นสหรัฐอเมริกา ผู้ให้กำเนิดกีฬาบาสเกตบอล
ข) ความชัดเจนของความรู้สึก “เราชนะทีมยูเอสเอได้”
ในโตเกียวเกมส์ หากนับรวมจำนวนนักกีฬาบาสเกตบอลทั้งชายและหญิงที่เล่นใน NBA หรือมีประสบการณ์เคยลงเล่นใน NBA จะพบว่ามีจำนวนมากถึง 121 คน ถ้าเราซูมอินเฉพาะบาสเกตบอลชาย จะพบว่ามีผู้เล่นที่ลงเล่นใน NBA ฤดูกาลที่พึ่งผ่านมาถึง 49 คน
ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายบาสเกตบอลชายโตเกียวเกมส์ทั้ง 12 ทีม มีเพียงอิหร่านทีมเดียวเท่านั้นที่ไม่มีผู้เล่นจาก NBA
ออสเตรเลียมีผู้เล่น NBA มากถึง 7 คน (จากผู้เล่นทั้งทีม 12 คน) มากเป็นอันดับ 2 ส่วนประเทศที่มีผู้เล่น NBA ในทีมมากที่สุด กลับกลายเป็นทีมไนจีเรียที่มีมากถึง 8 คน ส่วนฝรั่งเศสซึ่งพึ่งกำราบทีมยูเอสเอมานั้น ก็มีผู้เล่น 6 คนหรือครึ่งทีมที่เคยกรำศึกในฤดูกาลที่พึ่งจบลง
จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจนะครับว่าทำไมทั้งสามทีมนี้จึงชนะทีมยูเอสเอได้ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ประเด็นที่สำคัญกว่าผลการแข่งขันก็คือ การที่ผู้เล่นทีมชาติต่างๆ ที่ลงแข่งในโตเกียวเกมส์ ล้วนแล้วแต่เคยเอาชนะผู้เล่นทีมยูเอสเอในระดับสโมสรมาก่อน ดังนั้นความรู้สึกที่ว่า “ผมเคยชนะคุณในระดับลีกมาแล้ว ผมก็สามารถเอาชนะคุณในระดับโลกได้เช่นกัน”
ความรู้สึกเช่นนี้แจ่มชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
หลักฐานที่พึ่งเกิดขึ้นก็คือในเกมที่ฝรั่งเศสพลิกกลับมาชนะได้ แม้ว่าจะตามอยู่ถึง 7 คะแนนเมื่อเวลาของเกมเหลือไม่ถึง 5 นาที ซึ่งในทัวร์นาเมนต์ก่อนๆ หน้านี้ ถ้าเกิดสถานการณ์แบบนี้ คนดูอาจจะเริ่มลุกขึ้นกลับบ้าน เพราะทีมยูเอสเอน่าจะปิดกล่องได้ และทีมคู่แข่งไม่มีใจสู้ แต่ฝรั่งเศสกลับถล่มทีมยูเอสเอ 16-2 คะแนนในช่วงเวลาที่เหลือ จบเกมด้วยชัยชนะ
อีก 1 วันให้หลัง ลูกา ดอนซิช ผู้เล่นดาวรุ่งของสโลวีเนีย ซึ่งลงเล่นในกีฬาโอลิมปิกนัดแรกในชีวิต ทำแต้มไป 48 คะแนน เป็นคะแนนต่อเกมที่สูงที่สุดลำดับ 2 ในประวัติศาสตร์โอลิมปิกเกมส์ และเป็นระดับคะแนนที่ผู้เล่นอเมริกันไม่เคยทำได้
ค) การจัดทีมของทีมยูเอสเอ
หลังความพ่ายแพ้ของทีมยูเอสเอต่อฝรั่งเศส ทิม เลกเลอร์ นักวิเคราะห์เกมอดีตมือแม่น 3 แต้มของ NBA ได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างน่าคิดน่าฟังถึงสาเหตุความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ว่า
ทีมชุดนี้มีเวลาเตรียมตัวกันน้อยมาก และผู้เล่นก็เปลี่ยนแปลงจนนาทีสุดท้าย เพราะบาดเจ็บและติดโควิด ผลก็คือทีมชุดนี้ลงแข่งแบบเก้ๆ กังๆ จ่ายบอลแบบเกรงใจ บทบาทของผู้เล่นในทีมไม่ชัดเจนว่าใครเป็นคนทำเกม ใครเป็นคนทำแต้ม พออดรนทนไม่ไหวก็ตัดสินใจเล่นเอง ซึ่งหลายครั้งเป็นการเล่นที่ยากเกินไป
ผลของการเล่นไม่เป็นทีม ส่งผลชัดเจนในเวลาคับขันชี้เป็นชี้ตายซึ่งต้องการการเล่นเป็นทีมที่แน่นอน ทั้งเกมนั้นทีมยูเอสเอมีแต้มนำอยู่เป็นช่วงเวลา 27:46 นาที ในขณะที่ฝรั่งเศสนั้นนำอยู่เพียงช่วงเวลาแค่ 8:28 นาทีเท่านั้น แต่ก็เชือดคว้าชัยไปได้
ภาพนี้เหมือนเดจาวูสำหรับทีมยูเอสเอ ซึ่งเคยแพ้ฝรั่งเศสแบบนี้มาแล้วในรอบควอเตอร์ไฟนอล บาสเกตบอลชิงแชมป์โลกปี 2019
ผู้เล่นในชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นวงนอก ไม่มีเซ็นเตอร์อาชีพ รูปแบบแผนการเล่นจึงจับทางได้ไม่ยาก ในเกมที่ผ่านมาฝรั่งเศสใช้วิธีโซนเคลื่อนที่เร็ว จัดการเกมยิง 3 คะแนนของทีมยูเอสเอเสียอยู่หมัด หากการ์ดความเร็วสูงจะแหวกเข้ามาทำแต้ม ก็จะเจอเซ็นเตอร์อาชีพแบบ รูดี โกแบร์ต ดักทางอยู่
สถิติการแข่งขันบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าฝรั่งเศสทำแต้มวงในเหนือกว่า 32-28 และได้แต้มจากโอกาสที่ 2 (จากรีบาวด์เกมรุก) เหนือกว่า 16-7
หรือด้วยสตาฟโค้ชอาจจะเห็นว่า ผู้เล่นชุดนี้เล่นวงนอกได้ดี ก็เลยงัดเอาแผนสมอลบอล (Small Ball) ซึ่งเป็นที่นิยมใน NBA ช่วงหลัง แต่อาจจะหลงลืมไปว่า แผนการเล่นแบบนั้นต้องอาศัยความเข้าใจกันอย่างลึกซึ้งระหว่างผู้เล่น และอาศัยผู้เล่นที่ฝากผีฝากไข้ได้ในการทำแต้มวงนอก เช่น สเตฟ เคอร์รี หรือ เคลย์ ทอมป์สัน ซึ่งไม่ได้ร่วมทีมมาด้วย
อีวาน ฟูร์นิเยร์ การ์ดจ่ายชาวฝรั่งเศสให้สัมภาษณ์หลังเกมอย่างน่าสนใจว่า
“ถ้าเล่นกันตัวต่อตัว พวกเราสู้ไม่ได้เลยครับ แต่พวกเราชนะได้แน่ๆ ในฐานะทีม”
ครับ…ยังไงเสียบาสเกตบอลก็เป็นกีฬาประเภททีม ที่ต้องร่วมมือกันเพื่อชัยชนะ
ด้วยเหตุทั้งหมดที่กล่าวมา ทีมยูเอสเอจึงเดินอยู่บนเส้นทางที่ยากลำบาก ไม่อยู่ในสถานะทีมที่มาเพื่อเหรียญทองดังเคย แต่กำลังอยู่ในสถานะทีมที่ต้องดิ้นเพื่อเข้ารอบควอเตอร์ไฟนอล
นัดถัดมาพวกเขาเจอกับตัวแทนทวีปเอเชียคือ อิหร่าน ทีมเดียวที่ไม่มีนักบาส NBA อยู่เลย ว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ทีมยูเอสเอคงผ่านไปได้ แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าพวกเขาจะชนะอิหร่านด้วยวิธีใด จะเป็นด้วยวิธีเล่นแบบบาสชายเดี่ยว 12 คนที่เผอิญอยู่ข้างเดียวกัน หรือจะเล่นเป็นทีมที่รวมกันเป็นหนึ่งจริงๆ
ชัยชนะที่มีเหนืออิหร่าน 120-66 ถือเป็นชัยชนะที่ผู้เล่นทั้ง 12 คนของทีมมีส่วนร่วม เป็นความกล้าหาญของโค้ช เกร็ก โพโพวิช และผู้ช่วยโค้ช สตีฟ เคอร์ ที่ยังคงยืนยันที่จะใช้แผนการเล่นแบบสมอลบอล และกระตุ้นให้ผู้เล่นปรับวิธีการเล่นให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีม
เมื่อ เควิน ดูแรนท์ และ เดเมียน ลิลลาร์ด เริ่มต้นเกมวงนอกได้อย่างยอดเยี่ยม แบม อเดบาโย ก็ใช้ความเร็วทำลายเกมรับใต้แป้นของอิหร่าน อีกทั้ง เดวิน บุ๊กเกอร์ และ จรู ฮอลิเดย์ ก็ช่วยกันทำแต้มในระยะกลาง สร้างทางเลือกในการบุกที่หลากหลาย ทีมยูเอสเอจึงผ่านอิหร่านได้อย่างสะดวกโยธิน
ทีมยูเอสเอเริ่มเล่นเป็นทีมครั้งแรกในรอบเกือบเดือนที่ผ่านมา
เส้นทางของทีมยูเอสเอในโตเกียวเกมส์ ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเพราะหากพวกเขาจะกลับมาคว้าเหรียญทองได้ คงไม่ใช่เพราะฝีมืออันเอกอุ (Merit of Excellence) แต่คงเป็นเพราะความมุ่งมั่นฝ่าฟันปัญหา ก้าวข้ามความล้มเหลว เอาชนะความกดดัน และเสียงวิจารณ์ (Merit of Resiliency) เสียมากกว่าครับ
นี่คือเส้นทางที่ทีมบาสเกตบอลสหรัฐอเมริกาไม่เคยต้องเดิน แต่ก็เป็นเส้นทางที่นักจักรยานหญิงออสเตรียเดินไปคว้าเหรียญทองมาแล้วในโตเกียวเกมส์ครั้งนี้
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม