อเมริกันฟุตบอล NFL ฤดูกาลใหม่เปิดฉากแล้ว ทีมเต็งแชมป์ซูเปอร์โบวล์ ส่วนใหญ่ยังเป็นทีมหน้าเดิม และการขับเคี่ยวแย่งชิงความเป็นหนึ่ง น่าจะเข้มข้นเร้าใจไม่แพ้ฤดูกาลที่ผ่านมา
การแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL ฤดูกาลใหม่เปิดฉากขึ้นแล้ว ตั้งเช้าวันศุกร์ที่ 10 ก.ย. นี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล แต่ละทีมก็มีการเสริมทัพปรับเปลี่ยนผู้เล่น หวังทำผลงานให้ดีกว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเฉพาะฤดูกาลนี้พิเศษมากเนื่องจากเรกูลาร์ซีซั่น จะแข่งกันถึง 17 นัด จากปกติ 16 นัด ทีมที่บรรดาเกจิและสื่อมวลชนยกให้เป็นทีมเต็งแชมป์มีทีมใดบ้าง? คำตอบคือ ส่วนใหญ่ยังเป็นทีมหน้าเดิมที่มีผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่แล้ว เหตุผลหลักก็เพราะยังรักษาผู้เล่นแกนหลักของทีมไว้ได้ และยังมีการเสริมผู้เล่นในตำแหน่งที่เป็นจุดอ่อนของทีมด้วยนั่นเอง
เนื่องจากลีกกีฬาอาชีพในสหรัฐฯ ไม่มีการซื้อตัวเหมือนกีฬาอาชีพในยุโรป แต่ใช้วิธีเทรดตัวคือแลกผู้เล่นที่ยังไม่หมดสัญญากับทีมอื่น และการคัดเลือกผู้เล่นดาวรุ่งจากมหาวิทยาลัยที่เรียกกันว่าการดราฟต์ แต่สิ่งที่แฟนๆ ให้ความสนใจมากที่สุดในช่วงก่อนเปิดฤดูกาลคือการลุ้นว่าทีมรักของตนเองจะมีเงินมากพอที่จะรักษาผู้เล่นที่หมดสัญญาไว้กับทีมต่อไปได้หรือไม่ หรือจะได้ผู้เล่นเก่งๆ ที่เพิ่งหมดสัญญากับทีมอื่นมาเสริมทีมบ้างหรือเปล่า ซึ่งดูแล้วทีมที่ทำผลงานได้ดีในฤดูกาลที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะสามารถรักษาผู้เล่นแกนหลักของทีมไว้ได้
ขอเริ่มที่ทีมเต็งหนึ่งก่อนเลย แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส เจ้าของตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์โบวล์ทีมล่าสุด ที่มี ทอม เบรดี เจ้าของฉายา The GOAT (The Greatest Of All Time) นำทีม ชื่อนี้ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เพราะเป็นเจ้าของสถิติมากมายหลายอย่าง และเลิกเล่นเมื่อไร รับรองว่าได้รับเลือกเข้าหอเกียรติคุณอเมริกันฟุตบอลหรือ NFL Hall Of Fame แน่นอน เพราะผลงานของเขายากจะมีใครทำลายสถิติได้ โดยเฉพาะการเป็นผู้เล่นคนเดียวที่คว้าแหวนแชมป์ซูเปอร์โบวล์มาครองได้ถึง 7 วง ไม่รวมการเป็นเจ้าของสถิติตลอดกาลมากมาย เช่น ขว้างทำระยะ และขว้างทัชดาวน์ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ NFL
ตอนแรกที่เขาอำลาทีมนิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ มาอยู่กับทีมแทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส หลายคนยังตั้งข้อสงสัยว่า ควอเตอร์แบ็กวัย 43 ปีผู้นี้จะยังมีน้ำยาเหลืออยู่หรือไม่ ที่ไหนได้ เบรดียังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พาทีมคว้าแชมป์สาย NFC และเอาชนะทีมแคนซัสซิตี ชีฟส์ แชมป์เก่า ซึ่งเป็นทีมเต็งหนึ่งในศึกซูเปอร์โบวล์ ได้อย่างขาดลอยพลิกความคาดหมาย มาคราวนี้ไม่มีใครกล้าปรามาสเบรดีอีกแล้ว แม้อายุปาเข้าไปถึง 44 ปี เนื่องจากรู้ๆ กันอยู่ว่า เบรดีเป็นนักกีฬาที่ดูแลสุขภาพได้อย่างสุดยอด อีกทั้งช่วงก่อนเปิดฤดูกาลนี้ยังมีเวลาฝึกซ้อมเตรียมตัวรับฤดูกาลใหม่ได้อย่างเต็มที่ ไม่เหมือนช่วงก่อนเปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งติดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนต้องยกเลิกการแข่งขันอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาล
ด้วยการมีปีกนอกระดับสุดยอดฝีมือรวมตัวอยู่ในทีมถึง 3 คนคือ ไมค์ อีแวนส์, คริส ก็อดวิน และ อันโตนิโอ บราวน์ และมี ร็อบ กรอนคาวสกี ยอดปีกในคู่บารมีของเบรดีเป็นอาวุธหลัก ถือว่าเกมรุกทางอากาศของทีมบัคคาเนียร์สไม่เป็นสองรองใคร และช่วยให้รันนิงแบ็กเล่นง่ายขึ้นเพราะทีมคู่แข่งต้องเน้นการป้องกันการขว้างเป็นหลัก ส่วนทีมรับไม่ต้องพูดถึง ว่ากันว่าการที่ทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ฤดูกาลที่แล้วได้ เป็นเพราะบรรดาผู้เล่นทีมรับของทีมบัคคาเนียร์ส เล่นงานจน แพทริก มาโฮมส์ ต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนจนขว้างไม่ออก “อะไรที่ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเปลี่ยน” ผู้เล่นกำลังหลักที่หมดสัญญาคือ แช็ค บาร์เร็ตต์, เอ็นดามูก็อง ซูห์ และ ลาวอนตี เดวิด จึงได้ต่อสัญญาอยู่กับทีมต่อไปทั้ง 3 คน
ส่วนทีมเต็ง 2 แคนซัสซิตี้ ชีฟส์ จะว่าไปแล้วเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ทีมบัคคาเนียร์ส จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เกจิหลายสำนักยกให้ทีมชีฟส์เป็นอีกทีมเต็ง โดยเฉพาะหลังจากที่เสริมจุดอ่อนซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ทีมชีฟส์แพ้บัคคาเนียร์สแบบหมดรูป พลาดโอกาสป้องกันแชมป์ซูเปอร์โบวล์ฤดูกาลที่ผ่านมา นั่นคือแนวป้องกันทีมรุกหรือแนวออฟเฟนซีฟไลน์ ซึ่งหน้าที่หลักคือการปกป้องมาโฮมส์ สุดยอดควอเตอร์แบ็กหมายเลขหนึ่งของ NFL ในปัจจุบัน เป้าหมายในปีนี้คือการคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์สมัยที่ 2 ใน 3 ฤดูกาลให้จงได้
การได้ตัว โจ ทูนีย์ กับ ไคล์ ลอง สองสุดยอดการ์ด และการเทรดตัว ออร์แลนโด บราวน์ ยอดเลฟต์แทคเกิลมาเสริมทีม เชื่อว่าฤดูกาลนี้ยากที่จะเกิดเหตุซ้ำรอยนัดชิงแชมป์ซูเปอร์โบวล์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หากจอมทัพอย่างมาโฮมส์มีเวลามากพอในการเลือกเป้าหมายในการขว้าง เชื่อเถอะครับว่ามันคือฝันร้ายสำหรับแนวรับทีมคู่แข่งโดยแท้ เพราะ ไทรีก ฮิลล์ ปีกนอกตัวจี๊ดคนนี้ไม่เพียงรับลูกได้ดี แต่ยังมีความสามารถในการหลบหลีกแนวรับทีมคู่แข่ง พลาดวินาทีเดียวหลุดเข้าไปทำทัชดาวน์ได้ทุกเมื่อ ขณะที่ ทราวิส เคลซี คือปีกในที่เก่งกาจและน่ากลัวที่สุดของ NFL ในปัจจุบัน นานๆ ครั้งครับจะมีปีกในที่เร็ว และรับลูกได้ดีไม่แพ้ปีกนอก แต่มีรูปร่างที่สูงใหญ่ได้เปรียบไลน์แบ็กเกอร์และเซฟตีของทีมรับคู่แข่งเหมือนเคลซี
ส่วนทีมรับของทีมชีฟส์ถือว่ายอดเยี่ยม โดยเฉพาะคู่ดีเฟนซีฟเอนด์จอมแซ็กอย่าง คริส โจนส์ และ แฟรงก์ คลาร์ก รวมทั้ง ไทแรน แม็ทธิว เซฟตี้จอมฉวยโอกาสที่เก่งรอบตัว บลิตซ์ขึ้นไปแซ็กควอเตอร์แบ็กทีมตรงข้ามก็ได้ การเข้าแทคเกิลผู้เล่นทีมตรงข้ามก็ทำได้อย่างหนักหน่วง และที่สำคัญยังอ่านเกมได้ดี จึงทำให้เขาสามารถอินเทอร์เซ็ปต์การขว้างของควอเตอร์แบ็กทีมคู่แข่งได้บ่อยๆ แต่เสียดายที่ช่วงต้นฤดูกาล แม็ทธิวอาจพลาดลงเล่นนัดเปิดฤดูกาล เพราะดันไปติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่แสดงอาการ ต้องลุ้นหนักว่าจะหายและฟิตทันลงเล่นได้หรือไม่ หากลงเล่นไม่ได้ทีมชีฟส์เจองานหนักแน่ เพราะจะต้องพบกับทีมคลีฟแลนด์ บราวน์ ที่เคยเจอกันมาแล้วในรอบเพลย์ออฟฤดูกาลที่ผ่านมา
นอกจากทีมบัคคาเนียร์สกับชีฟส์ที่ค่อนข้างโดดเด่นเหนือทีมอื่นแล้ว ยังมีอีกไม่น้อยกว่า 4 ทีมที่มีดีมากพอที่จะคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ฤดูกาลนี้ และศักยภาพของทุกทีมค่อนข้างสูสีกันยากจะชี้ขาดว่าทีมใดเหนือกว่ากัน ทีมแรกคือบัฟฟาโล บิลส์ ที่เพิ่งต่อสัญญาให้กับ จอช อัลเลน อีก 6 ปี ด้วยค่าจ้างสูงถึง 258 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตอบแทนที่ทำผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา กลายเป็นควอเตอร์แบ็กที่ทำผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม ดียิ่งกว่า จิม เคลลี อดีตยอดควอเตอร์แบ็กที่พาทีมเข้าชิงซูเปอร์โบวล์ถึง 4 สมัยซ้อนแต่แพ้รวดเสียอีก บรรดากองเชียร์บิลส์มาเฟีย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอัลเลนจะพาทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ให้ได้สักครั้ง
อัลเลนเป็นควอเตอร์แบ็กในแบบฉบับ NFL คือรูปร่างสูงใหญ่ ขว้างไกล และยังวิ่งพาลูกทำระยะเองได้ดี ด้วยเหตุที่เขายังหนุ่ม อายุรุ่นราวคราวเดียวกับมาโฮมส์ จึงได้รับการคาดหมายว่าทั้งคู่จะพาทีมแย่งชิงตำแหน่งแชมป์สาย AFC ไปอีกนานหลายปี สิ่งที่อัลเลนเป็นรองมาโฮมส์ในตอนนี้คือการอ่านเกม และการที่มาโฮมส์มีเคลซียอดปีกในอยู่ในทีม ขณะที่ทีมบิลส์มีดีที่ตำแหน่งปีกนอกคือ สเตฟฟอน ดิกส์, คาร์ล บีสลีย์, เอ็มมานูเอล แซนเดอร์ส และ เกเบรียล เดวิส ซึ่งไว้ใจได้ทุกคน แต่ ดอว์สัน น็อกซ์ ปีกในดาวรุ่งที่ทีมฝากความหวังไว้มาก กลับมีปัญหาเรื่องการรับลูกหลุดมือ หากฤดูกาลนี้น็อกซ์เล่นดีขึ้น เกมรุกทางอากาศของทีมบิลส์จะน่ากลัวมาก
อย่างไรก็ตามแม้ทีมบิลส์จะมีปีกนอกฝีมือดีมากมายหลายคน แต่ฤดูกาลที่ผ่านมาปัญหาที่ทำให้พวกเขาไปไม่ถึงซูเปอร์โบวล์คือเกมรุกภาคพื้นดินธรรมดาเกินไป ทำให้แนวรับทีมคู่แข่งวางแผนแบบเน้นป้องกันการขว้างเพียงอย่างเดียว ทำให้บรรดาปีกของทีมบิลส์เล่นยากขึ้น ในการดราฟต์ครั้งล่าสุด บรรดาแฟนๆ จึงผิดหวังไม่น้อยที่ทีมบิลส์ไม่คว้ารันนิ่งแบ็กดาวรุ่งมาเสริมทีมเลยสักคน ดูเหมือน ฌอน แม็คเดอร์ม็อตต์ หัวหน้าโค้ชทีมบิลส์ยังอยากให้โอกาส เดวิน มอนต์โกเมอรี กับ แซ็ก มอสส์ สองรันนิ่งแบ็กวัยหนุ่มของทีมต่อไป หากมอนต์โกเมอรีเรียกฟอร์มเก่งเหมือนในฤดูกาล 2019 คืนมาได้ ทีมบิลส์จะมีเกมรุกน่ากลัวไม่แพ้ทีมใดเลย
แม็กเดอร์ม็อตต์รู้ดีว่า สาเหตุใหญ่ที่ทำให้ทีมบิลส์แพ้ทีมชีฟส์ในนัดชิงแชมป์สาย AFC เป็นเพราะทีมรับช้าเกินไป จึงถูกมาโฮมส์ฉีกเป็นชิ้นๆ ดังนั้นทีมจึงดราฟต์ผู้เล่นตำแหน่งในตำแหน่งดีเฟนซีฟเอนด์เข้ามาเสริมทีมถึง 2 คนใน 2 รอบแรก คือ เกรกอรี รุสโซ กับ บูกี แบชชัม เพื่อทำหน้าที่กดดันควอเตอร์แบ็กทีมคู่แข่งโดยเฉพาะ และการที่ สตาร์ โลทูเลเล ดีเฟนซีฟแทคเกิลร่างใหญ่กลับมาเล่นให้กับทีมอีกครั้ง จะทำให้แนวรับของทีมบิลส์ดีขึ้นทั้งการป้องกันการขว้างและการป้องกันการวิ่งอย่างแน่นอน และจากการที่ทีมรักษาผู้เล่นแกนหลักของทีมไว้ได้ทุกคน บิลส์จึงเป็นทีมเต็ง 3 ในสายตาของเกจิอเมริกันฟุตบอลจำนวนมาก และมีหลายคนที่มองว่าทีมบิลส์มีดีพอที่จะแก้มือทีมชีฟส์ได้เสียด้วยซ้ำ
ทีมต่อไปที่ได้รับการคาดหมายว่ามีโอกาสคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์มากที่สุดทีมหนึ่งคือ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ที่ได้ แอรอน ร็อดเจอร์ส ยอดควอเตอร์แบ็กที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ชอง NFL กลับมานำทีมอีกครั้ง หลังจากช่วงปิดฤดูกาลมีดราม่าความขัดแย้งระหว่างร็อดเจอร์สกับหัวหน้าโค้ชและผู้จัดการทั่วไปของทีมกรีนเบย์ เรื่องทำอะไรไม่ปรึกษาตนเองก่อน เหมือนเห็นเป็นหัวหลักหัวตอ โดยเฉพาะการไม่ต่อสัญญาให้กับ เจก คูเมโรว์ ปีกนอกที่ร็อดเจอร์สชื่นชอบ จนทำให้คูเมโรว์ถูกทีมบัฟฟาโล บิลส์ คว้าตัวไปเสริมทีม มันจึงอาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายที่ร็อดเจอร์สจะมีโอกาสลุ้นแชมป์ซูเปอร์โบวล์กับทีมกรีนเบย์
เมื่อพูดถึงความแข็งแกร่งทีมรุก ทีมกรีนเบย์ถือว่าครบเครื่องทั้งการวิ่งและการขว้าง มี ดาวอนเต อดัมส์ ปีกนอกที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดของ NFL ในปัจจุบัน ขณะที่ปีกในอย่าง โรเบิร์ต ทอนยัน ผลงานยอดเยี่ยมไม่แพ้ ทราวิส เคลซี ของทีมแคนซัสซิตี้ ชีฟส์ เลยทีเดียว ประกอบกับการมีตัววิ่งที่ดีอย่าง แอรอน โจนส์ และ เอเจ ดิลลอน อยู่ในทีม ต้องยอมรับว่าทีมกรีนเบย์มีทีมรุกที่สมดุลมาก ส่วนแนวออฟเฟนซีฟไลน์แข็งแกร่งขั้นเทพ แต่น่าเสียดายที่ เดวิด บักห์เทียรี ยอดเลฟต์แทคเกิลที่ดีที่สุดคนหนึ่งของ NFL บาดเจ็บเอ็นร้อยหวายต้องพักยาว
ส่วนทีมรับ แม้กรีนเบย์อาจเสียเปรียบทีมคู่แข่งอย่างแทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส แต่โดยรวมยังป็นทีมที่ดีในระดับท็อปเท็นของ NFL ฤดูกาลที่ผ่านมา นำโดย เคนนี คลาร์ก ดีเฟนซีฟแทคเกิลจอมแซ็ก ส่วนตำแหน่ง ดีเฟนซีฟเอนด์ นอกจากจะมี 3 ผู้เล่นที่ดุดันและรวดเร็วอย่าง ซาดาเรียส สมิธ, เพรสตัน สมิธ และ ราชาน แกรี แล้ว ทีมกรีนเบย์ยังดราฟต์ตัวคุมปีกดาวรุ่งอย่าง อีริก สโตกส์ เสริมทีมรับอีกด้วย ปัญหาของทีมกรีนเบย์จริงๆ อยู่ที่การทำให้ทีมรุกคู่แข่งทำเทิร์นโอเวอร์ หรือเสียการครองบอลเกิดขึ้นน้อยมาก อยู่อันดับที่ 25 ในฤดูกาลที่ผ่านมา หากปรับปรุงจุดอ่อนตรงนี้ได้ มีลุ้นถึงซูเปอร์โบวล์เช่นกัน
ทีมต่อไปคือ ลอสแอนเจลีส แรมส์ ซึ่งเป็นทีมที่เกจิจับตามองมาก หลังจากยอมทุ่มทุนเทรดตัว แม็ทธิว สแตฟฟอร์ด ยอดควอเตอร์แบ็กของทีมดีทรอยท์ ไลออนส์ มาเป็นจอมทัพแทน จาเร็ด กอฟฟ์ ซึ่งนอกจากจะเสียกอฟฟ์ให้ทีมไลออนส์แล้ว ยังต้องยอมเสียสิทธิ์ดราฟต์ตัวรอบแรกปี 2022 และปี 2023 รวมทั้งรอบ 3 ปีนี้ให้อีกด้วย เรียกว่าทีมแรมส์ยอมเดิมพันหมดหน้าตักเพราะหวังว่าสแตฟฟอร์ดจะพาทีมถึงฝั่งฝันสำเร็จ หลังจากแพ้ทีมกรีนเบย์ตกรอบเพลย์ออฟฤดูกาลที่ผ่านมา น่าเสียดายที่ แคม เอเคอร์ส รันนิงแบ็กดาวรุ่งของทีมบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย ขณะที่ ดาร์เรลล์ เฮนเดอร์สัน ตัววิ่งอีกคนก็ไม่สมบูรณ์เต็มที่ มิฉะนั้นทีมรุกของทีมแรมส์จะน่ากลัวยิ่งกว่านี้
ส่วนทีมรับของแรมส์นำทีมโดย แอรอน โดนัลด์ ดีเฟนซีฟแทคเกิล ซูเปอร์สตาร์ที่เก่งฉกาจเรื่องการแซ็กควอเตอร์แบ็กทีมคู่แข่ง ยิ่งกว่าผู้เล่นในตำแหน่งดีเฟนซีฟเอนด์ส่วนใหญ่เสียอีก อีกคนหนึ่งคือ จาเลน แรมซีย์ ตัวคุมปีกที่ว่ากันว่าเก่งที่สุดของ NFL ในปัจจุบัน 2 คนนี้เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ทีมรับของทีมแรมส์ ทำผลงานสุดยอดในฤดูกาลที่ผ่านมา ขณะที่ตัวคุมปีกอีกคนคือ แดเรียส วิลเลียมส์ กับ จอร์แดน ฟูลเลอร์ ผู้เล่นตำแหน่งเซฟตี้ เป็นจอมฉวยโอกาสที่พร้อมลงโทษควอเตอร์แบ็กทีมคู่แข่ง ซึ่งขว้างลูกเข้ามาในโซนที่พวกเขารับผิดชอบ เพราะไม่อยากขว้างไปยังพื้นที่ที่มีแรมซีย์คุมอยู่ ฤดูกาลที่ผ่านมาพวกเขาถือเป็นทีมรับอันดับหนึ่งของ NFL หากทีมรุกภายใต้การนำของสแตฟฟอร์ดทำผลงานได้ดีสมความคาดหวัง จะแปลกอะไรที่ทีมแรมส์เริ่มนึกถึงแชมป์ซูเปอร์โบวล์
ทีมสุดท้ายที่น่าจับตาคือ คลีฟแลนด์ บราวน์ส ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมามีโอกาสเอาชนะทีมแคนซัสซิตี้ ชีฟส์ ได้ในรอบเพลย์ออฟ แต่กลับปล่อยชัยชนะหลุดมือ หลังจากปิดฤดูกาลแล้ว ทีมบราวน์สปรับปรุงผู้เล่นได้ดีที่สุดทีมหนึ่งโดยเฉพาะทีมรับ ส่วนทีมรุกหายห่วง มี เบเกอร์ เมย์ฟีลด์ ควอเตอร์แบ็กเพื่อนร่วมรุ่นของ จอช อัลเลน นำทีม และที่น่าจับตาไม่น้อยคือ ฤดูกาลนี้ทีมบราวน์สจะได้ยอดปีกนอก โอเดลล์ เบ็คแคม จูเนียร์ หายเจ็บเอ็นร้อยหวายกลับมาเล่นให้กับทีมอีกครั้ง
นอกจากนั้นในการดราฟต์ตัวปีนี้ ทีมบราวน์สยังเลือกปีกลมกรดอย่าง แอนโธนี ชวาร์ทซ์ มาเสริมทีมอีกด้วย ไม่แน่เขาอาจกลายเป็น ไทรีก ฮิลล์ คนใหม่ก็เป็นได้ ดังนั้นขอให้จับตาดูผลงานของเมย์ฟีลด์ให้ดี ส่วนเกมรุกภาคพื้นดิน นิค ชับบ์ กับ เควิน ฮันต์ ถือเป็นตัววิ่งหมัด 1-2 ทีเด็ด เรียกว่าทีมรุกของทีมบราวน์สซึ่งปกติก็ดีอยู่แล้ว ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีกในฤดูกาลใหม่นี้
ฤดูกาลที่ผ่านมาทีมรับของทีมบราวน์สไม่แข็งแกร่งมากถึงระดับลุ้นแชมป์ จึงมีการเสริมแนวรับครั้งใหญ่ ได้ผู้เล่นชั้นดีมาเสริมทีมมากมายหลายคน โดยเฉพาะ จอห์น จอห์นสัน เดอะเธิร์ด, ทรอย ฮิลล์, เจดเดวีออน คลาวนีย์, แอนโทนี วอล์กเกอร์ อีกทั้งยังดราฟต์ เกร็ก นิวซัม ตัวคุมปีกดาวรุ่งมาเสริมทีมด้วย บวกกับกำลังสำคัญหน้าเดิมของทีมอย่าง ไมล์ส แกร์เร็ตต์ ยอดดีเฟนซีฟเอนด์ แดนเซล วอร์ด ตัวคุมปีก และ รอนนี แฮร์รสัน สตรองเซฟตี้ ดูรายชื่อแล้วถือว่าแข็งแกร่งไม่น้อย เพียงแต่อาจต้องใช้เวลาปรับทีมให้ลงตัวช่วงต้นฤดูกาลสักระยะ หากทุกอย่างไปได้ด้วยดี โอกาสผ่านเข้าไปชิงซูเปอร์โบวล์ก็มีไม่น้อยทีเดียว ทั้ง 6 ทีมคือทีมเต็งแชมป์ที่บรรดาเกจิอเมริกันฟุตบอลส่วนใหญ่มองว่ามีโอกาสคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้ามากที่สุด ส่วนบรรดาทีมในกลุ่มที่มีโอกาสสอดแทรกขึ้นมา คือ ซานฟรานซิสโก ฟอร์ตีไนเนอร์ส, บัลติมอร์ เรฟเวนส์, ซีแอตเติล ซีฮอว์คส์ ส่วนทีมม้ามืดคือ นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ ของ บิลล์ เบลิชิก ยอดโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ NFL เนื่องจากการที่ทีมยอมปล่อยตัว แคม นิวตัน ควอเตอร์แบ็กจอมเก๋าออกจากทีม แสดงว่า แม็ก โจนส์ ควอเตอร์แบ็กดาวรุ่งที่เพิ่งถูกดราฟต์ตัวมาในรอบแรกปีนี้ มีดีพอที่ได้รับความไว้วางใจให้ลงเป็นตัวจริงตั้งแต่ในฤดูกาลแรก แม้มันไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากในกลุ่มตะวันออกสาย AFC ยังมีทีมที่แข็งแกร่งอย่างบัฟฟาโล บิลส์ และ ไมอามี ดอลฟินส์ อยู่ร่วมด้วยก็ตาม
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
