👉 กลายเป็นกระแสตีกลับหนักมากจากแฟนคลับ ทั้งศิลปินและแฟนบอล 2 ทีม ว่าดีล 400 ล้านของ “พิมรี่พาย” มาไลฟ์ขายตั๋วลดราคา ไม่ให้เกียรติคนซื้อบัตรก่อนหน้าที่ถูกจำกัดจำนวน (1 คน 4 ใบ) ได้อย่างไร?
👉 แม้ผู้จัด “วินิจ เลิศรัตนชัย” จะออกโรงมาชี้แจง “บัตรที่ พิมรี่พาย ขาย คือบัตรโควต้าของ 2 ทีม ที่เอาไปขายแฟนบอล ตปท. เหลือตีกลับมาที่เฟรชแอร์ บัตรนี้ไม่ได้ขายในระบบไทยทิคเก็ตฯตั้งแต่แรก จังหวะเดียวกันกับที่ พิมรี่พาย ติดต่อขอซื้อ ก็ขายให้ในราคาปกติ แต่เขาไปจัดกิจกรรมของเขาเอง” แต่แฟน ๆ ก็ยังเข้าใจยาก
👉 รวมถึงประเด็นแฟนบอลมีสิทธิ์ลุ้นจับสลากได้ไปนั่งกินข้าวกับศิลปิน ที่ผู้จัดออกมายืนยัน “ไม่เป็นความจริง” แล้วใครจะรับผิดชอบ?
👉 ดราม่าที่เกิดขึ้น หลายคนเข้าใจว่า เป็นคอนเทนท์ร่วมทุนธุรกิจเพื่อกระจายบัตรที่ขายไม่ออกตามเป้า โดยเฉพาะแฟนคลับในต่างประเทศไม่ตอบโจทย์ สุดท้ายจึงให้เจ้าแม่ไลฟ์ขายของมือหนึ่งช่วยจัดการ แต่แฟนคลับตัวจริง “เจ็บปวด”
👉 กระแสวิพากษ์จึงเต็มไปด้วยความร้อนแรง พิมรี่พายโดน ผู้จัดโดน ไทยทิกเก็ตโดน บอบช้ำกันไปตามแรงกระแทกเพียงชั่วข้ามคืน
👉 แต่หากมองย้อนกลับไปก่อนวันที่ปรากฎการณ์ The Match แดงเดือด จะเกิดขึ้นด้วยความกล้าบ้าบิ่นของชายคนหนึ่ง ที่มีเสียงปรามาสว่าไม่มีทางทำได้ แต่สุดท้าย ฝันกลายเป็นจริง พร้อมการเนรมิตสนามราชมังฯ อย่างที่เราไม่เคยเห็น
👉 อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า รายการแบบนี้หากำไรยาก จึงอาจไม่แปลกที่ผู้จัดจะพยายามไม่ให้การลงทุนลงแรงครั้งนี้ ส่งผลต่อองค์กรที่ต้องรับผิดชอบเลี้ยงชีวิตอีกมากมาย แม้จะเข้าใจหัวอกคนซื้อตั๋วห้วงแรกเป็นอย่างดี
👉 อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเด็นการจำหน่ายตั๋ว มีความอ่อนไหวต่อผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ซึ่งข้อนี้คงต้องหาทางเยียวยารักษาหัวใจกันต่อไป ขอแค่คนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรง อย่าผสมโรงเหยียบซ้ำ
👉 อยากให้มองอีกมุมว่า บางครั้งการสร้างความเชื่อมั่นก็จำเป็นต้อง “ซื้อ” เพื่อทำให้ฝันของหลาย ๆ คน เป็นจริงในชาตินี้
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม