ฟุตซอลไทย เสียท่าคาบ้าน โดน เวียดนาม แซงคว้าชัยในรอบ 10 ปี 2-3 จบอันดับ 2 กลุ่มเอ ไปเจอ อินโดนีเซีย แชมปืกลุ่มบี ในรอบรองชนะเลิศศึกชิงแชมป์อาเซีย 2024
การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดสุดท้าย วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. ณ สนาม เทอร์มินอลฮอลล์ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ เวียดนาม โดยทั้งสองทีมต่างชนะมา 3 นัดรวด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว เหลือแค่ตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม
ผลงาน 3 เกมที่ผ่านมา ทีมชาติไทย ชนะ บรูไน 13-0, ชนะ ติมอร์ เลสเต 7-1 และ ชนะ มาเลเซีย 3-1 ส่วน เวียดนาม ชนะ ติมอร์ เลสเต 4-1, ชนะ มาเลเซีย 2-0 และ ชนะ บรูไน 14-0
เกมนี้ มิเกล โรดริโก้ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ส่ง 5 คนแรก ประกอบด้วย เจริญพงศ์ ประสานสัตย์ (GK), ธีรภัทร เหมือนศรี, ปิยะวัฒน์ เพ็ชรน้อย, ณรงค์ศักดิ์ วิงวอน (C) และ เทอดศักดิ์ เจริญพงษ์
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 5 ทีมชาติไทย มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เทอดศักดิ์ เจริญพงษ์ จ่ายบอลมาหน้าประตู ก่อนจะไปแฉลบ เหงียน ติง ฟัท เข้าประตูตัวเอง
แต่นาทีที่ 12 เวียดนาม ตามตีเสมอเป็น 1-1 จากลูกเตะมุม และเป็น ฟาม ดึ๊ก ฮัว ได้ยิงด้วยขวาเข้าประตูไป
หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำประตูกันเพิ่มไม่ได้จนจบครึ่งแรก ทีมชาติไทย เสมอกับ เวียดนาม 1-1
ครึ่งหลัง นาทีที่ 31 ทีมชาติไทย มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จาก อัมรินทร์ เอกาพันธ์ จ่ายบอลต่อมาให้ ธนโชติ เสาะแสวง ได้ยิงด้วยขวาเข้าไป
แต่นาทีที่ 34 เวียดนาม ตามตีเสมอได้อีกครั้งเป็น 2-2 จากจังหวะยิงด้วยขวาจ่อๆหน้าประตูของ ดิงห์ กง เวียน
จากนั้นนาทีที่ 35 เวียดนาม มาได้ประตูขึ้นนำครั้งแรก 3-2 จากการยิงของ ดิงห์ กง เวียน และเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้
ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมชาติไทย โหมบุกหนัก เล่นเพาเวอร์เพลย์ แต่ตีเสมอไม่ได้ จบเกม ทีมชาติไทย แพ้ เวียดนาม 2-3
ส่งผลให้ ทีมชาติไทย ชนะ 3 แพ้ 1 มี 9 คะแนน จบอันดับ 2 ของกลุ่มเอ ไปเจอกับ อินโดนีเซีย แชมป์กลุ่มบี ส่วน เวียดนาม คว้าชัย 4 นัดรวด มี 12 คะแนนเต็ม คว้าแชมป์กลุ่มเอ ไปเจอกับ ออสเตรเลีย รองแชมป์กลุ่มบี
สำหรับโปรแกรมรอบรองชนะเลิศ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 คู่แรก 15.00 น. อินโดนีเซีย พบ ทีมชาติไทย ต่อด้วยคู่สอง 18.00 น. เวียดนาม พบ ออสเตรเลีย ที่ สนาม เทอร์มินอลฮอลล์ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา เปิดเข้าชมฟรี และถ่ายทอดสดทาง Youtube, Facebook – ช้างศึก และ ฟุตซอลไทยแลนด์
