นับตั้งแต่เข้ามาคุมบังเหียนบนหลังเสือที่เมืองมิวนิก “โธมัส ทูเคิล” พา บาเยิร์น มิวนิก ลงสนามไปแล้ว 4 นัด
เสือใต้ ชนะรวด 2 นัดเหนือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กับ ไฟร์บวร์ก สองทีมในกลุ่มนำ จนมีแต้มนำจ่าฝูงชนิดเบียดๆ กับ ดอร์ทมุนด์
แต่สำหรับฟุตบอลถ้วย เสือใต้ พ่ายแพ้ 2 นัดรวด โดยแพ้ ไฟร์บวร์ก ตกรอบเดเอฟเบ โพคาล และ เมื่อคืนนี้ก็บุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-0 ในฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก นัดแรกของรอบควอเตอร์ไฟนอล
ปาฏิหาริย์ในฟุตบอลรายการนี้มีมาทุกๆ ซีซั่น แมนเชสเตอร์ ซิตี ก็เคยถูก เรอัล มาดริด ส่งตกรอบรอบชนะเลิศจนน้ำตาตกมาแล้ว ดังนั้น เสือใต้ จึงมีลุ้นทำได้ในบ้าน นัดที่สอง
แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายเลย เพราะว่าในตอนนี้ “เรือใบสีฟ้า” กำลังท็อปฟอร์มจนมีลุ้นทำ Treble Champ
สำหรับ โธมัส ทูเคิล ที่เคยคุมทีมที่มีความคาดหวังสูงทั้ง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เชลซี ที่พลาดเป็นต้องถูกปลด ซึ่งเขาเคยลิ้มรสมาแล้วทั้ง 2 ครั้ง
แต่สำหรับ บาเยิร์น มิวนิก นั้นอาจแตกต่างออกไป เมื่อบอร์ดบริหารทุกยุคทุกสมัยของสโมสรแห่งนี้ไม่ได้มองแค่ทีมเล่นดี หรือ แค่มีแชมป์
แต่การเล่นดี มีสไตล์ และ ได้แชมป์ แชมเปียนส์ลีก หรืออย่างน้อยต้องได้เข้าชิง คือ เส้นพิจารณาอนาคตของกุนซือทุกคน
ความกดดันของที่นี่ จึงมีมวลอันมหาศาลกว่าทุกทีมที่ ทูเคิล เคยได้คุมมา
แม้ ทูเคิล จะมีฝีมือ มีโพรไฟล์ และ มีโอกาสจากการเข้ามากลางคัน แต่ถ้าเขาพลาดทุกแชมป์ในซีซั่นนี้ละก็
ความเปลี่ยนแปลงแบบเฉียบพลันอันโหดร้ายอาจเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคนที่เคยขี่หลังเสือตัวนี้ล้วนโดนแว้งกัดกันมานับไม่ถ้วนแล้ว