วันพุธนี้ (15 ก.ย.) “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สโมสรหนึ่งเดียวของไทย ที่ได้ไปต่อในถ้วยเอเชีย “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021” รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้าย เตรียมลงสนามดวลกับ ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส ยอดทีมเคลีก เกาหลีใต้ ในเวลาไทย 15.30 น. ที่ชอนจู เวิลด์คัพ สเตเดียม
รอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมาของบีจีพียู กับชัยชนะ 4 เกมเหนือ คายา เอฟซี (ฟิลิปปินส์) และเวียตเทล (เวียดนาม) ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่เหนือกว่า ทว่าสิ่งที่ “เดอะ แรบบิท” ต้องก้าวข้ามให้ได้คือการเผชิญหน้ากับทีมหัวแถวเอเชียจากเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น
อุลซาน ฮุนได คู่แข่งในรอบแบ่งกลุ่มคือบททดสอบชั้นดีว่า บีจี ปทุม อยู่ในระดับใด เมื่อพบความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ 0-2 ทั้งสองนัด คือสิ่งที่ต้องนำมาแก้ไขและปรับปรุง
แม้บนสมรภูมิไทยลีกซีซั่นใหม่ “กระต่ายแก้ว” ในฐานะแชมป์เก่า ยังมีดีพอที่จะขึ้นมายืนอยู่บนหัวตาราง หลังเปิดบ้านสยบ “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 2-0 ด้วยผลงานของสองดาวยิงสัญชาติไทยอย่าง เจนรบ สำเภาดี และ ธีรศิลป์ แดงดา ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนยกพลบุกแดนโสมขาว
อย่างไรก็ตามคู่ต่อกรของ “กระต่ายแก้ว” ในถ้วยเอเชียรอบนี้ถือเป็นสโมสรระดับบิ๊ก ด้วยผลงานคว้าแชมป์มากมายทั้งเคลีก 8 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย และเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย ในปี 2006 และ 2016
ณ ปัจจุบัน ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงเคลีก (ตามหลังอุลซาน ฮุนได 4 แต้ม) โดยมี คิม ซัง-ซิก คุมทัพ พร้อมผู้เล่นโควตาต่างชาติอย่าง สตานิสลาฟ อิลลูเชนโก กองหน้ารัสเซีย, กุสตาโว หัวหอกบราซิเลียน, โมดู บาร์โรว์ แนวรุกชาวแกมเบีย และ ทาคาฮิโร คุนิโมโตะ แข้งซามูไรในโควตาเอเชีย รวมถึงนักเตะที่แฟนบอลไทยส่งใจเชียร์คือ “เจ้าพี” ศศลักษณ์ ไหประโคน แบ็กซ้ายจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้โอกาสไปค้าแข้งด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน
เมื่อหันกลับมาดูพลพรรค “กระต่ายแก้ว” ต้องเจอปัญหา เมื่อจะไม่มีกุนซือใหญ่อย่าง ออเรลิโอ วิดมาร์ คุมทัพไปด้วย เนื่องจากติดปัญหาข้อบังคับและมาตรการการกักตัวเมื่อเดินทางเข้าประเทศในสถานการณ์ โควิด-19 ตามมาตรการรัฐ
นอกจากนี้ยังต้องขาด 3 แข้งต่างชาติตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บพร้อมๆ กันทั้ง อันเดรส ตูเญซ, วิคเตอร์ คาร์โดโซ และ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต
ดังนั้น “กระต่ายแก้ว” จึงต้องผนึกกำลังสู้ด้วยสภาพทีมที่เหลืออยู่ ณ เวลานี้ นำโดยแกนหลัก “เมด อิน ไทยแลนด์” อย่าง ฉัตรชัย บุตรพรม, จักพัน ไพรสุวรรณ, สันติภาพ จันทร์หง่อม, สารัช อยู่เย็น, สุมัญญา ปุริสาย, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ รวมถึงสองหัวหอกอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และ เจนรบ สำเภาดี
เมื่อเทียบดีกรีกันแล้ว หลายคนอาจทำใจ เรื่องเข้ารอบต่อไปคงไม่ต้องพูดถึง เพราะ “กระต่ายพันธุ์ไทย” ตัวนี้เป็นรองหลายขุม ขอแค่สู้เต็มที่ ไว้ลายแชมป์ไทยลีก และให้สมศักดิ์ศรีตัวแทนหนึ่งเดียวของอาเซียนที่เหลืออยู่ในถ้วยเอเชียก็พอ
แต่เชื่อว่าหลายคนก็ยังแอบหวัง ฟุตบอลลูกกลมๆ มีลมอยู่ข้างใน “กระต่ายพันธุ์ไทย” ตัวนี้อาจสร้างเซอร์ไพรส์!!!
แล้วคุณล่ะ…คิดว่า “กระต่ายพันธุ์ไทย” ตัวนี้จะได้ไปต่อหรือไม่?
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
