จากคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ เอแดร์สัน มือหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี และ มือสองทีมชาติบราซิล ที่ว่า
“ผมได้คุยกับ คาเซมิโร, วินิซิอุส และ มิลิเตา ดูเหมือนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ คาร์โล อันเชลอตติ จะได้มาคุมทีมชาติบราซิล”
ดูเหมือนว่า เหล่าผู้เล่นแซมบ้าจะรู้สึกตื่นเต้น และ รอคอยการเข้ามาเป็นกุนทีมชาติบราซิลของ คาร์โล อันเชล็อตติ ยอดโค้ชระดับสโมสรชาวอิตาเลียน
ผู้เคยพาสโมสรที่เขาเคยคุม คว้าแชมป์ลีกสูงสุดรวม 5 ครั้ง 5 สัญชาติ แถมด้วยแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก อีก 4 ครั้ง
นับตั้งแต่ยุคที่ คาร์ลอส อัลแบร์โต แปร์เรย์รา พาบราซิลครองแชมป์โลกสมัยที่ 4 เมื่อปี 1994 ด้วยการเปลี่ยนเกมรุกสุดขั้วมาเป็นรุกชัวร์ รับแน่น จากส่วนผสมแนวรุกระดับโลกที่มีดีเอ็นเอแซมบา และ ผู้เล่นที่เปี่ยมวินัยแบบภาคพื้นยุโรปมากำกับสมดุลของทีม
จากนั้นทัพเซเลเซาก็สานต่อเจตนารมณ์นี้เป็นแผนฟุตบอลแห่งชาติจนคว้าแชมป์โลก 2002 ได้อีกครั้งในยุคของ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี
แต่ในช่วง 20 ปีหลัง ดูเหมือนว่าทีมชาติบราซิลดูจะขาดความลงตัว รวมทั้งขาดความเขี้ยวในช่วงเวลาสำคัญ
บางทีสไตล์ของ อันเชล็อตติ ที่ทำให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถทำ เรอัล มาดริด เวอร์ชันที่ไม่ได้สุดยอดแบบในยุคของ ซีดาน ให้กลายเป็นทีมที่ถนัดมากๆ ในบอลระดับทัวร์นาเมนต์ อาจจะเหมาะเจาะสำหรับทรัพยากรที่บราซิลมีในตอนนี้
ซึ่ง เอแดร์ซอน ขันอาสาพา แมนเชสเตอร์ ซิตี ส่งให้ ราขันชุดขาว ตกรอบ 4 ทีม แชมเปียนส์ ลีก เพื่อที่จะให้ ฟลอเรนติโน เปเรซ ตัดขาดจาก อันเช เพราะเห็นว่าไร้แชมป์ในฤดูกาลนี้
แล้วจะได้มีเวลาว่างจนเข้ารับตำแหน่งในฝันที่โค้ชหลายคนสนใจมาทำงาน นั่นก็คือการเป็นโค้ชทีมชาติบราซิลนั่นเอง