ปี 2019 ในวัยแค่ 17 ปี “ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา” มีชื่อติดทีมชาติไทยถึง 3 ชุด ภายในเวลา 1 เดือนเท่านั้น
เริ่มจาก ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศกัมพูชา
ต่อด้วย ชุดใหญ่ ทำศึกคัดบอลโลก 2 นัด ไปเยือน มาเลเซีย และ เวียดนาม
ปิดท้าย ชุดอายุไม่เกิน 22 ปี ทำศึกซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์
เรื่องการทำสถิติกับ “เจ้าแบงค์” ดูจะเป็นของคู่กันไปแล้ว
เขาคือนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงสนามใน ไทยลีก ด้วยวัย 15 ปี 8 เดือน 22 วัน
เขาคือนักเตะอายุน้อยสุดที่ทำประตูได้ใน ไทยลีก ด้วยวัย 15 ปี 9 เดือน 25 วัน
เขาคือนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงสนามใน เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ด้วยวัย 16 ปี 7 เดือน 11 วัน
เขาคือนักเตะอายุน้อยสุดที่ทำประตูได้ใน U23 ชิงแชมป์เอเชีย ด้วยวัย 16 ปี 7 เดือน 22 วัน
เขาคือนักเตะอายุน้อยที่ทำประตูได้ใน เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ด้วยวัย 16 ปี 8 เดือน 7 วัน
เขาคือนักเตะอายุน้อยสุดที่ได้ลงสนามให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ด้วยวัย 16 ปี 10 เดือน 3 วัน
และอีกหลายสถิติที่รอทำลาย
กองหน้าอนาคตไกลจากค่าย “ปราสาทสายฟ้า” ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข”
ปัจจุบันในวัย 20 ปี เขายังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อซัดไปแล้ว 8 ประตู ในไทยลีกฤดูกาลนี้ พร้อมนำอันดับ 1 แอสซิสต์ จำนวน 9 ครั้ง
หลายคนบอกว่า ถึงเวลาแล้วที่ ศุภณัฏฐ์ จะไปลุยลีกยุโรปเสียที หลังจากบ่มเพาะฝีเท้าและมีโอกาสได้ไปฝึกซ้อมกับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุด มีรายงานยืนยันว่า เขาได้รับสัญญากับ เลสเตอร์ ซิตี แล้ว และจะเดินทางไปทันทีหลังจบฤดูกาลนี้
แต่อย่างที่ทราบกันดี เวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ใช่ใครจะไปเล่นง่าย ๆ เพราะมี “เวิร์ค เพอร์มิท” หรือ ใบอนุญาตทำงาน เป็นกำแพงกั้น
นั่นทำให้ ศุภณัฏฐ์ จะต้องถูกปล่อยไปเล่นในลีกเบลเยียมกับสโมสรพันธมิตรอย่าง โอเอช ลูเวิน อดีตทีมเก่าของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เป็นการเริ่มต้นกระบวนการในการขอ “เวิร์ค เพอร์มิท” เพื่อปูทางสู่พรีเมียร์ลีกต่อไปในอนาคต
แม้จะต้องใช้เวลา แต่อย่างน้อยก็ได้เริ่มต้นนับหนึ่งเสียที