เฟร์นานโด ตอร์เรส มีความทรงจำที่ดีมากมายกับทั้ง แอตเลติโก มาดริด, ลิเวอร์พูล และ ทีมชาติสเปน
แต่กับ เชลซี ดาวยิงค่าตัวแรงในยุคนั้นกลายเป็นผู้เล่นที่อยู่กึ่งกลางของความ ล้มเหลว กับ รอดตัว
ชีวิตบนเกาะอังกฤษกับหงส์แดง ตอร์เรส ยิงได้เป็นกอบเป็นกำ และ ไปไกลถึงอันดับสามรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2008 เขาคือหนึ่งในคู่ขาที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด ยกย่องมากที่สุด
จนกลางซีซั่น 2010/11 เชลซี ทุ่มเงินเฉียด 60 ล้านยูโร จนเป็นสถิติมูลค่าการย้ายทีมสูงสุดระหว่างสโมสรในพรีเมียร์ลีก และ เป็นอันดับหกของโลกในเวลานั้น
เชลซีซื้อเขามาเพื่อผลิตสกอร์ และ เพื่อคว้าแชมป์ยุโรป
แต่จำนวนประตูที่เขาทำได้กลับกลายเป็นกระปริบกระปรอยอย่างน่าใจหาย สวนทางกับจำนวนแอสซิสต์ที่สูงขึ้นอย่างน่าประหลาด ตอร์เรส ถูกกดดันอย่างหนักจากทุกทาง
จนกระทั่งวันที่ 24 เมษายน ปี 2012 เชลซี บุกไปเยือนสนามคัมป์นูด้วยความหวังเข้ารอบ และ เอาคืน
ตอร์เรส ที่ทั้งฤดูกาลนั้นยิงไปเพียง 7 ประตู และ นั่งสำรองนาน 80 นาที ถูกส่งลงสนามไปแทน ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ในนาทีที่ 90.35 แอชลีย์ โคล หวดสกัดยาวทิ้งออกมากลางสนาม โดยแทบไม่มีใครเห็น รวมทั้งกล้องยังแทบจับภาพไม่ทัน นอกจากเห็นแค่ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ พยายามวิ่งไล่กวดอะไรสักอย่าง
บอลลอยอยู่เกือบ 2 วินาที ทุกคนจึงได้เห็นว่าบอลไปเข้าทาง ตอร์เรส ที่ตอนแรกอยู่นอกเฟรมกล้อง
อีก 10 วินาทีต่อมาภาพประวัติศาสตร์ก็เกิดขึ้น เชลซีบุกมาส่งให้บาร์เซโลนาตกรอบถึงบ้าน ถอนแค้นเมื่อ 2 ปีก่อนได้อย่างสะใจ
ลูกยิงของเขาลูกนี้ถูกจดจำจากแฟนบอลของเชลซี จนลบภาพอื่นๆ ของ ตอร์เรส จนหมดสิ้น
ไม่ว่าใครจะวิจารณ์ว่า ตอร์เรส คืออีกหนึ่งหน้าตำนานผู้เล่นหมายเลข 9 ที่ล้มเหลว แต่สำหรับสโมสรเชลซี เขาคือฮีโร่ที่คัมป์นู
