คราวที่เทคโนโลยี ซีเออาร์ กำลังจะถูกบรรจุเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเกมฟุตบอล
ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างวิตกว่า เกมฟุตบอลอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงจนคลายมนต์เสน่ห์ลง
ด้วยการที่เกมถูกหยุดชะงักเพื่อรอผลการตรวจสอบจากภาพวิดีโอ
แต่เมื่อมีการใช้งานไปสักระยะ ทุกคนที่ทั้ง เห็นด้วย และ คนที่คัดค้าน ต่างก็ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีตัวนี้ดี และ มีประโยชน์
รวมทั้งยังคงเกิดความผิดอยู่ ซึ่งถือเป็นความผิดพลาดชนิดใหม่
พวกเขาจึงพากันปรับปรุงทั้งตัว เทคโนโลยี และ ปรับเปลี่ยนกฎกติกา เพื่อเอาชนะความผิดพลาดให้จงได้
แต่ดูเหมือนว่า การปรับปรุง และ การเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ตัดสินอังกฤษ จะยังคงเดินหน้าสร้างความผิดพลาดที่ผู้เล่น ทีมงาน แฟนบอล และ นักวิจารณ์สังเกตเห็นว่ามันยังคงมีความผิดพลาดอยู่เหมือนเดิม
ในตอนที่จะมีการนำ “วีเออาร์” เข้ามาใช้ วงการนี้มีเทคโนโลยี “โกล์ไลน์” เพื่อตรวจสอบตำแหน่งของลูกฟุตบอลกับเส้นประตู
จึงทำให้คนกลุ่มนี้แนะนำว่า การเพิ่มจำนวนผู้ช่วยผู้ตัดสินอีกราว 2-4 คน เพื่อช่วยในเรื่องการมองเห็นเกมน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
แต่ด้วยเสียงที่ใหญ่กว่า ทั้งสมาคมฟุตบอล, พรีเมียร์ลีก และ สมาคมผู้ตัดสิน จึงเลือกใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยมีผู้ตัดสินเป็นคนคอยควบคุมดูแลทุกขั้นตอน
“โกล์ไลน์” ช่วยได้ทั้งลูกข้ามเส้นประตู, ลูกออกเส้นข้าง, ลูกออกเส้นหลัง ในฟุตบอลโลกครั้งล่าสุด
ส่วนการจับล้ำหน้า มีการใช้เทคโนโลยีที่ดีกว่าดวงตามนุษย์มาตัดสิน
แต่พรีเมียร์ลีกยังคงใช้ดวงตากับการตีเส้นประกอบการตัดสินดุจเดิม
สิ่งที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ จึงมีความวุ่นวายสับสนในทุกสัปดาห์
การคัดค้านคำตัดสินที่ไม่เป็นบรรทัดฐาน การจับล้ำหน้าที่กลับไปกลับมา จังหวะแฮนด์บอลที่มาตรฐานระหว่างบอลทูแฮนด์ กับ แฮนด์ทูบอล พัฒนาไปเป็นแขนทูลำตัว หรือ แขนทูบอล
การฟาวล์ที่คลุมเครือ การกีดขวางผู้รักษาประตูที่หลากคำตัดสิน การย่ำคู่แข่งที่ยังไม่มีคำชี้แจงว่าอย่างใดควรใบแดง การเกะกะสายตาผู้รักษาประตู และ อื่นๆ อีกมากมาย
หลายครั้งที่ วีเออาร์ แทรกแซงผู้ตัดสินได้ หลายครั้ง ซีเออาร์ นำเสนอสิ่งที่ผู้ตัดสินมองไม่ทัน หลายครั้งที่ผู้ตัดสินใหญ่กว่า วีเออาร์ และ หลายครั้งที่ทั้งสองฝ่ายเงียบสนิท
จนคนนอกรับรู้ว่า มันมีกฎที่ว่าด้วยเรื่อง “แล้วแต่ดุลพินิจของผู้ตัดสิน” และ “เปลี่ยนแปลงคำตัดสินไม่ได้”
ซึ่งถ้ามันเป็นไปในบรรทัดฐานเดียวกัน ใช้ดุลพินิจเหมือนกัน และ ตีความแบบเดียวกัน เรื่องทุกอย่างจะไม่ใช่ปัญหา
แต่ในความเป็นจริงก็คือ เทคโนโลยีก้าวล้ำไปในอนาคต แต่สมองของคนชุดดำยังครอบงำการตัดสินผ่านมุมมอง ทัศนคติ และ ดุลพินิจเช่นเดิม
ในยุคที่กล้องถ่ายทอดสดมีรอบสนาม ความคมชัดระดับคมกริบ แต่ทุกอย่างยังคงถูกดวงตามนุษย์มอง ถูกสมองมนุษย์คิด และ เสียงปรี๊ดจากปากไม่เปลี่ยนแปลง