31 วัน กับ 51 นัด และ 142 ประตู ฟุตบอล “ยูโร 2020” ปิดฉากลงอย่างสวยงาม ท่ามกลางชัยชนะของอิตาลี ที่คว้าแชมป์ยุโรปเป็นครั้งที่ 2 ในนามทีมชาติ โรแบร์โต มันชินี อยู่ในเส้นทางสร้างขุนพลอัซซูรีที่ดีที่สุดทีมหนึ่งในประวัติศาสตร์ การคว้าแชมป์ยูโรเป็นความสำเร็จที่จับต้องได้ หลังจากพาทีมไม่แพ้ใครมา 34 นัดติดต่อกัน ทำให้ชาวอิตาเลียนลืมความเจ็บปวดจากการไม่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกเมื่อปี 2018 และในฐานะชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมากที่สุดชาติหนึ่งในยุโรป ชัยชนะครั้งนี้ทำให้คนในประเทศยิ้มได้อีกครั้ง
“ยูโร 2020” เต็มไปด้วยเรื่องราวของการกลับมา เริ่มจาก สเปน และ หลุยส์ เอ็นริเก ที่ทำให้กระทิงดุมีลุ้นแชมป์อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จมาตลอด 9 ปีหลัง ท่ามกลางอุปสรรคมากมายกว่าจะพาทีมมาจบที่รอบรองชนะเลิศ ทั้งการสูญเสียลูกสาวไปด้วยโรคมะเร็ง การเสียเพื่อนที่เป็นเหมือนมือขวาในการคุมทีม หรือข่าวเรื่องการเลือกที่รักมักที่ชังด้วยการไม่มีผู้เล่นของเรอัล มาดริด ติดทีมมาแม้แต่คนเดียว แต่เอ็นริเกก็พิสูจน์แล้วว่า เขาคิดถูก อาจจะไม่ถึงแชมป์ แต่อุปสรรคที่ต้องก้าวผ่าน ประกอบเวลาที่มี นั่นคือที่สุดแล้วของสเปน
ลุค ชอว์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นสองนักฟุตบอลที่กลับมาแจ้งเกิดเป็นหนที่สองในยูโร คนแรกเคยเป็นหนึ่งในนักเตะมากพรสวรรค์ของอังกฤษ แต่อาชีพค้าแข้งของเขาเกือบจะสิ้นสุดก่อนที่จะได้เริ่มเสียอีก ในปี 2015 ชอว์ได้รับบาดเจ็บขาหักขณะที่เล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งอาการบาดเจ็บเกือบทำให้เขาต้องสูญเสียขาเพราะภาวะแทรกซ้อน และไม่ได้ลงสนามเลยเกือบๆ 1 ปี พอกลับมาก็ถูกนายใหญ่ของปีศาจแดงอย่าง โฮเซ มูรินโญ ตำหนิออกสื่ออยู่เสมอๆ แต่สุดท้ายก็เอาชนะอุปสรรค เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมที่สุดในยูโร จนถูกนำไปเปรียบเทียบกับ โรแบร์โต คาลอส ตำนานแบ็กซ้ายของบราซิล
ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง นั้น ก่อนหน้าที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่มต้นขึ้น แฟนบอลต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า แกเร็ธ เซาท์เกต ควรจะให้โอกาสตัวรุกคนอื่นๆ ในทีมมากกว่า ทั้ง จาดอน ซานโช, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ฟิล โฟเดน ด้วยผลงานที่ไม่เข้าตาในระดับสโมสรเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา จนมีข่าวว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะปล่อยออกจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่เซาท์เกตก็มอบความไว้วางใจให้ถูกคน สเตอร์ลิงพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า เขายังมีดีพอที่จะลงเล่นในระดับสูงได้อยู่
อีกคนที่กลับมาเกิดอีกครั้ง คือ คริสเตียน อีริคเซน เราไม่ได้เหน็บแนม แต่หมายความตามนั้นจริงๆ กองกลางเดนมาร์กได้โอกาสที่สองในการใช้ชีวิต หลังจากที่ล้มลงคาสนามในเกมแรกของทีมชาติในยูโร หมอบอกว่าเขาหยุดหายใจไปแล้วในสนาม แต่เพราะการช่วยเหลือที่รวดเร็ว ความเป็นมืออาชีพ และฮีโร่ที่ไม่ได้สวมผ้าคลุมทั้ง ซิมง เคียร์ กัปตันทีม เพื่อนร่วมทีม และทีมแพทย์ ทำให้เราได้เห็นภาพอีริคเซนออกมายิ้มแย้มถ่ายรูปกับแฟนบอล โดยหวังว่าเราจะเห็นกองกลางเชิงสูงกลับมาลงสนามอีกครั้ง เรื่องราวของอีริคเซนในยูโรหนนี้เกือบจะสมบูรณ์แบบถ้าเดนมาร์กคว้าแชมป์สำเร็จ เสียดายที่เทพนิยายเดนส์จบลงที่รอบรองชนะเลิศ
ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างอิตาลีกับอังกฤษ มีคำคำหนึ่งที่สื่อต่างประเทศหยิบมาใช้คือRedemption หรือแปลตรงๆว่า “การไถ่ถอน” หรืออีกนัยหนึ่งคือ การแก้ตัว โดยเฉพาะจากสองกุนซือคู่ชิงอย่าง โรแบร์โต มันชินี และ แกเร็ธ เซาท์เกต ผู้จัดการทีมอิตาลีตอนที่เป็นนักเตะนั้นรับใช้ทีมชาติแค่ 36 ครั้งและทำได้เพียง 4 ประตู เอ็นโซ แบร์ซอต ตำนานกุนซืออัซซูรีเป็นคนที่ให้โอกาสมันชินีติดทีมชาติชุดใหญ่ ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแทนด้วยการทำตัวเหลวไหลตอนที่ทีมชาติไปทัวร์สหรัฐอเมริกา จนแบร์ซอตบอกว่าจะไม่เรียกมันชินีมาติดทีมอีกแล้ว การพาทีมอัซซูรีคว้าแชมป์ ทางหนึ่งคือการแก้ตัวสิ่งที่เคยทำไว้ และแบร์ซอตคงคาบไปป์ดีใจอยู่บนสวรรค์
ส่วน แกเร็ธ เซาท์เกต เอง เราๆ รู้กันอยู่แล้วว่า หนึ่งในเป้าหมายของการคุมทีมชาติอังกฤษก็เพื่อแก้ตัวจังหวะการพลาดลูกจุดโทษในรอบรองชนะเลิศยูโร 1996 จากที่พาทีมไปถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเมื่อปี 2018 คราวนี้อังกฤษของเซาท์เกตไปได้ไกลขึ้นอีกก้าว เขาพาทีมถอนแค้นเยอรมนี ปิดฉากการคุมทีมของ โยอาคิม เลิฟ พาอังกฤษเข้ารอบชิงชนะเลิศรายการใหญ่ได้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ถัดจากฟุตบอลโลกปี 1966 แม้ว่าจะพาฟุตบอลกลับบ้านไม่สำเร็จ ถ้ามองในแง่ดีเซาท์เกตทำสิ่งที่ เทอร์รี เวนาเบิลส์, เกล็นน์ ฮอดเดิล, สเวน-โกรัน อีริคสัน, ฟาบิโอ คาเปลโล และ บ็อบบี ร็อบสัน ทำไม่ได้
แต่สุดท้ายอาถรรพ์เรื่องจุดโทษก็กลับมาสร้างฝันร้ายให้คนเมืองผู้ดีอีกครั้ง คำถามที่เกิดขึ้นหลังดอนนารุมมา นายด่านอิตาลีเซฟลูกยิงของ บูกาโย ซากา ก็คือ เซาท์เกตคิดถูกแล้วหรือที่มอบภาระหนักอึ้งให้ดาวเตะวัยละอ่อนทั้งสามคน อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, จาดอน ซานโช และ บูกาโย ซากา ยิงลูกโทษตัดสินในนัดที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งทั้งสามคนยิงพลาดทั้งหมด บางทีการพลาดจุดโทษอาจจะกลับมาหลอกหลอนเซาท์เกตอีกเป็นรอบที่ 2 โดยคราวนี้เขาจะไม่ได้เตะบอลเองก็ตาม
คริสเตียโน โรนัลโด อาจจะพาโปรตุเกสไปได้ไม่ถึงฝั่งฝัน แต่เจ้าตัวก็ทำสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าเขาทำได้ด้วยการคว้าตำแหน่งดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ ทำคนเดียว 5 ประตู เท่ากันกับ ปาทริค ชิค กองหน้าของสาธารณเช็ก แต่โรนัลโดทำได้ใน 4 เกมที่ลงสนาม ส่วนชิคทำ 5 ประตูใน 5 เกม โดยมีลูกยิงครึ่งสนามใส่สกอตแลนด์ เป็นหนึ่งในประตูที่สวยที่สุดของการแข่งขัน ส่วนโรนัลโดนั้น ครั้งนี้อาจจะเป็นยูโรครั้งสุดท้ายในอาชีพค้าแข้ง
ด้านผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันตกเป็นของ จานลุยจิ ดอนนารุมมา ผู้รักษาประตูทีมชาติอิตาลี เจ้าของ 3 คลีนชีตกับ 9 เซฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเซฟช่วงดวลลูกจุดโทษกับสเปนในรอบรองชนะเลิศ และเซฟสองจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศ พาอิตาลีคว้าแชมป์ อีกคนที่ถ้าไม่เจ็บหนักเสียก่อนก็น่าจะมีลุ้นกับรางวัลนี้คือ เลโอนาร์โด สปินาซโซลา แบ็กซ้ายจอมบุกของอิตาลี
คำถามมากมายที่ยังคาใจหลังยูโรและอาจจะได้คำตอบในฟุตบอลโลกที่กาตาร์ 2022เบลเยียมกับผู้เล่นชุด Golden Generation ที่ยังคว้าแชมป์อะไรไม่ได้เลย เนเธอร์แลนด์และเยอรมนีกับการเปลี่ยนผู้จัดการทีม ฝรั่งเศสในฐานะแชมป์โลกจะพร้อมแค่ไหนในการป้องกันแชมป์ในฟุตบอลโลกปี 2022 หลังจากที่ล้มเหลวในยูโรหนนี้
ถ้าตัดเรื่องการต้องเดินทางไปมาเพื่อตามเชียร์และลงสนามซึ่งสร้างความหงุดหงิดในหัวใจให้ทุกฝ่าย ยูโร 2020 เป็นสิ่งที่คนในยุโรปและคนทั้งโลกต้องการ การมีแฟนบอลกลับเข้าไปในสนาม เสียงเพลงเชียร์ เสียงโห่ เสียงปรบมือ เป็นสัญญาณบอกว่าทุกอย่างกำลังจะกลับมาเหมือนเดิมอย่างน้อยๆ ก็ในยุโรป หลังจากปีกว่าๆ ของการต้องดิ้นรนต่อสู้กับโควิด บางทีกีฬาก็เป็นเครื่องเยียวยาจิตใจชั้นดี
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
