โค้ชเชื้อสาย อิตาเลียน-เยอรมัน เข้ามาสืบทอดตำแหน่งเฮดโค้ช ทีมชาติเบลเยียม ต่อจาก โรแบร์โต มาร์ติเนซ ที่ล้มเหลวในการนำปีศาจแดงคว้าแชมป์ระดับทีมชาติ
ผลงานดีสุดได้อันดับสามฟุตบอลโลก 2018 แต่จากนั้นไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ตามที่คาดหวังในยูโร 2020 และฟุตบอลโลก กาตาร์2022
เกิดข่าวลือทางลบมากมายในห้องแต่งตัว จนทำให้ กุนซือชาวสเปน ยุติบทบาท 6 ปีในฐานะนายใหญ่ทีมชาติเบลเยียม
ปีศาจแดง มองหากุนซือคนใหม่เข้ามากอบกู้ผลงานและในที่สุดก็แต่งตั้ง โดเมนิโก เตเดสโก วัย 37 ปี ที่เซ็นสัญญาจนถึงหลังจบทัวร์นาเมนต์ยูโร 2024
วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้กับโค้ชสายเลือดใหม่ลูกครึ่ง อิตาเลียน-เยอรมัน กันครับ
–เส้นทางค้าแข้ง+อาชีพโค้ช
เคยเล่นฟุตบอลในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ กับทีมลีกล่างของเยอรมนี จากนั้นหันไปยึดอาชีพโค้ชในปี 2008 โดยเริ่มจากเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนของ สตุตการ์ท และในเวลาไม่นาน เตเดสโก ไต่เต้าขึ้นมาเป็นกุนซือใหญ่ชุดยู 17 เมื่อปี 2014
ชีวิตเริ่มก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อย้ายไปคุมทีมเยาวชนของ ฮอฟเฟนไฮม์ ก่อนเลื่อนชั้นดูแลทีมยู 19 ในเวลาต่อมา
เตเกสโก ได้รับการแต่งตั้งเป็นเฮดโค้ชทีมชุดใหญ่ครั้งแรกกับสโมสร เออร์ซเกเบอร์เก เอาร์ ในลีกาสองและสามารถฉุดทีมขึ้นจากก้นตารางมาจบอันดับ 14
ซีซัน 2017-18 รับงานคุมทีม ชาลเก 04 และพาทีมบินสูงจบตำแหน่งรองแชมป์ บุนเดสลีกา ในฤดูกาลแรกที่เข้ามาทำงาน
แต่ในปี 2019 ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ก่อนไปรับงาน แอร์เบ ไลปซิกและ สปาร์ตัก มอสโก ในช่วง 2 ปีหลัง
–แทคติก
ว่ากันว่านี่คือยอดโค้ชเยอรมันสายเลือดใหม่ที่รอวันฉายแสง เชี่ยวชาญแทคติกดั่งเช่นนักหมากรุกบนพื้นหญ้า
โดยในช่วงคุมทัพ ชาลเก ก่อนเกมจะมีการวางหมากเล่นงานคู่แข่งอย่างละเอียด เน้นใช้ปีกโจมตีริมเส้น และเกมโต้กลับเฉียบพลัน รวมทั้งบีบพื้นที่เร็วในแดนคู่แข่ง
ระหว่างคุมทีม ไลป์ซิก มักใช้ระบบหลังสามคน เซตบอลจากหน้าประตู, วิงแบคสองฝั่งเติมเกมรุก, กองหน้าคู่และมิดฟิลด์ตัวรุกยืนทำเกมด้านหลัง ทีมเวิร์กและความเข้าใจเกมทำให้รูปเกมของ ไลป์ซิก ไหลลื่นมีประสิทธิภาพภายใต้ระบบ3-4-3 ที่สร้างสมดุลทั้งรุกและรับ
–สิ่งที่รอการพิสูจน์
เตเดสโก อาจเป็นจิ๊กซอว์ที่ เบลเยียม มองหามานาน การเน้นใช้งานปีกเจาะคู่แข่งน่าจะเหมาะกับผู้เล่นอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ที่จ่ายบอลคม
เตเดสโก คือโค้ชรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติและถนัดเกมรุกแบบรวดเร็ว รวมทั้งไล่กดดันยามไม่มีบอล
นอกจากนั้น เตเดสโก ยังเป็นโค้ชที่ให้ความสำคัญเกมรับ จึงเชื่อว่าจะเข้ามายกระดับกองหลังเบลเยียมที่เคยเป็นรูรั่วได้อย่างแน่นอน
ซึ่งโค้ชหนุ่มวัย 37 ปี จะประเดิมโชว์ฝีมือคุมทีมเกมแรกเผชิญหน้ากับ สวีเดน ในคืนวันศุกร์ที่ 24 มีนาคมนี้