ในวินาทีนี้ คิเลียน เอ็มบัปเป คือ นักเตะที่น่ากลัวที่สุดในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์
รวมกับความคมกริบของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์, การเติมเกมของ อองตวน กรีซมันน์ และ ความว่องไวของ อุสมาเน เดมเบเล จนทำให้ทีมชาติฝรั่งเศสพลิกขึ้นมาเป็นทีมเต็ง
รวมถึงในเกมต่อไปในกรณีที่รถผ้าป่าจะไม่คว่ำ ทีมชาติโปรตุเกส ที่มีการผ่านบอลคิลเลอร์ของ บรูโน แฟร์นานด์ส, การคืนฟอร์มของ ฌูเอา เฟลิกซ์ รวมถึงการแจ้งเกิดของ กอนซาโล รามอส เจ้าของแฮตทริกแรกของฟุตบอลโลก และ ต้องไม่ลืมว่ายังมี โรนัลโด
หรือในรอบชิงที่มีทั้ง ลีโอเนล เมสซี, ยูเลียน อัลวาเรซ, เนย์มาร์, ริชาร์ลิซอน, กัคโป รออยู่
ทีมชาติอังกฤษ ที่แม้จะมีเกมรุกที่มีประสิทธิภาพ มีสามกองกลางที่ครบเครื่อง จนทำได้ถึง 12 ประตู แถมเพิ่งจะเสียไปแค่ 2 ประตู และ ได้ไป 3 คลีนชีท จาก 4 นัดแรก
ก็อาจจะต้องหวังว่า แผงแบ็คทรี หรือ แบ็คโฟร์ของพวกเขา จะสามารถทำฟอร์มในระดับเกมรับของทีมชาติอิตาลี ชุดแชมป์โลก 2006 ที่ใช้ความเหนียวแน่นนำทางจนเสียไปแค่ 2 ประตู จาก 7 นัด อันเป็นจุดเด่นในการคว้าแชมป์สมัยที่ 4
ซึ่งถ้า แกเร็ธ เซาธ์เกต สามารถปลุกความเป็นอัซซูรีในตัวเกมรับของเขาได้
ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน บุฟฟอน, ไคล์ ซามบรอตตา, จอห์น เนสตา มาเตราซซี, แฮร์รี คันนาวาโร, ลุค กรอสโซ
“สิงโตมะกะโรนี” ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจใคร!!!