ในอดีต มาริโอ ซากัลโล เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยกับ ทีมชาติบราซิล ในฐานะผู้เล่น เมื่อปี 1958 และ 1962 ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 1965 ในวัย 34 ปี
ซากาโล ใช้เวลาหลังจบอาชีพค้าแข้งในอีก 2 ปีต่อมา ก้าวขึ้นไปคุมทีมชาติบราซิล จนพาทีมคว้าแชมป์โลกปี 1970 ได้สำเร็จ ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นมนุษย์คนแรกที่คว้าแชมป์โลกได้ทั้งในบทบาท ผู้เล่น และ ผู้จัดการทีม
ในปี 1994 ซากัลโล มารับงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติบราซิลอีกรอบ และ มีส่วนช่วยทีมคว้าแชมป์โลกได้ หลังจากนั้นในอีก 3 ปีต่อมา เขาพาทีมเป็นแชมป์โคปาอเมริกา 1997 แล้วต่อด้วยการเป็นรองแชมป์โลก 1998
ฟรานซ์ เบคเคนบาวเออร์
เคยเป็นผู้เล่นทีมชาติเยอรมนีตะวันตกชุดคว้าแชมป์ยูโร 1972 และ แชมป์ฟุตบอลโลก 1974 รวมทั้งเป็นนักเตะบัลลงดอร์
อีก 10 ปีต่อมา เขาก้าวขึ้นมารับงานคุมทีมชาติ ก่อนพาทีมเป็นรองแชมป์โลก 1986 และ คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จในฟุตบอลโลก 1990
อันทำให้ “ไกเซอร์ฟรานซ์” กลายเป็นกุนซือรายแรกของโลก ที่เคยคว้าแชมป์โลก แชมป์ยูโรตอนเป็นนักเตะ และ คว้าแชมป์โลกได้ในฐานะผู้จัดการทีม แถมยังเป็นบัลลงดอร์ทึ่หาคนมาทำลายเรื่องนี้ได้ยากยิ่ง
ดิดิเยร์ เดส์ชองส์
เขาเคยถูก เอริก คันโตนา วิเคราะห์ว่า เป็นได้แค่เด็กหิ้วน้ำให้เพื่อนร่วมทีม เนื่องจากมีเทคนิคในการเล่นไม่มากเท่ากับบรรดาศิลปินลูกหนังร่วมรุ่น เขาจึงใช้สมอง และ สองแรงขาทำงานอื่นจนทีมขาดไม่ได้
ซึ่งในท้ายที่สุดเขาสามารถกลายเป็นตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และ ฟุตบอลยูโร 2000
ก่อนจะขึ้นชั้นมารับงานคุมทีมชาติจนเป็นรองแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 แล้วมาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์โลก 2018 ได้
ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เดส์ชองส์ ขาดกำลังสำคัญมากมายหลายคนจาก 4 ปีที่แล้ว แต่เขากลับพาลูกทีมเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ โดยมี โมร็อกโก ทีมประวัติศาสตร์แห่งแอฟริกาเป็นคู่แข่ง
ถ้าเขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง เขาจะเป็นผู้จัดการทีมคนที่สองในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ป้องกันแชมป์ได้
รวมทั้งจะเป็นผู้จัดการทีมรายแรกของโลก ที่เป็นแชมป์ยูโร กับ แชมป์โลกตอนเป็นผู้เล่น และ คว้าแชมป์โลกได้ 2 สมัยในฐานะผู้จัดการทีม
เด็กหิ้วน้ำคนนี้มาไกลมาก ๆ ยิ่งกว่าสุดยอดผู้จัดการทีมทุกคน
#ติดตามทุกเรื่องราวกีฬาได้ที่ www.Playnowthailand.com