ญี่ปุ่น ทำโลกตะลึง พลิกแซงชนะ สเปน 2-1 คว้าแชมป์กลุ่ม พร้อมเขี่ยอดีตแชมป์โลก 4 สมัย เยอรมนี ที่ชนะ คอสตาริกา 4-2 ตกรอบ
ฟุตบอลโลก 2022 กลุ่มอี นัดสุดท้าย
คืนวันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2565
สนาม : คาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล, กาตาร์
ญี่ปุ่น 2-1 สเปน
ผู้ทำประตู : 0-1 อัลบาโร โมราตา น.11, 1-1 ริสึ โดอัน น.48, 2-1 อาโอะ ทานากะ น.52
ก่อนลงสนาม “ซามูไรบลู” มี 3 คะแนน รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม พบกับ “กระทิงดุ” ที่มี 4 แต้ม นำจ่าฝูง โดยทีมใดชนะ จะเข้ารอบทันที
ครึ่งแรกแค่ 11 นาที อัลบาโร โมราตา โหม่งให้ อดีตแชมป์โลก 2010 ออกนำไปก่อน 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
แต่ครึ่งหลัง ญี่ปุ่น มาทำได้ 2 ประตูรวดจาก ริสึ โดอัน ตัวสำรอง นาทีที่ 48 และ อาโอะ ทานากะ นาทีที่ 52
หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ญี่ปุ่น พลิกชนะ สเปน 2-1 มี 6 แต้ม จบแชมป์กลุ่ม เข้ารอบไปเจอ โครเอเชีย ส่วน สเปน มี 4 แต้ม แต่ยังเข้ารอบเป็นที่ 2 ไปเจอ โมร็อกโก
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
ญี่ปุ่น : ชูอิจิ กอนดะ, โค อิตาคุระ, มายะ โยชิดะ , โชโกะ ทานิงุจิ, จุนยะ อิโตะ, ฮิเดมาสะ โมริตะ, อาโอะ ทานากะ, ยูโตะ นากาโตโมะ, ไดจิ คามาดะ, ไดเซน มาเอดะ, ทาเคฟุสะ คุโบะ
สเปน : อูไน ซิมอน, เซซาร์ อัซปิลิกวยตา, โรดรี, เปา ตอร์เรส, อเลซานโดร บัลเด – กาบี, เซร์คิโอ บุสเกตส์, เปดรี, นิโก วิลเลียมส์, อัลบาโร โมราตา, ดานี โอลโม
สนาม : อัล เบย์ท สเตเดียม, กาตาร์
คอสตาริกา 2-4 เยอรมนี
ผู้ทำประตู : 0-1 แซร์จ กนาบรี น.10, 1-1 เยลต์ซิน เทเยดา น.58, 2-1 ฮวน ปาโบล วาร์กัส น.70, 2-2 ไค ฮาแวร์ตซ์ น.73, 2-3 ไค ฮาแวร์ตซ์ น.85, 2-4 นิคลาส ฟูลล์ครุก น.89
ก่อนลงสนาม คอสตาริกา มี 3 คะแนน รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม พบกับ เยอรมนี ที่มี 1 แต้ม อยู่อันดับสุดท้าย
ครึ่งแรกนาทีที่ 10 “อินทรีเหล็ก” ได้ประตูออกนำ 1-0 จากลูกโหม่งของ แซร์จ กนาบรี และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง คอสตาริกา จะได้ 2 ประตูรวดจาก เยลต์ซิน เทเยดา นาที 58 และ ฮวน ปาโบล วาร์กัส นาที 70 พลิกแซงนำ 2-1
แต่ “อินทรีเหล็ก” บุกหนักและมาได้ 3 ลูกรวดจาก 2 ตัวสำรอง ไค ฮาแวร์ตซ์ คนเดียวสองประตู นาที 73,85 ปิดท้ายด้วย นิคลาส ฟูลล์ครุก นาที 89
จบเกม เยอรมนี ชนะไป 4-2 มี 4 แต้ม แต่ตกรอบด้วยประคได้เสียเป็นรอง สเปน
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริง
คอสตาริกา : เกย์ลอร์ นาวาส, ออสการ์ ดูอาร์เต, เคนดัลล์ วัสตัน, ฮวน ปาโบล วาร์กัส, เกย์เชอร์ ฟูลเลอร์, เซลโซ บอร์เกส, เยลต์ซิน เทเยดา, ไบรอัน โอเวียโด, บรันดอน อากีเลรา, โจเอล แคมป์เบลล์, โยฮัน เวเนกัส
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์, โยชัว คิมมิช, นิคลาส ซูเล, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด รอม, อิลคาย กุนโดกัน, เลออน โกเรตซ์กา, แซร์จ กนาบรี, จามาล มูเซียลา, ลีรอย ซาเน, โธมัส มุลเลอร์
