จากข่าวที่ เต๋า UrBoy TJ ออกมาประกาศขอพักสภาพจิตใจไปรื้อฟื้นการหาความหมายแห่งการมีชีวิตให้ตนเอง
สำหรับผู้เขียนถือว่าน่าตกใจนะคะ เพราะในฐานะเอฟซี และ เห็นเขาออกงานหน้าจอด้วยความสนุกสนานมาตลอด จึงไม่เคยระแคะระคายเลยว่าเต๋ากำลังต้องการความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง
ซึ่งโรคซึมเศร้า ที่ในภาษาอังกฤษให้คำจำกัดความถึงอาการได้อย่างชัดเจนว่า Depression (ดีเปรสชัน) คือภัยเงียบที่เป็นมรสุมคอยคุกคามพวกเราชนิดแทบไม่รู้ตัวเลย
ผู้เขียนเคยเขียนถึง แสตน คอลลีมอร์ อดีตกองหน้าคนดังในยุค สไปซ์ บอย แห่งลิเวอร์พูล ที่เคยเป็นผู้ประสบปัญหากับอาการซึมเศร้านี้ และ เคยได้รับบทเรียนชีวิตว่า หากคนรอบข้างที่ควรเข้าใจไม่เข้าใจ การใช้ชีวิตหลังจากนั้นจะยากมากขึ้นไปอีก
โดย สแตน เดอะ แมน ได้เริ่มมีอาการซึมเศร้าราวปี 1998 ซึ่งเป็นสมัยที่ค้าแข้งให้กับ แอสตัน วิลล่า ยุคที่มีคนหนุ่มอย่าง จอห์น เกรกอรี คุมทีม
เมื่อเขาได้นำเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับผู้จัดการทีม เพื่อหวังว่าคนเป็นเจ้านายจะเข้าใจ และ ให้กำลังใจดีๆ ในฐานะหัวหน้างาน
แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมากลายเป็นว่า “มันเรื่องของ….” เมื่อเขาถูก เกรกอรี ย้อนกลับมาด้วยคำถามยอดฮิตที่ผู้ป่วยที่เป็นคนดังล้วนต้องเจอ นั่นก็คือ
ในเมื่อมีทั้ง เงิน กับ ชื่อเสียง ทำไมยังทำตัวมีปัญหาอีก คนอื่นที่มีสภาพแย่กว่ายังอยู่ได้เลย
ซึ่งประโยคที่ เกรกอรี ได้คุยกับเขาในวันนั้นก็คือ “นายมีอะไรจะต้องเครียด ในเมื่อนายได้รับค่าแรงสัปดาห์ละ 20,000 ปอนด์ (24 ปีที่แล้ว)”
รวมทั้งยังไปให้สัมภาษณ์กับนักข่่าวภายหลังจากที่ คอลลีมอร์ ได้เปิดเผยอาการป่วยของตนเองออกไปให้สาธารณะชนรับรู้ว่า
“ในฐานะผู้จัดการทีม ผมสามารถช่วยได้เฉพาะคนที่เป็นนักกีฬาเท่านั้น แต่ผมไม่สามารถไปช่วยดูแลหัวใจของทารกได้”
ซึ่งจากสิ่งที่พวกเราได้รับทราบมาทั้งหมด ต้องถือว่า คอลลีมอร์ โชคดีมากๆ แล้วนะคะ ที่ยังรอดชีวิตอยู่ แล้วรักษาตัวเองจนหาย และ คอยให้คำแนะนำ หรือ ช่วยเหลือคนที่ประสบปัญหานี้อยู่ในปัจจุบัน
::
สิ่งที่ คอลลีมอร์ พยายามสื่อสารไปยังบุคคลรอบข้างของผู้ที่ป่วย หรือ บุคคลที่สงสัยว่าจะป่วย ก็ประมาณว่า
ถ้าคุณให้กำลังใจใครไม่เป็น คุณก็แค่เงียบๆ แล้วตบบ่าพวกเขาเบาๆ
ถ้าคุณไม่รู้วิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง คุณก็อย่าพูดอะไรที่มันทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ลง
ถ้าคุณสังเกตุเห็นถึงความผิดปกติที่แปลกไปจากทุกๆ วัน คุณควรพาพวกเขาไปหาแพทย์
หรือ ถ้าคุณต้องใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขา คุณแค่ต้องเข้าใจ และ อดทน แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นก็ตาม
เพราะหากว่าคุณลืมตัวจนเผลอทำให้พวกเขารู้สึกว่า เขาไม่ได้เป็นคนที่ถูกรักอีกต่อไปแล้ว หลังจากนั้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น พวกเขาอาจหมดรักตัวเองจนเลือกหาทางออกด้วยการจบชีวิตของตนเองลง
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม