ความรักที่แฟนบอลอังกฤษมีต่อประเทศของตัวเอง ทำให้พวกเขาส่งความเกลียดชังไปสู่ เดวิด เบ็คแฮม ที่ต้องโทษใบแดงจนพ่ายแพ้ต่อทีมชาติอาร์เจนตินาในฟุตบอลโลก 1998
การตกรอบครั้งนั้นส่งผลให้ เบ็คแฮม กลายเป็นแพะของชาติในหมู่แฟนบอล และ ประชาชนทั่วไป รวมถึงคนในทีมบางคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์นั้นในภายหลัง
ว่ากันว่าในประวัติศาสตร์ของวงการกีฬา เบ็คแฮม ถูกเกลียดชังจากคนในชาติของตนเองมากที่สุด และ รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ความเกลียดนั้นขยายวงออกไปยังคนในครอบครัวของเขา มีการส่งจดหมายด่า มีการขู่ฆ่า มีการแขวนคอตุ๊กตา และ อีกสารพัด โดยมีสื่อคอยขยายความรุนแรง จนทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำชับให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนช่วยกันดูแล
สโมสรกางปีกแห่งปีศาจโอบอุ้มบุคลากรคนสำคัญ และ แฟนบอลของทีมล้วนเอาใจช่วยท่ามกลางเสียงโห่ผสมเสียงด่าจากทุกสนามที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเยือน
ความรักจากฝั่งซัพพอร์ตเบ็คส์ ปะทะ ความเกลียดสาธารณะ
จนกระทั่งฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2002 นัดสุดท้าย ทีมชาติอังกฤษ พบ ทีมชาติกรีซ ที่หลายคนมองว่านี่คือเทพนิยายของเบ็คแฮม
เกมนั้นแข่งกันที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด บ้านของกัปตันทีมชาติอังกฤษ
แม้ในตอนนั้นกระแสเกลียดชังจะจางลงไปมากแล้ว แต่ เบ็คแฮม ยังคงคสนใจแฟนบอลหลายคน
เกมดังกล่าวกลายเป็นการสร้างให้ เบ็คแฮม โดดเด่นที่สุดในสนาม ทั้งความใจสู้ ฟอร์มการเล่น และ ศักดิ์ศรีของปลอกแขนกัปตันทีม
แต่ถ้าเกมจบลงที่ กรีซ บุกมาชนะ 1-2 ทุกอย่างที่เขาทำลงไปจะไม่มีค่าอะไรทั้งสิ้น
จนกระทั่งหมึกหยดสุดท้ายของคนเขียนนิยายสะบัดตอนจบลงบนผืนหญ้าในนาทีที่ 90+3
ลูกฟรีคิกปลุกความรักของเขาลอยเข้าไปตุงตาข่าย ไม่น่าที่จะมีใครในประเทศไม่รักเขา ทุกคนสลัดทิ้งเรื่องในอดีตทิ้งไปหมด เหลือเอาไว้แต่การยอมรับว่า เดวิด เบ็คแฮม เป็นกัปตันทีมชาติที่เก่งมากของพวกเขา
ทีมชาติอังกฤษเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่งให้เยอรมนีไปเล่นรอบเพลย์ออฟแทน
ถ้าฤดูร้อนเมื่อปี 1998 เป็นวันเกลียดชังแห่งชาติ เมื่อความรักชาติของคนในชาติร่วมใจกันบดขยี้หนุ่มหน้าใสวัย 23 ปี
ในวันที่ 6 ตุลาคม 2001 จะกลายเป็นวันวาเลนไทน์ที่แสนหวานสำหรับ เบ็คแฮม และคนอังกฤษทุกคน
