ฤดูกาล 1986/87 แกรี ลินิเกอร์ ย้ายมาร่วมทีม บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 2.8 ล้านปอนด์ พ่วงมาด้วยรางวัลดาวซัลโวฟุตบอลโลก 1986 และ ดาวซัลโวลีกอังกฤษ 2 สมัย
เขาตอบแทนสโมสรด้วยการยิง 41 ประตูใน 2 ฤดูกาลแรก จนเป็นดาวซัลโวประจำทีมทั้ง 2 ปีแรก
แต่การมาของ โยฮัน ครัฟฟ์ ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของดาวยิงชั้นนำของโลกวัย 28 ปี ลงโดยสิ้นเชิง
“การมาของเขานั้นน่าตื่นเต้นมากๆ สำหรับทุกคน แต่ก็มาพร้อมกับความยุ่งยากในตำแหน่งของผมด้วย
เขาส่งผมลงไปเล่นด้านข้างซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของผม เราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขายืนยันว่าความเร็วของผมเหมาะกับตำแหน่งปีก
ใช่ ผมมีความเร็ว แต่ผมไม่มีทักษะที่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ทำให้ผมต้องทำตามคำสั่งของเขาด้วยความเป็นมืออาชีพ แต่ผมไม่เคยลงเล่นด้วยความสุขอีกเลย
ในยุคที่ยังมีการลิมิตโควต้านักเตะต่างชาติ 2 คน เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการส่งคนที่เขาซื้อข้ามาลงสนามมากกว่าผม ทั้งที่ระบบของเขาเหมาะสมกับผมมากในตำแหน่งกองหน้า แต่ผมถูกส่งลงไปเป็นปีก
แน่นอนว่าผมยังได้ลงสนามเรื่อยๆ แต่ความรู้สึกของผมบอกว่ากำลังถูกบีบให้ย้ายออกจากทีม”
สุดท้าย โยฮัน ครัฟฟ์ พิสูจน์ว่าตนเองตัดสินใจถูกต้อง เมื่อ ฆูลิโอ ซาลีนาส กองหน้าคนใหม่ทำไป 26 ประตู ส่วนทีมคว้าแชมป์ยูฟา คัพ วินเนอร์ส คัพ 1989 กับ อันดับสองลาลีกา
แล้วผ่าตัดทีมจนสามารถคว้าทุกแชมป์ที่ลงแข่งขันในทวีปยุโรป โดยเฉพาะฤดูกาล 1991/92 เจ้าบุญทุ่มได้ดับเบิ้ลแชมป์จาก ลาลีกา และ ยูโรเปี้ยนคัพ สมัยแรกของสโมสร
ลินิเกอร์ ย้ายกลับอังกฤษไปที่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จนได้แชมป์เอฟเอคัพร่วมกับนายเก่า เทอร์รี เวนาเบิลส์ พร้อมคว้ารางวัลดาวซัลโวลีกอังกฤษเป็นครั้งที่สาม
