เกล็นน์ ฮอดเดิล อดีตตำนานนักเตะของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กลายเป็นทั้งตำนาน และ ความชังขี้หน้าของแฟนบอลสโมสร สวินดอน ทาวน์
เมื่อมิดฟิลด์เท้าชั่งทองเป็นกุนซือคนแรกของสโมสรที่พาทีมขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดของอังกฤษได้จากการเลื่อนชั้นเมื่อฤดูกาล 1992/93
พรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 1993/94 จึงเป็นเหมือนความฝันสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรแห่งนี้
แต่เมื่อ ฮอดเดิล ได้รับการชักชวนจาก เชลซี ที่มีบรรดาศักดิ์สูงกว่า กุนซือคนหนุ่มแห่งยุคนั้นจึงอำลาทีมเก่าไปแบบทอดทิ้งให้เผชิญหน้ากับความแปลกใหม่ที่มาตรฐานสูงทันที
แม้ว่าเขาจะปลูกฝังการเล่นภาคพื้นดินอันสวยงามเอาไว้ แต่ด้วยมาตรฐานผู้เล่น มาตรฐานของคู่แข่งที่สูงขึ้น ฤดูกาลแห่งความฝันของพวกเขาจึงกลายเป็นหายนะที่ไม่มีใครลืมลง
จอห์น กอร์แมน ผู้จัดการทีมป้ายแดงถูกรับน้องใน 15 นัดแรกด้วยสถิติชนะ 0 เสมอ 6 แพ้ 9 ยิงได้ 13 เสีย 35 ประตู อันเป็นการออกสตาร์ทที่ขี้เหร่ที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดของอังกฤษ
แยน อาร์เก ฟอร์ทอฟท์ หัวหอกตัวความหวังที่ถูกดึงเข้ามาด้วยสถิติของสโมสรออกสตาร์ท 26 (ลงสนาม 20) นัดแรกด้วยการคลำเป้าเจอ 0 ประตู แม้จะมาฟอร์มเข้าฝักใน 16 นัดสุดท้ายด้วยการทำไป 12 ลูก แต่ก็สายเกินไปแล้ว
การพ่ายยับต่อ ลิเวอร์พูล 0-5, เซาธ์แฮมป์ตัน 1-5, อาร์เซนอล 0-4, เอฟเวอร์ตัน 2-6, แอสตัน วิลลา 0-5, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-7 (แพ้-ชนะมากสุดในยุคนั้น(ร่วม)) และ แพ้ ลีดส์ 0-5 ปิดท้ายฤดูกาล
ในท้ายที่สุด สวินดอน ตกชั้นด้วยการสร้างสถิติเป็นทีมแรก และ ทีมเดียวของพรีเมียร์ลีกที่ถูกกระหน่ำตาข่ายถึง 100 ประตู จาก 42 นัด
รวมทั้งตกเป็นทีมอันดับบ๊วยนับตั้งแต่จบแมตช์ที่สามของฤดูกาลจนจบฤดูกาล ซึ่งเป็นระยะเวลานานถึง 260 วัน อันเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์
โดยหลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับขึ้นมาอีกเลย
ผลงานน่าจำที่สุดนอกจากจำนวนสกอร์ของหัวหอกนอร์เวย์แล้ว การได้ 6 แต้มจาก ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส, การชนะทีมใหญ่อย่าง สเปอร์ส และ บุกไปเสมอได้, การชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน กับ โคเวนทรี รวมทั้งการยันเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นั่นจึงทำให้พวกเขามีความทรงจำที่ดีอยู่พอสมควร
