นัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ 1991 เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม “พอล แกสคอยน์” ได้หยอกล้อ “เจ้าหญิงไดอาน่า” ด้วยการบรรจงประทับริมฝีปากลงบนหลังมือของเจ้าหญิงแห่งเวลส์
ซึ้งใกล้ๆ กันนั้นมี “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” มกุฎราชกุมาร ทรงยืนทักทายผู้เล่นคนอื่นอยู่ด้วย
ผลหลังจากนั้นก็คือ พอล แกสคอยน์ ฮีโร่ของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในรอบรองชนะเลิศ ได้เข้าปะทะอย่างรุนแรงใส่ แกรี ปาร์คเกอร์ กับ แกรี ชาร์ลส์ ถึงสองครั้ง
โดยครั้งแรกยันใส่บริเวณกลางลำตัวของของ ปาร์คเกอร์ และ ครั้งที่สองเสียบล่างใส่ ชาร์ลส์ บริเวณหน้ากรอบเขตโทษฝั่งตัวเอง
ทั้งสองครั้งไม่มีแม้แต่ใบเหลืองจากผู้ตัดสิน โรเจอร์ มิลฟอร์ด แต่มีอาการบาดเจ็บจากการเสียบครั้งสอง โดยที่คนถูกเสียบแค่เดินกระเพลก
สจวร์ต เพียซ กัปตันทีมเจ้าป่ารับหน้าที่ยิงฟรีคิกตุงตาข่ายให้ทีมขึ้นนำไปก่อน 1-0
แกสคอยน์ อยู่ในสนามอีกเพียงนาทีเดียวก็ตัองออกจากสนามไปในที่สุด ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างรุมตำหนิผู้ตัดสินที่ไม่ไล่ออกจนมีผลต่อเกมในวันนั้น
พอล สจวร์ต ยิงตีเสมอ 1-1 และ ยังมีส่วนร่วมกับ แกรี แมบบัตต์ บีบจน เดส วอล์คเกอร์ ปราการหลังจอมแกร่งทำเข้าประตูตัวเองจนเป็นประตูชัยของไก่เดือยทอง
จบเกมวันนั้น แกสคอยน์ พลาดลงสนามในซีซั่นถัดมาทั้งฤดูกาล และ ว่ากันว่าการเสียบในวันนั้นเปลี่ยนชีวิตของเขาโดยสิ้นเชิง