การแต่งตั้ง พาทริก ไคลเวิร์ต เข้ามาเป็นโค้ชทีมชาติอินโดนีเซียของ เอริก โทเฮียร์ นายกสหพันธ์ลูกหนังของอินโดนีเซีย เป็นการเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ ดัตช์ คอนเนคชัน ของนายกอย่างแท้จริง
โทเฮียร์ อดีตเจ้าของ ดีซี ยูไนเต็ด และ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของร่วม อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาจะสร้างทีมชาติด้วยการใช้นักเตะที่มีสายเลือดอินโดนีเซียในลีกต่างชาติเข้ามาใช้งาน
ดังนั้นการใช้ ไคลเวิร์ต ที่พอมีผลงานแบบนี้โดยตรงจากการสร้างทีมชาติคูราเซา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวงการฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ไม่น้อย จึงเป็นสิ่งที่นายก PSSI คาดหวังว่าอินโดนีเซียจะได้รับเช่นกัน
เพราะแม้ ไคลเวิร์ต จะไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรในการคุมทีม แต่ด้วยชื่อเสียง คอนเน็กชัน พื้นเพ และ การเป็นแรงบันดาลใจ สำหรับเหล่าลูกครึ่ง หรือ ลูกเสี้ยวอินโดทุกคน ตรงนี้ทีมชาติอินโดนีเซียจะได้รับไปเต็มๆ
สัญญา 2+2 ปี กับภารกิจสำคัญที่ในเวลานึ้ อินโดนีเซีย อยู่ไม่ไกลเลยจริงๆ สำหรับการไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2026
เพราะในรอบคัดเลือกรอบสามของโซนเอเชีย ทีมชาติอินโดนีเซียมีแต้มห่างจาก ออสเตรเลีย อันดับสองอยู่แค่ 1 แต้ม และ มีโปรแกรมเหลืออีก 4 นัด ที่ต้องบอกว่ามีลุ้นมากๆ
ซึ่งในวันที่ 20 มีนาคมนี้ อินโดนีเซีย จะบุกไปเยือน ออสเตรเลีย เพื่อแต้มสำคัญในการลดช่องว่าง จากนั้นเปิดบ้านรับ บาห์เรน กับ จีน และ บุกไปเยือนญี่ปุ่น
4 นัดสำคัญนี้ล้วนมีส่วนในการปลด ชิน แทยัง แล้วแต่งตั้ง ไคลเวิร์ต มารับงานในช่วงที่พลาดไม่ได้สำหรับการที่จะสมควรได้ไปฟุตบอลโลก 2026 ในรอบนี้ทันที เพื่อที่จะไม่ต้องไปเสี่ยงในรอบต่อไป
