ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 30 เมื่อปี 2000 สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิลไม่ได้ส่งอดีตตำนาน หรือ ผู้ใหญ่ในสหพันธ์มาหาเสียงจากนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
แต่พวกเขาเลือกส่งทีมชาติชุดใหญ่มาหาเสียงสำหรับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2006
ซึ่งแม้จะไม่มี โรนัลโด ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งที่เจ็บที่สะบ้าจนพักยาวในซีซั่น 1999/2000
แต่พวกเขาก็มี บัลลงดอร์ 1999 นำทีมมาพร้อมกับทัพชุดใหญ่ที่มาแข่งตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ โดยผสมทีมชุดเล็กที่ต้องมาแข่งรายการนี้อยู่แล้ว
ผลการแข่งขันนัดนั้นจบลงท่ามกลางความสุขใจของแฟนบอลชาวไทย ซึ่งน่าเป็นเพียงครั้งเดียวที่คอบอลไทยยิ้มรับผลการพ่ายแพ้ยับเยินที่สกอร์ 0-7 ด้วยความเต็มใจ
เพราะนั่นคือทีมชุดรองแชมป์โลก 1998 ที่นอกจาก ริวัลโด แล้วยังมี โรแบร์โต คาร์ลอส , คาฟู , ดิดา , โคเก จูเนียร์ ,เซ โรแบร์โต , จิโอวานนี เอลแบร์
แม้เกมจะขาดลอย แต่จากคำบอกเล่าที่ผู้เขียนสอบถามมา มีหนึ่งในผู้เล่นไทยที่ลงสนามวันนั้นที่น่าจะไม่ลืมทุกวินาทีที่เขาดวลกับ โรแบร์โต คาร์ลอส ในสงครามริมเส้นที่ต่างก็เอาจริง
สำหรับคิงส์คัพครั้งนั้น แม้ไทยจะแพ้บราซิลชุดใหญ่ แต่การที่เอาชนะเอสโตเนีย กับเสมอฟินแลนด์ และผลจากที่บราซิลชุดเล็กแพ้ 2 นัดที่เหลือ
จึงส่งผลให้ทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบชิงด้วยการมีแต้มในอันดับที่สองที่มีสกอร์ติดลบถึงหกลูก
แต่ในนัดชิงกับทีมชาติฟินแลนด์ ขุนพลไทยกลับระเบิดฟอร์มโหดถล่มไปได้ถึง 5-1 โดยเฉพาะแฮตทริกของโค้ชจุ่น ช่วยให้เราคว้าแชมป์ไปครองได้แบบสะใจแฟนบอลทุกคน