บิล เคนไรท์ นั่งอยู่ในตำแหน่งประธานสโมสรเอฟเวอร์ตัน นานกว่า 19 ปี
ในยุคสมัยของเขาอาจไม่เคยมีความสำเร็จใดมาให้แฟนบอลได้ชื่นชม นอกจากได้มีส่วนในฟุตบอลยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก จากการเป็นเพียงสโมสรเล็กๆ ไม่กี่ทีมที่สามารถสอดแทรกเหล่ามหาอำนาจฟุตบอลอังกฤษเข้าไปอยู่ในท็อปโฟร์นับจากยุค 2000s
เขาเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา จนน่าเสียดายที่มิอาจได้เห็นวันเปิดสนามแข่งแห่งใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จทันฤดูกาลต่อไป
การจากไปของเขานำความโศกเศร้ามาสู่เหล่าแฟนบอลได้ไม่นาน ข่าวร้ายชุดต่อมาก็ได้เข้าซัดสโมสรอีกครั้ง เมื่อมีความเสี่ยงที่จะถูกตัดแต้มจากการผิดกฎทางการเงินว่าด้วยหัวข้อขาดทุนเกินกำหนด
กฎ P&S หรือ Profitability and Sustainability ที่บังคับให้ทุกสโมสรต้องรักษาสถานะทางการเงินให้ดี และ ห้ามมีหนี้สินจนทำให้ตัวเลขในบัญชีขาดทุนมากเกินไปกว่า 105 ล้านปอนด์ ในระยะเวลา 3 ฤดูกาล
แต่ทว่างบในการก่อสร้างสนามแข่งแห่งใหม่ และจากวิกฤตการณ์โควิด 2019 รวมทั้งการลงทุนที่ไม่บรรลุเป้าของสโมสร ทำให้เอฟเวอร์ตันขาดทุนมากถึง 430 ล้านปอนด์ในช่วงเวลาดังกล่าว อันทำให้ต้องพึ่งพาการตบแต่งบัญชี และ ไม่สามารถกอบกู้สถานการณ์ทางการเงินได้เลย
ซึ่งถ้าผลการสอบสวนออกมาว่าผิดจริง เอฟเวอร์ตันจะถูกตัดแต้ม 12 คะแนน
แม้จะดูว่าโชคร้าย แต่อย่างน้อยก็ไม่เกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นี่จึงเป็นข้อดีข้อเดียวที่พวกเขายังพอยิ้มออก แล้วต้องมาภาวนาให้ ฌอน ไดซ์ พาทีมเก็บแต้มให้ได้เกิน 47 คะแนน
เพราะใน 2 ฤดูกาลล่าสุด เอฟเวอร์ตันดิ้นรนหนีตกชั้นได้สำเร็จด้วยการมีแต้มเกินที่ทีมอันดับ 18 ได้ไป 34-35 นั่นเอง
บิล เคนไรท์ จึงต้องช่วยบันดาลจิตใจให้สโมสรของเขารอดให้ได้ ไม่ได้ด้วยฝีมือก็ต้องด้วยแรงที่มองไม่เห็น