“ปราสาทสายฟ้า” โกงตาย โดนนำ 0-2 ไล่เจ๊า คองอัน ฮานอย 2-2 ต่อเวลาเสมอ 3-3 ก่อนดวลเป้าชนะ 3-2 คว้าแชมป์อาเซียนสุดระทึก เป็นถ้วยที่ 2 ในฤดูกาลนี้
ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรอาเซียน “ช็อปปี้ คัพ” 2024/25 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามช้าง อารีน่า “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับ คองอัน ฮานอย เอฟซี จากเวียดนาม หลังจากนัดแรก เสมอกันมา 2-2
ครึ่งแรก นาทีที่ 15 เจสัน เพนเดนท์ จ่ายบอลให้ ลีโอ อาร์ตูร์ แทงต่อถึง เหงียน กวง ไฮ สกิดบอลต่อเข้าเขตโทษ เจสัน เพนเดนท์ วิ่งเติมเกมทะลุหลุดเข้าไปทางซ้าย แล้วยิงบอลผ่าน ฉัตรชัย บุตรพรม นายด่านปราสาทสายฟ้า เข้าไปที่เสาไกลให้ คองอัน ฮานอย บุกนำ 1-0
นาทีที่ 39 จากจังหวะต่อเนื่องจากนาทีที่ 35 ผู้มาเยือนมาได้จุดโทษ หลังจาก VAR มองว่า ปีเตอร์ ซูลจ์ ไปแหย่เท้าสกัดบอลโดนผู้เล่น คองอัน ฮานอย ล้มลงในกรอบเขตโทษ เมื่อผู้ตัดสินวิ่งไปดูจอภาพช่วยตัดสิน แล้วกลับมาเป่าให้เป็นจุดโทษ ก่อนจะเป็น ลีโอ อาร์ตูร์ รับหน้าที่สังหารเข้าประตูไปให้ คองอัน ฮานอย นำห่าง 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ทำให้สกอร์รวม คองอัน ฮานอย นำอยู่ 4-2
ครึ่งหลัง นาทีที่ 83 ปราสาทสายฟ้า ที่โหมบุกกระหน่ำ เพื่อที่จะเอาประตูคืนให้ได้ ความพยายามก็มาประสบผลสำเร็จ ลูคัส คริสปิม ได้ยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลไปตรง ศุภชัย ใจเด็ด เด้งมาเข้าทาง ปีเตอร์ ซูลจ์ ยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเรียดเข้าประตูให้ บุรีรัมย์ ไล่มา 1-2
นาทีที่ 90+8 ปราสาทสายฟ้า มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษ ลูคัส คริสปิม ยืนประจำการอยู่ที่บอลสืบเท้าเข้าไปกดด้วยขวาข้างถนัดเต็มข้อ บอลพุ่งทะลุแนวกำแพงเสียบคานเด้งเข้าประตูไปให้ บุรีรัมย์ ตีเสมอเหลือเชื่อ 2-2 และจบ 90 นาที ทำให้สกอร์รวมเสมอกัน 4-4 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
นาทีที่ 105 จังหวะต่อเนื่องจากนาทีที่ 102 ปราสาทสายฟ้า มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ลูคัส คริสปิม กระชากบอลหนีผู้เล่นทีมเยือนขึ้นหน้าไปทางขวา ก่อนจะเปิดบอลไปโดนมือ เกียบ ตวน ดวง ที่วิ่งประคองตามมาแล้วยืนอยู่ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่านกหวีดพร้อมชี้เป็นจุดโทษ กิลเยร์เม บิสโซลี รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ บุรีรัมย์ แซงนำ 3-2
แต่นาทีที่ 118 ทีมเยือนได้เตะมุมทางซ้าย เหงียน กวง ไฮ เปิดบอลยาวไปที่เสาสอง อลัน กราฟิเต เทกตัวขึ้นโหม่งบอลเข้าประตูไปให้ คองอัน ฮานอย ตีเสมอ 3-3
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม 120 นาที บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสมอ คองอัน ฮานอย เอฟซี สุดมันส์ 3-3 สกอร์รวมเสมอ 5-5 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ
ผลปรากฏว่า ฉัตรชัย บุตรพรม กลายเป็นฮีโร่ เซฟ 3 จุดโทษให้ บุรีรัมย์ ชนะไป 3-2 สกอร์รวมชนะ 6-5 รวมผลสองนัดชนะ 8-7 คว้าแชมป์สมัยแรกไปครองอย่างสะใจ และเป็นถ้วยที่ 2 ในฤดูกาลนี้