มาซาทาดะ อิชิอิ ได้รับคำชมเป็นอย่างมากจากชัยชนะ 2-0 เหนือทีมชาติคีร์กีซสถาน คว้าสามแต้มแรกจากฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 นัดแรก
กุนซือชาวซามูไรทำให้แฟนบอลชาวไทยมีความหวังด้วยสไตล์การเล่นที่สนุก มีคุณภาพ และ วางนักเตะได้เข้ากับระบบของเขาอย่างค่อนข้างลงตัวมากๆ
ซึ่งเมื่อกางไลน์อัพ 11 ตัวจริงที่ลงสนามนัดแรก จะเห็นได้ว่าเขาใช้บริการ 7 ตัวในไทยลีก กับ 4 ตัวต่างแดน
โดยนักเตะจากไทยลีกแบ่งเป็น 4 ขุนพลบุรีรัมย์, 2 เมืองทอง และ 1 การท่าเรือ
ซึ่ง 7 นักเตะตัวจริงในสนามวันนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับ อิชิอิ โดยตรง
ปฏิวัติ คำไหม นายทวารที่เคยร่วมงานกันที่ สมุทรปราการ คือคนที่เป็นฐานแรกของ อิชิอิ ในการเซ็ตเกมด้วยเท้าจากแดนหลัง
แบ็คซ้าย กับ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้ายอย่าง ธีราทร กับ พรรษา เคยร่วมงานกันที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี กองกลางไดนาโมที่ตอบสนองแท็คติคได้ดีทั้งที่ สมุทรปราการ และ บุรีรัมย์
สองพี่น้องแนวรุกอย่าง ศุภณัฏฐ์ กับ ศุภโชค ที่บุรีรัมย์
และ อาร์ม ปืนกล ที่ถูก อิชิอิ ปั้นจนคว้าดาวซัลโวไทยลีกมาแล้ว
การคุมทีมนัดที่สองของ อิชิอิ ในแมตช์ที่มีความหมายต่ออนาคตของทีมไทยจึงค่อนข้างสะดวกมากๆ เมื่อเรารู้ว่า อิชิอิ มีนักเตะที่เคยเล่นในแท็คติคของเขาถึง 7 คน และ คุ้นเคยกับวงการฟุตบอลไทยมานานถึง 5 ปี
เขาจึงรู้ข้อเด่น กับ ข้อด้อยของตัวหลักหลายคน จนทำให้ทีมชาติไทยลงไปเล่นอย่างมีมิติตามคุณสมบัติของแต่ละคนภายใต้แท็คติคที่เคยฝึกซ้อมกันมาที่สโมสร
โดยเฉพาะการมีคู่มือใช้งาน ศุภชัย ใจเด็ด จนเหมาสองประตู อันทำให้อดคิดถึงคำแนะนำจาก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ไม่ได้ว่า ศุภชัย ไม่มีคนสนับสนุนเหมือนที่สโมสร จึงจำเป็นต้องปรับวิธีเล่น ซึ่งตรงประเด็นมากๆ เมื่อ อิชิอิ รู้ดีว่าจะใช้งานอย่างไร
อันทำให้นักเตะของเขาสนองตอบตามแผนการเล่นได้ไวมาก ซึ่งส่งผลออกมาในรูปของแผนการเล่นที่เป็นระบบ มีคุณภาพ และ มีทีมเวิร์คในแบบบอลที่ไม่ตัองเล่นมากจังหวะ หรือ ไม่เก็บบอลไว้กับตัวเกินความจำเป็น
ยิ่งเมื่อรวมกับสองตัวคุณภาพแบบ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ และ นิโคลัส มิเคลสัน ซึ่งมีคลาสบอลที่สมัยใหม่อยู่แล้ว รวมทั้งการเลือกเล่นถูกจังหวะของปีกจากคลองเตย ทีมชุดนี้จึงปรับจูนกันลงตัวได้อย่างน่าทึ่ง
แม้ว่ายังต้องยกระดับในอีกบางจุดก็ตาม เช่น เกมรับในจังหวะที่ถูกคุกคามเร็ว และ การใช้โอกาสเปลือง ซึ่งจะส่งผลกระทบที่ชัดเจนกว่านี้ในยามพบทีมที่มีคุณภาพ กับ ความแข็งแกร่งสูงกว่าคีร์กีซสถานในนัดต่อๆ ไป
แต่แนวทางการเล่นบอลเร็ว แม่นยำ สร้างโอกาสได้ดี เลือกเล่นได้ถูกเวลา และมีความฟิตพอสมควร น่าจะทำให้เรามีลุ้นเข้ารอบได้ รวมทั้งยังสามารถพัฒนาแท็คติกให้นึกเตะซึมซับได้มากยิ่งขึ้นกว่านี้ จนกระทั่งอาจกลายเป็นแนวทางฟุตบอลที่ถูกต้องของประเทศได้
ศาสตร์ข้อหนึ่งของการต่อสู้คือ “รู้เขา รู้เรา” อิชิอิ จึงมีความรู้เรามากๆ จากการคลุกคลีกับนักเตะ และ ไทยลีกมาหลายปี และ ถ้าเขาทำการบ้านกับคู่แข่งได้ดีอีกเรื่อง เราย่อมสามารถเชียร์ได้อย่างมีความสุข
จนบางทีเราอาจมีทีมชาติยุค Golden Generation ในมือของโค้ชรายนี้ แล้วอาจจะไปได้ไกลกว่าทีมยุคทองรุ่นที่แล้วที่เข้าสู่โหมดโรยราไปเกือบหมดทุกคนแล้ว เพราะว่าศาสตร์ของ อิชิอิ มีคุณภาพสูง แล้วดูว่าเข้ากับนักเตะของไทยดีกว่าโค้ชต่างชาติที่ผ่านมา
ขอเพียงสมาคมเดินหน้าให้ถูกทาง มีนายทุนคอยสนับสนุนเรื่องกระสุนไม่ให้ขาดสาย ปลูกฝังพิมพ์เขียวฟุตบอลที่ถูกต้องในระยะยาว ใส่วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ดี และ จริงใจในการร่วมกันพัฒนาฟุตบอลในทุกระดับ
รวมทั้งเหล่านักเตะก็ต้องเสริมสร้างวินัยความเป็นมืออาชีพให้มากกว่าพัฒนาสไตล์การใช้ชีวิตส่วนตัว และ แฟนบอลต้องเชียร์ฟุตบอลให้เป็น
จนทำให้ในอนาคตเราจะมีทรัพยากรที่มีคุณภาพมากขึ้นเหมือนกับ ญี่ปุ่น กับ เกาหลีใต้ ที่ผู้เล่นหลายรายกลายเป็นสินค้าส่งออกไปยุโรป จนทึมชาติสามารถเลือกหยิบนักเตะมาติดทีมชาติได้ตามความเหมาะสมของทัวร์นาเมนต์นั้นๆ
จนกระทั่งบางทีเราอาจได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก่อนญี่ปุ่นจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกก็ได้ ถ้าเราเคร่งครัดมากพอ