ชลบุรี เอฟซี ภายใต้การคุมทัพของ มาโกโตะ เทกุระโมริ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หลังเปิดบ้านแพ้ บีจี ปทุม 1-3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ทำให้ตารางไทยลีกเวลานี้ ชลบุรี หล่นไปอยู่ในโซนตกชั้น อันดับ 14 จากการลงเตะ 10 นัด มีแค่ 10 คะแนนจากผลงานชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 4 ซึ่งถือเป็นผลงานที่ไม่มีใครคาดคิด
เสมอ ตราด เอฟซี 2-2 (เยือน)
เสมอ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 0-0 (เหย้า)
แพ้ โปลิศ เทโร เอฟซี 2-3 (เยือน)
ชนะ ลำพูน วอริเออร์ 1-0 (เหย้า)
แพ้ อุทัยธานี เอฟซี 0-2 (เหย้า)
เสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-2 (เยือน)
เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน)
ชนะ ราชบุรี เอฟซี 2-1 (เยือน)
แพ้ สุโขทัย เอฟซี 2-3 (เยือน)
แพ้ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1-3 (เหย้า)
หลายคนมีคำถามในใจ เกิดอะไรขึ้นกับ “ฉลามชล” ? ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมื่อปี 2007 หลังจากนั้นค่อย ๆ ดาวน์ลง
แต่หลายคนรู้คำตอบดีว่า ชลบุรี ไม่ใช่ทีมที่ขับเคลื่อนด้วย “พลังเงิน” แต่เน้นสร้างระบบเยาวชน ปลุกปั้นอะคาเดมีจนก้าวขึ้นมาแกร่งในชุดใหญ่ ก่อนจำต้องขายเพื่อนำรายได้มาพยุงสโมสร
มาฤดูกาลนี้ บอร์ดบริหารชลบุรี ตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ด้วยการคว้าตัว มาโกโตะ เทกุระโมริ กุนซือชาวซามูไร โปรไฟล์ดี และน่าจะตอบโจทย์ของทีมได้ ทั้งในการพัฒนาดาวรุ่งและทำทีมด้วยงบประมาณที่จำกัด
ทว่าผลงาน 10 นัดแรกในไทยลีก กลับไม่เป็นอย่างที่แฟน ๆ “ฉลามชล” คาดหวัง จึงไม่แปลกที่ “เทกุซัง” จะตกเป็นเป้า
อย่างไรก็ตาม ใครที่เป็นสาวก “ฉลามชล” จะรู้ดีว่า ชลบุรี ไม่มีธรรมเนียมปลดโค้ชกลางทาง และนี่ยังไม่ทันจบเลกแรกเลยด้วยซ้ำ
สถานการณ์ในตอนนี้ จึงกล้าฟันธงได้เลยว่า บอร์ดบริหาร ชลบุรี ยังคงมั่นใจในตัว “เทกุซัง” จะสามารถปรับจูนทีมให้ดีขึ้นได้
2 ธ.ค. (เยือน) นครปฐม ยูไนเต็ด
10 ธ.ค. (เหย้า) การท่าเรือ เอฟซี
15 ธ.ค. (เยือน) พีที ประจวบ เอฟซี
23 ธ.ค. (เหย้า) เมืองทอง ยูไนเต็ด
28 ธ.ค. (เหย้า) ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
นี่คือ โปรแกรมส่งท้ายปี ไทยลีก 5 นัดสุดท้ายของ ชลบุรี ในเลกแรก ที่ต้องบอกเลยว่า “ไม่ง่าย”
แต่ถ้า ชลบุรี มั่นใจว่า “เทกุซัง” คือ “ของจริง” ที่จะเข้ามาสร้างทีมในระยะยาว ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว
เพราะผู้เขียนยังเชื่อว่า “ฉลามชล” จะฝ่าวิกฤตและโลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดต่อไปได้อย่างแน่นอน
